เอเอฟพี - กองกำลังรักษาความมั่นคงของพม่า เข้าบุกค่ายฝึกผู้ก่อการร้ายที่ควบคุมโดยกลุ่มก่อความไม่สงบชาวมุสลิมโรฮิงญา และสังหารคนในค่ายไป 3 ราย ในพื้นที่ทางเหนือของรัฐยะไข่ ตามการรายงานของสื่อทางการพม่าวันนี้ (22)
เจ้าหน้าที่ยังพบปืน กระสุน และดินปืน ภายในค่ายที่อยู่บนเทือกเขามายู ส่วนหนึ่งของพื้นที่ห่างไกลของชายแดนด้านตะวันตกเฉียงเหนือ ที่เป็นที่อยู่อาศัยส่วนใหญ่ของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญา
ชาวโรฮิงญา มากกว่า 70,000 คน ได้หลบหนีออกจากพื้นที่ไปยังบังกลาเทศตั้งแต่เดือน ต.ค. เมื่อกองกำลังรักษาความมั่นคงของพม่าเริ่มการปราบปรามอย่างรุนแรงตอบโต้เหตุโจมตีของผู้ก่อความไม่สงบที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตไป 9 นาย
ผู้หลบหนีชาวโรฮิงญาได้บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงว่าก่อเหตุสังหารเด็กทารก เผาคนทั้งเป็น และข่มขืนกระทำชำเรา ซึ่งผู้สืบสวนของสหประชาชาติระบุว่า อาจเทียบได้กับการก่ออาชญากรรมต่อมนุษยชาติ
รัฐบาลพม่าปฏิเสธที่จะอนุญาตให้สหประชาชาติดำเนินการสืบสวนหาข้อเท็จจริงในข้อกล่าวหาเหล่านั้น
สื่อของทางการรายงานว่า กองกำลังพบค่ายฝึกในสัปดาห์นี้ ที่ดำเนินการโดยคนกลุ่มเดียวกันกับที่ก่อเหตุโจมตีในเดือน ต.ค. นอกจากนั้น กองกำลังยังได้สังหารผู้โจมตีติดอาวุธ 3 คน เพื่อป้องกันตัวเอง ในปฏิบัติการกวาดล้างที่เริ่มขึ้นหลังได้รับข้อมูลว่า ผู้ก่อความไม่สงบกำลังซุ่มฝึกอยู่ในอุโมงค์ลับตอนกลางคืน
กลุ่มก่อการร้ายที่มีชื่อว่า กองทัพกอบกู้โรฮิงญารัฐยะไข่ หรืออัสรา Arakan Rohingya Salvation Army - ARSA) ได้รับการอุดหนุนจากเงินช่วยเหลือจากต่างประเทศ และใช้เวลาหลายเดือนฝึกศิลปะการต่อสู้ และการใช้อาวุธเบาให้แก่สมาชิก
รายงานยังกล่าวโทษ “ผู้ก่อการร้าย” สำหรับเหตุฆาตกรรมชาวบ้าน และแกนนำชุมชนท้องถิ่นเมื่อไม่นานนี้ ที่มีผู้เสียชีวิต 34 คน และถูกลักพาตัว 22 คน
แต่กลุ่มอัสรา ปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว โดยระบุว่า กลุ่มของพวกเขากำลังต่อสู้เพื่อสิทธิทางการเมืองของชาวโรฮิงญา.
