เอเอฟพี - ศาลเวียดนาม ตัดสินจำคุกนักเคลื่อนไหว 2 ราย เป็นเวลามากกว่า 10 ปี ในวันนี้ (16) หลังพบความผิดจากความพยายามที่จะดำเนินการปฏิวัติประชาธิปไตย ตามการเปิดเผยของทนายความ
ประเทศเผด็จการแห่งนี้ใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ ที่มีถ้อยคำกำกวม ในการควบคุมผู้เห็นต่างกับรัฐ และมีบทลงโทษจำคุกเป็นระยะเวลานาน ที่มักถูกกลุ่มสิทธิมนุษยชน และชาติตะวันตกวิพากษ์วิจารณ์อยู่เป็นประจำ
ในวันศุกร์ (16) ศาลใน จ.ท้ายบิ่ง ทางภาคเหนือของประเทศ ได้ตัดสินความผิดต่อ นายเจิ่น แอ็งห์ คิม อายุ 67 ปี และนายเล แถ่ง ตุ๋ง อายุ 48 ปี ฐานพยายามที่จะโค่นล้มรัฐบาลด้วยการตั้งกองกำลังประชาธิปไตยเพื่อการปฏิวัติ ทนายความของจำเลยระบุ
คิม อดีตนายทหาร ได้รับโทษจำคุกนาน 13 ปี ขณะที่ตุ๋ง ได้รับโทษจำคุกนาน 12 ปี และทั้งคู่จะถูกคุมประพฤติอีก 5 ปี หลังรับโทษ
นักเคลื่อนไหวทั้งสองคนถูกจับกุมตัวอีกครั้งเมื่อปีก่อน เพียงไม่กี่เดือนหลังจากพวกเขาเพิ่งพ้นโทษจำคุกฐานกระทำผิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ
ทนายความของตุ๋ง กล่าวหลังการพิจารณาคดีว่า ลูกความของเขาถูกตั้งข้อหาอย่างไม่ถูกต้อง
“มันเป็นเพียงความตั้งใจ กฎหมายของเวียดนามไม่ได้ห้ามประชาชนมีความตั้งใจที่จะก่อตั้งสมาคม” ทนายความกล่าว
ขณะที่ทนายความของคิม ก็ระบุว่า การพิจารณาคดีไม่ยุติธรรม
ในเวียดนามนั้น หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และโทรทัศน์ทุกช่องอยู่ในความควบคุมของรัฐ ซึ่งดัชนีเสรีภาพสื่อล่าสุดขององค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดนจัดให้เวียดนามอยู่ในอันดับที่ 175 จาก 180 ประเทศ
ในช่วงหลายปีมานี้ บล็อกเกอร์ และนักเคลื่อนไหวใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางในการแสดงความคิดเห็นต่อต้านรัฐ แต่ก็มักถูกควบคุมตัว และคุมขังอยู่เป็นประจำ ซึ่งองค์การนิรโทศกรรมสากล ระบุว่า มีนักโทษทางความคิดอย่างน้อย 45 คน ถูกขังอยู่ในเวียดนาม.