MGRออนไลน์ -- ทางการเวียดนามเปิดเผยตัวเลขอัปเดทล่าสุด เกี่ยวกับการเวนคืนที่ดินกว่า 30,000 ไร่ เพื่อก่อสร้างสนามบินใหญ่แห่งใหม่ ทางภาคใต้ของประเทศ โดยต้องอพยพประชาชนออกจากพื้นที่เกือบ 5,000 ครอบครัว รวมเป็นจำนวนเกือบ 15,000 คน ซึ่งผู้ได้รับผลกระทบเหล่านี้ จะถูกโยกย้ายไปยังที่ตั้งถิ่นฐานแห่งใหม่ และ มีการฝึกฝนอาชีพ เพื่อให้มีหลักประกันว่าจะมีชีวิตความเป็นอย่างที่ดีขึ้น หรืออย่างน้อยก็จะต้องไม่ด้อยลงกว่าเดิม
ไม่เพียงแต่ปัญหาการจัดการ เรื่องประชาชนที่ได้รับกระทบที่มีจำนวนมากขึ้นเท่านั้น ทางการยังเจอปัญหาใหม่ คือ ราคาที่ดินในย่านที่จะต้องเวนคืนนั้น พุ่งขึ้นเกือบเท่าตัว นับตั้งแต่มีการเผยแพร่ข่าว เกี่ยวกับรัฐสภาเวียดนามอนุมัติเงิน 5 ล้านล้านด่ง (1,000 ล้านดอลลาร์) ให้รัฐบาลดำเนินการในเรื่องนี้ เป็นการด่วน นอกจากนั้นก็ยังเป็นผลโดยตรงจากการที่มีกลุ่มทุน ออกกว้านซื้อที่ดินรอบๆ บริเวณที่จะก่อสร้างสนามบินแห่งใหม่ เพื่อเก็งกำไรอีกด้วย
รายละเอียดต่างๆ เหล่านี้ ปรากฎอยู่ในรายงานของคณะกรรมการชุดหนึ่งของทางการ จ.โด่งนาย (Dong Nai) ที่เสนอต่อ นายเลดี่งถ่อ (Le Dinh Tho) รัฐมนตรีช่วยกว่าการกระทรวงคมนาคม ที่นำคณะออกสำรวจหน้างาน ในเขต อ.ลองแถ่ง (Long Thanh) อันเป็นที่ตั้งของสนามบิน ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา สื่อของทางการรายงาน
เมื่อกล่าวถึงการเวนคืนที่ดิน 5,000 เฮกตาร์ (31,250 ไร่) และ การจ่ายค่าชดเชยให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบ ก็ได้พบว่าโครงการก่อสร้างสนามบินลองแถ่ง มีราษฎรที่ได้รับลผลกระทบทั้งหมด เกือบ 15,000 คน (ไม่ใช่ 5,000คน เช่นที่มีรายงานก่อนหน้านี้) ใน 4,730 ครอบครัว ใน 6 คอมมูน รวมทั้งหน่วยงานและองค์การของรัฐอีก 26 แห่ง ที่จะต้องอพยพออกไป
ทั้งหมดนี้ได้ทำให้ค่าใช้จ่ายในการเคลียร์ไซต์ก่อสร้าง บานปลายออกไปอีก จากเริ่มแรกที่คำนวณเอาไว้ประมาณ 583 ล้านดอลลาร์ ต่อมาเพิ่มขึ้นเป็น 630 ล้าน และ เป็น 1,000 ล้านดอลลาร์โดยยังไม่ทราบแน่ชัดว่า จะเพิ่มขึ้นเป็นเงินเท่าไรในที่สุด
ทางการจังหวัดนี้ ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของราษฎร เกี่ยวกับความต้องการพื้นฐาน และ ได้พบว่าส่วนใหญ่วิตกกังวลเกี่ยวกับอนาคต เกี่ยวกับที่อยู่แห่งใหม่ และ การงานอาชีพ จังหวัดเห็นว่าจำเป็นจะต้องฝึกฝนอาชีพ โดยต้องมีการจัดตั้งสถาบันขึ้นมา เป็นศูนย์กลางในการศึกษาและฝึกอบรมอาชีพใหม่ ภายใต้หลักการที่ว่า "ประชาชนจะต้องมีชวิตที่ดีขึ้นในสถานที่แห่งใหม่ หรือ อย่างน้อยต้องไม่ด้อยไปกว่าสถานที่เดิม"
.
2
ตามข้อมูลของทางการระดับท้องที่ อ.ลองแถ่ง นั้น ราว 70% ของประชาชนที่ได้รับผลกระทบ เป็นผู้ประกอบอาชีพเกษตรกรรม อีกจำนวนมากทำงานเป็นคนงานสวนยางพารา และ งานรับจ้างอื่นๆ
รายงานของทางการท้องถิ่นยังกล่าวถึงสถานการณ์ที่ดินรอบๆ พื้นที่สนามบินในปัจจุบันว่า ราคาพุ่งขึ้นรวดเร็วมาก ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่สามารถควบคุมได้ โดยเกิดจากองค์ประกอบหลายประการ รวมทั้งการเก็งกำไรด้วย
กระทรวงขนส่งได้ขอให้ทางการจังหวัด ศึกษาลงในรายละเอียด รวมทั้งตัวแปรที่ทำให้เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เพื่อจัดทำแผนการจ่ายเงินชดเชย ให้แก่ราษฎรที่มีสิทธิ์ได้รับ โดยเร็วที่สุด รวมท้้งการจัดที่อยู่แห่งใหม่ และจัดหาอาชัพงานทำ ซึ่งทั้งหมดนี้รวมอยู่ในงบประมาณ 5 ล้านล้านด่ง สื่อของทางการกล่าว
ปัจจุบัน จ.โด่งนาย มีนิคมอุตสาหกรรมอยู่ 3 แห่ง ซึ่งรวมทั้งนิคมอุตสาหกรรมอมตะ ขนาด 350 เฮกตาร์ (2,187 ไร่) ของนักลงทุนไทย กับนิคมอุตสาหกรรมลอง ขั้นที่ 2 ในเนื้อที่ราว 300 เฮกตาร์ อยู่ห่างจากแหล่งที่ตั้งถิ่นฐานใหม่ออกไปราว 100 กิโลเมตร ซึ่งจะช่วยรองรับสร้างงานให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบ จากโครงการสนามบินได้นับพันๆคน
ระหว่างก่อสร้างสนามบินลองแถ่ง ที่จะเริ่มในปี 2562 รวมทั้งหลังจากนั้น จะมีการจ้างงานอย่างมากมาย ซึ่งจะต้องฝึกฝนฝีมือแรงงานด้านต่างๆ เตรียมพร้อมให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบ หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงาน.