MGRออนไลน์ -- รัฐสภาเวียดนาม หรือ National Assembly โหวตลงมติ วันจันทร์ 19 มิ.ย.นี้ อนุมัติงบประมาณค่าใช้จ่าย ในการเคลียร์หน้าดินแหล่งก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ ในภาคใต้ของประเทศ เป็นเงินราว 1,000 ล้านดอลลาร์ หรือ 23 ล้านล้านด่งเงินเวียดนาม เพื่อให้สามารถดำเนินการได้ในทันที ซึ่งเป็นความคืบหน้าล่าสุด สำหรับสนามบินมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ ที่จะแบ่งการก่อสร้างออกเป็น 3 ระยะ โดยคาดว่าจะเริ่มลงมือได้ ในปี 2563 หรือ อาจจะก่อนหน้านั้น
ค่าใช้จ่ายในการเคลียร์หน้าดิน รวมทั้งการเวนคืนที่ดิน แยกออกจากมูลค่าก่อสร้างสนามบิน ที่ อ.ลองแถ่ง (Long Thanh) จ.โด่งนาย (Dong Nai) ซึ่งอยู่ห่างจากสนามบินนครโฮจิมินห์ ไปทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือราว 40 กิโลเมตร เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จในระยะ 10-15 ปีข้างหน้า จะเป็นสนามบินนานาชาติใหญ่ที่สุดในประเทศ
การโหวตลงมติวันจันทร์นี้ จะทำให้รัฐบาลสามารถเดินหน้าโครงการได้รวดเร็วขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือการอพยพโยกย้ายราษฎร ที่ได้รับผลกระทบ ราว 5,000 คน ออกจากอาณาบริเวณสนามบิน ไปยังแหล่งตั้งถิ่นฐานใหม่ แต่การถกเถียงเกี่ยวกับว่า จะสร้างสนามบินขนาดใหญ่แห่งนี้กันอย่างไร ก็จะยังดำเนินต่อไปอีกสักพัก เนื่องจากมีหลายส่วนงานที่เกี่ยวข้อง สื่อของทางการรายงาน
ปัจจุบันรัฐบาลเพียงแต่กำหนดวงเงินเอาไว้ 5 ล้านล้านด่ง สำหรับการดำเนินงาน หรือ เพียงประมาณ 21.7% ของ มูลค่าก่อสร้างสนามบินใหญ่ทั้งหมด ซึ่งรวมทั้งเงินมบประมาณเริ่มต้น สำหรับการเคลียร์หน้าดินนี้ด้วย
สำนักข่าวเวียดนามเอ็กซ์เพรสรายงาน อ้างนายหวูห่มแทง (Vu Hong Thanh) ประธานคณะกรรมาธิการเศรษฐกิจ รัฐสภา ที่ระบุว่าการประชุมเมื่อวันจันทร์นี้ ได้พิจารณาความแออัดของสนามบินเตินเซินเญิ๊ต (Tan Son Nhat) นครโฮจิมินห์ และ เห็นว่ามีความจำเป็นเร่งด่วน จะต้องดำเนินการก่อสร้างสนามบินลองแถ่งให้แล้วเสร็จโดยเร็วที่่สุด
สนามบินแห่งนี้ครอบคลุมเนื้่อที่ทั้งหมดกว่า 5,000 เฮกตาร์ (31,250 ไร่) เมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จทั้งสามระยะ จะสามารถรองรับผู้โดยสารได้ถึง 100 ล้านคนต่อปี สินค้าอีก 5 ล้านตัน โดยเฟสที่ 1 จะต้องแล้วเสร็จในปี 2568 รับผู้โดยสารได้ 25 ล้านคนต่อปี
เมื่อปีที่แล้วสนามบินนานาชาติโฮจิมินห์ รับผู้โดยสารถึง 32 ล้านคนต่อปี ขณะที่มีขีดความสามารถรับพียง 25 ล้านคนเท่านั้น เมื่อการก่อสร้างเฟสที่ 1 ของสนามบินแห่งใหม่ แล้วเสร็จอีก 8 ปีข้างหน้า จำนวนผู้โดยสารก็อาจจะเพิ่มขึ้นเป็น 50-52 ล้านคนต่อปี ซึ่งทั้งสองแห่งจะสามารถเฉลี่ย รับจำนวนที่เพิ่้มขึ้นได้
กระทรวงขนส่งเวียดนาม โดยรัฐวิสาหกิจการท่าอากาศยาน ได้พิจารณาคัดเลือกแบบสำหรับก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเมื่อเดือนที่แล้ว โดยเลือกเป็นรูปทรงดอกบัว อันเป็นดอกไม้ประจำชาติเวียดนาม เรื่องนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาขั้นตอนสุดท้าย โดยคณะรัฐมนตรี แต่ความกังวลใจอันแท้จริงก็ยังเป็นเรื่องเดิม ก็คือ การหาทุนสำหรับก่อสร้าง ซึ่งทั้งสามเฟสอาจจะต้องใช้เงินลงทุนถึง 16,000 ล้านดอลลาร์ (หรือ ประมาณ 568,000 ล้านบาท)
แผนการกอ่สร้างสนามบินลองแถ่งผุดขึ้นมา เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว แต่ต้องล้มลุกคลุกคลานมาตลอด รัฐบาลสมัยที่แล้วได้ปัดฝุ่นขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง แต่ถูกคัดค้านจากรัฐสภา ที่เกรงว่าประเทศอาจจะเป็นหนี้สินมากเกินไป ในขณะที่เวียดนามยังต้องการเงินทุนมหาศาล เพื่อนำไปใช้ในการพัฒนาด้านอื่นๆ
แต่ยิ่งเลื่อนการก่อสร้างเนิ่นนานออกไป มูลค่าของโครงการก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ตามอัตราเฟ้อของเงิน
เมื่อต้นเดือนนี้กระทรวงขนส่ง กับทางการนครโฮจิมินห์ได้ตัดสินใจ ก่อสร้างอาคารผู้โดยสารสนามบินเตินเซินเญิ๊ตอีก 1 หลัง บนพื้นที่ทางด้านตะวันออก ที่ซื้่อจากกองทัพอากาศ พร้อมกับเพิ่มทางวิ่งขึ้นลงอีก 1 รวม กับที่มีอยู่ในปัจจุบันเป็น 3 แต่นายกรัฐมนตรีเหวียนซวนฟุก กล่าวว่าโครงการการขยายสนามบินครั้งนี้ ควรจะผ่านการศึกษาอย่างรอบคอบเสียก่อน โดยบริษัทที่ปรึกษาที่มีประสบการณ์ ซึ่งได้ทำให้การก่อสร้างที่เริ่มขึ้นแล้ว ต้องหยุดชะงักลงอีก
ปัจจุบันสนามบินนานาชาติกรุงฮานอย ก็มีสภาพไม่ต่างกันกับในนครโฮจิมินห์ เนื่องจากจำนวนผู้โดยสารที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามจังหวะการเติบโตของอุตสาหกรรมการบินในประเทศ ทางการมีแผนการจะก่อสร้างอาคารผู้โดยสารอีก 1 หลังเช่นกัน ทั้งๆ ที่หลังที่ 2 เพิ่งเปิดใช้เมื่อไม่กี่ปีมานี้.