เอเอฟพี - เกิดเหตุการต่อสู้ระลอกใหม่ในพื้นที่ภาคเหนือของพม่า ใกล้ชายแดนจีน ทำให้มีพลเรือนเสียชีวิต 2 ราย วันนี้ (20) ในเหตุการปะทะกันครั้งล่าสุดที่ทำลายความหวังของอองซานซูจี ผู้นำรัฐบาลพลเรือนพม่า ที่จะบรรลุข้อตกลงสันติภาพทั่วประเทศ หลังตกอยู่ในสงครามกลางเมืองมานานหลายปีตามพื้นที่ชายแดนของชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์ที่มีอยู่หลายกลุ่มในประเทศ
ชาวบ้านในเมืองมูเซะรายงานว่า การต่อสู้เริ่มขึ้นในช่วงเช้ามืดของวันนี้ (20)
“คนที่ด่านหนีเข้าไปในเมืองเพราะมีการต่อสู้กันอย่างหนัก” เอ เอ ชาวเมืองมูเซะ กล่าว
“ผู้เสียชีวิตเป็นชาย 1 คน และหญิง 1 คน เพราะบาดแผลจากกระสุนปืนหลังพวกเขามาถึงโรงพยาบาลเมื่อเช้านี้ และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราว 25 คน” เจ้าหน้าที่โรงพยาบาล กล่าว
การต่อสู้ระหว่างทหารพม่า และกองทัพกะฉิ่นอิสระ (KIA) ในรัฐกะฉิ่น ที่จุดชนวนขึ้นอีกครั้งในปี 2554 หลังจากข้อตกลงหยุดยิงนาน 17 ปี ล่มลง ทำให้ประชาชนราว 100,000 คน ต้องอพยพ และไหลทะลักเข้าไปในพื้นที่บางส่วนของรัฐชาน
เมืองมูเซะ ตั้งอยู่ทางเหนือของรัฐชาน ไม่ไกลจากรัฐกะฉิ่น และมีแม่น้ำกั้นกลางกับจีน
ตัวแทนฝ่ายกบฏ 2 คน ยืนยันว่ากองกำลังของพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องในการปะทะที่เกิดขึ้นนี้
“เรากำลังต่อสู้ร่วมกันกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่เป็นพันธมิตรของเรา” ข่าย ตู ข่า จากกองทัพอาระกัน กล่าว
ฝ่ายกบฏกล่าวว่า กลุ่มที่เกี่ยวข้องประกอบด้วย KIA กองทัพอาระกัน กองทัพปลดปล่อยแห่งชาติตะอาง และกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติพม่า ซึ่ง 3 กลุ่มหลังนี้ ไม่ได้ถูกเชิญให้เข้าร่วมการเจรจาสันติภาพครั้งที่ผ่านมา
หนึ่งในสิ่งสำคัญลำดับต้นของซูจี คือ ข้อตกลงสันติภาพกับกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ที่ต่อสู้กับกองทัพ แต่การต่อสู้ที่ยังดำเนินอยู่ในรัฐกะฉิ่น และรัฐชานกำลังบ่อนทำลายการเจรจาสันติภาพที่คาดว่าจะใช้เวลาหลายปีในการยุติความขัดแย้งอันซับซ้อนนี้
เมื่อเดือน ก.ย. การปะทะกันครั้งใหม่ระหว่างกองทัพพม่า และกลุ่มกบฏปะทุขึ้นในรัฐกะเหรี่ยง ส่วนเวลานี้ พื้นที่ครึ่งหนึ่งทางเหนือของรัฐยะไข่ก็อยู่ภายใต้การปิดล้อมทางทหารหลังเกิดเหตุการโจมตีฐานชายแดนเมื่อเดือนก่อน ทำให้ประชาชนมากกว่า 30,000 คน ต้องย้ายออกจากที่อยู่อาศัย และมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 70 คน ในการต่อสู้ที่เกิดขึ้นล่าสุด.