xs
xsm
sm
md
lg

หน่วยงานสิทธิมนุษยชนเปรียบพม่าปราบปรามโรฮิงญาเข้าข่ายก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ภาพถ่ายดาวเทียมหมู่บ้านชาวมุสลิมแห่งหนึ่งในเมืองหม่องดอ ที่บันทึกภาพไว้เมื่อวันที่ 10 พ.ย. และนำออกเผยแพร่โดยฮิวแมนไรท์วอช เผยให้เห็นพื้นที่ที่เคยมีสิ่งปลูกสร้างถูกเผาทำลายจนกลายเป็นรอยสีดำ ขณะที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติระบุว่าการปราบปรามชาวโรฮิงญาของพม่านั้นเข้าข่ายเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชน.  -- Reuters/Human Right Watch.</font></b>

เอเอฟพี - หน่วยงานด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ระบุว่า ชาวโรฮิงญาในพม่าอาจเป็นเหยื่อของการก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ ขณะที่อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ นายโคฟี อันนัน เดินทางถึงพม่า เพื่อสรุปสถานการณ์รัฐยะไข่

กองทัพทหารพม่าได้ดำเนินการปราบปรามอย่างรุนแรงในรัฐยะไข่ ส่งผลให้ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมหลายพันคนหลั่งไหลหนีตายข้ามพรมแดนไปบังกลาเทศตลอดเดือนนี้ ซึ่งมาพร้อมกับเรื่องราวเกี่ยวกับการข่มขืน การทรมาน และสังหาร โดยกองกำลังรักษาความมั่นคงของพม่า

ชาวโรฮิงญาราว 30,000 คน ต้องกลายเป็นผู้พลัดถิ่นหลบหนีออกจากที่อยู่อาศัยตนเอง และจากการวิเคราะห์ภาพถ่ายดาวเทียมโดยฮิวแมนไรท์วอช ยังพบว่า สิ่งปลูกสร้างหลายร้อยหลังในหมู่บ้านชาวโรฮิงญาถูกเผาวอด

พม่าปฏิเสธข้อกล่าวหาว่ากระทำการละเมิดสิทธิ โดยระบุว่า กองทัพกำลังค้นหาผู้ก่อการร้ายที่อยู่เบื้อหลังการโจมตีด่านตำรวจเมื่อเดือนก่อน และรัฐบาลยังได้ตำหนิรายงานของสื่อเกี่ยวกับการข่มขืน และสังหาร และยื่นประท้วงเจ้าหน้าที่สหประชาชาติในบังกลาเทศที่กล่าวหาว่า พม่ากำลังดำเนินการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮิงญา

เมื่อวันอังคาร (29) สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (OHCHR) ระบุว่า การปฏิบัติของพม่าต่อชาวโรฮิงญาอาจเข้าข่ายเป็นการก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ ซึ่งตอกย้ำข้อค้นพบในรายงานเมื่อเดือน มิ.ย.

ชาวโรฮิงญามากกว่า 120,000 คน ใช้ชีวิตในสภาพแออัดภายในค่ายผู้พลัดถิ่น นับตั้งแต่เกิดเหตุความรุนแรงทางศาสนา ในปี 2555 ซึ่งคนเหล่านี้ถูกปฏิเสธสิทธิการเป็นพลเมือง การเข้าถึงการดูแลสุขภาพ และการศึกษา รวมทั้งถูกจำกัดความเคลื่อนไหวอย่างเข้มงวด

“รัฐบาลพม่าล้มเหลวเป็นส่วนใหญ่ที่จะดำเนินการตามการแนะนำในรายงานของสำนักงานสิทธิมนุษยชนสหรประชาชาติ ที่ยกความเป็นไปได้ว่ารูปแบบของการละเมิดสิทธิชาวโรฮิงญานั้นอาจเทียบได้กับการก่ออาชญากรรมต่อมวลมนุษยชาติ” OHCHR ระบุในคำแถลงฉบับหนึ่ง

ท่ามกลางวิกฤตที่ขยายตัวขึ้นนี้ นายโคฟี อันนัน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ ได้เริ่มต้นการเยือนพม่าเป็นเวลา 1 สัปดาห์ ที่รวมทั้งการเดินทางเยือนรัฐยะไข่

เมื่อเดือน ส.ค. อองซานซูจี ได้แต่งตั้งนายโคฟี อันนัน ให้เป็นหัวหน้าคณะกรรมการพิเศษในการสืบสวนเพื่อหาวิธีที่จะแก้ไขความแตกแยกทางเชื้อชาติและศาสนาที่ทำให้รัฐยะไข่ถูกแบ่งแยก

นายอันนัน ได้แสดงความรู้สึกวิตกกังวลต่อสถานการณ์ความรุนแรงในรัฐยะไข่ ที่ยังปรากฏให้เห็นชาวมุสลิมหลายพันคนที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจโกรธแค้นออกมาชุมนุมประท้วงตามถนนทั่วเอเชีย

แต่ นายเอ วิน สมาชิกชาวมุสลิมในคณะกรรมการรัฐยะไข่ ได้กล่าวปกป้องการจัดการวิกฤตของซูจี

“มือของซูจีถูกมัดไว้ เธอไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ แต่สิ่งที่เธอกำลังทำคือ พยายามพูดคุยเจรจาและสร้างความไว้วางใจแก่กองทัพ” เอ วิน กล่าว โดยชี้ไปยังกองทัพที่ยังคงควบคุมการรักษาความมั่นคงและการป้องกันประเทศ ภายใต้รัฐธรรมนูญที่เขียนขึ้นโดยรัฐบาลเผด็จการทหาร.
.
<br><FONT color=#000033>ทหารพม่าพร้อมอาวุธหนักออกลาดตระเวนตามพื้นที่ต่างๆ ในเมืองหม่องดอ ใกล้ชายแดนบังกลาเทศ โดยทหารถูกระดมกำลังลงพื้นที่ในรัฐยะไข่ นับตั้งแต่เกิดเหตุผู้ก่อความไม่สงบเข้าโจมตีด่านตำรวจจนทำให้มีเจ้าหน้าที่เสียชีวิต 9 นาย.  -- Agence France-Presse/Khine Htoo Mrat.</font></b>
.
กำลังโหลดความคิดเห็น