xs
xsm
sm
md
lg

ลาวดัดหลังขาช็อปอุดรฯ หิ้วกลับบ้านเจอ VAT 10% ทันทีที่ด่าน ดีเดย์ ต.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>ภาพวันสุดสัปดาห์ เดือน ก.ค.2557 เป็นปรากฏการณ์ รถติดยาวเหยียดที่บริเวณด่านสะพานมิตรภาพ 1 คลื่นนักช็อปจากเวียงจันทน์ ขับรถข้ามแดนเข้าหนองคาย เพื่อจับจ่ายซื้อหาสินค้าอุปโภคบริโภค หลายรายเลยไปจนถึงอุดรธานี ที่มีห้างสรรพสินค้าหรู ชาวเวียงกล่าวว่า สินค้าฝั่งไทยราคาถูกกว่าในเมืองหลวงของลาว ถึงแม้ที่นั่นจะมีห้างสรรพสินค้าทันสมัย ผุดขึ้นมามากมายแล้วก็ตาม สินค้าไทยยังครองใจชาวลาว สถานการณ์แบบที่เห็นนี้ก็ยังเห็นอยู่ -- แต่เดือน ต.ค.นี้ ทุกอย่างอาจจะเปลี่ยนไป ด้วยมาตรการโหด VAT 10%. </b>

MGRออนไลน์ -- ลาวจะเริ่มบังคับใช้มาตรการ จัดเก็บภาษามูลค่าเพิ่ม 10% ในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ที่ด่านศุลกากรทุกแห่งทั่วประเทศ รวมทั้งที่ท่าอากาศยานด้วย ตามรข้อกำหนดใหม่ของกระทรวงการเงินนี้ ผู้ที่นำสิ่งของหรือสินค้าติดตัวเข้าประเทศ จะต้องจ่าย VAT ซึ่งจะทำให้ชาวลาว โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มที่ข้ามแดน มาจับจ่ายซื้อหาสินค้าในประเทศเพื่อนบ้าน ได้พบว่าข้าวของที่ซื้อจากฝั่งนี้ราคาไม่ได้ถูกอีกต่อไป

ข้อกำหนดดังกล่าว จะยกเว้นให้แก่ผู้โดยสารรถโดยสาร หรือเครื่องบิน ฯลฯ ที่เดินทางเข้าประเทศในลักษณะชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ประจำ และ นำสินค้าสิ่งของเครื่องใช้ติดตัวไป โดยไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อการค้า แต่จะต้องสำแดงสิ่งของที่ด่านศุลกากรชายแดน รวมทั้งที่ท่าอากาศยานทั่วประเทศ แต่ทั้งนี้สินค้าที่นำติดตัวจะต้องมีมูลค่าไม่เกิน 50 ดอลลาร์ โดยคิดเทียบอัตราแลกเปลี่ยนเป็นเงินกีบของลาว

กระทรวงการเงินประกาศเรื่องนี้ให้ทราบล่วงหน้า ตั้งแต่เดือน ส.ค. แต่เมื่อข้อกำหนดแพร่ออกสู่โลกออนไลน์ ได้ทำให้เกิดความสับสนพอสวมควร เช่นเดียวกันกับความไม่พอใจ ของชาวลาวจำนวนหนึ่ง

ทางการกล่าวว่า มาตรการ VAT 10% เป็นการคุ้มครอง และให้ความเป็นธรรมแก่ธุรกิจที่นำเข้าสินค้า และเสียภาษีให้รัฐ อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ควบคุมการฉวยโอกาสของคนกลุ่มน้อยนิด และ ลดการรั่วไหลของเงินตราออกนอกประเทศ

แต่ข้อกำหนดที่ประกาศใช้อย่างเป็นทางการวันที่ 30 ส.ค. ฉบับนี้ก็ไม่ได้จำเพาะเจาะจง กับด่านชายแดนทางบก หรือ บังคับใช้แต่เฉพาะชาวลาว

ในคำสั่งฉบับหนึ่ง ที่ลงนามโดยนายสมดี ดวงดี รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการเงินนั้น ข้อกำหนดจะบังคับใช้กับทั้งพลเมืองลาว ชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าลาว และ บุคคลต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อาศัยทำกินในลาว บังคับใช้ทั้งด่านชายแดนทางบก ด่านศุลการตามท่าอากาศยานทุกแห่ง ทั้งสนามบินสากล และสนามบินในประเทศ สื่อของทางการรายงาน

ประกาศของทางการระบุในรายละเอียดว่า ผู้โดยสารที่เดินทางผ่านด่านชายแดนเป็นครั้งคราว หรือ ไม่มีลักษณะประจำ และ ได้ซื้อสิ่งของเครื่องใช้ติดตัวเพื่อนำไปใช้ โดยสิ่งของไม่มีลักษณะเพื่อการค้า หรือ จุดประสงค์ทางการค้า มีมูลค่าไม่มาก และ เป็นสิ่งของเพื่อใช้ในการดำรงชีพ จะได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่ม 10% ถ้าหากมูลค่าของสิ่งของเหล่านั้นไม่เกิน 50 ดอลลาร์ ส่วนที่เกินจะต้องแจ้งเสียภาษามูลค่าเพิ่มตามมูลค่าที่เป็นจริง

กรมภาษี กระทรวงการเงิน จะเริ่มดำเนินการเรื่องนี้ตั้งแต่ต้นเดือน ต.ค.เป็นต้นไป หนังสือพิมพ์ปะเทดลาว รายงานในเว็บไซต์ วันจันทร์ที่ผ่านมา แต่ทันทีที่ข่าวนี้แพร่ออกไป ได้ทำให้ชาวออนไลน์หลายคนกล่าวว่า มาตรการนี้กำลังจะเปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ของรัฐหาประโยชน์ใส่ตัวเองได้มากขึ้น

"เจ้าหน้าที่ภาษี" หรือ ศุลการักษ์ ได้ตกเป็นจำเลยของสังคมมาโดยตลอด ชาวโดยชาวจำนวนมากกล่าวว่า เจ้าหน้าที่รัฐกลุ่มนี้แอบร่ำรวยเงียบๆ ใช้จ่ายมือเติบฟุ้งเฟ้อเกินตัว มีบ้านหลังใหญ่ มีรถยนต์นั่งคันโต แอบซื้อที่ดินสะสมเอาไว้คนละหลายแปลง เรื่องนี้สะท้อนออกมา ในบทปราศัยของรัฐมนตรีว่าการคนใหม่ ต่อที่ประชุมพรรคสาขากระทรวง เมื่อไม่นานมานี้ และ ก่อนหน้านี้ ทางการได้ออกปฏิเสธ การกล่าวหาผ่านสื่อออนไลน์ตลอดมาเช่นกัน

แต่ไหนแต่ไรมา ชาวลาวจำนวนมากนิยมข้ามแดน มาจับจ่ายซื้่อหาสินค้าอุปโภคบริโภค จากห้างสรรพสินค้าหรือร้านค้าแบบซูเปอร์สโตร์ทางฝั่งไทย แต่หลายคน "หิ้ว" กลับไปเพื่อการขาย โดยเฉพาะอบ่างยิ่งชาวนครเวียงจันทน์ จะข้ามมาซื้อหาสิ่งของใน จ.หนองคาย ไปจนถึงอุดรธานี ชาวเมืองหลวงจำนวนมากนิยมเดินทางเข้าไทย โดยรถยนต์ส่วนตัว ทำให้เกิดการจราจรติดขัดยาวเหยียด ในชั่วโมงเร่งด่วน

แต่ชาวลาวจำนวนไม่น้อยกล่าวว่า ข้าวของในประเทศมีราคาแพงมาก ของกินของใช้ทุกอย่างราคาแพงทั้งสิ้น สื่อของทางการรายงานในช่วงกลางเดือน ส.ค.ปีนี้ว่า ชาวนครเวียงจันทน์จำนวนมาก ยังคงเดินทางเข้าไทยเพื่อซื้อหาข้าวปลาอาหาร เครื่องสำอางค์ แม้กระทั่งน้ำดื่ม จาก จ.หนองคาย และ อุดรธานี โดยหลายคนกล่าวว่า น้ำดื่มบริสุทธิ์บรรจุขวดในไทย ราคาถูกกว่าน้ำดื่มที่ผลิตในลาว จำหน่ายในเมืองหลวงของลาวเอง

บางคนกล่าวว่า น้ำดื่มในลาวราคาขวดละ 3,000-4,000 กีบ (12.8-17.10 บาท) ส่วนในประเทศไทย ขวดบรรจุขนาดเท่ากัน ราคาเพียง 1,000-1,500 กีบเท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้ผลิตน้ำดื่มในประเทศ เอาเปรียบประชาชน และ ถ้าหากจะให้ชาวลาวหยุดข้ามแดน ไปซื้อหาสินค้าในประเทศเพื่อนบ้าน ก็จะต้องมีทางเลือกมากขึ้น และมีความเป็นธรรม สินค้ามาตรฐานเดียวกัน ผลิตในลาวควร มีราคาถูกกว่าของไทย

ด่านชายแดนสะพานมิตรภาพ 1 เวียงจันทน์หนองคาย เป็นประตูเข้าออกใหญ่ที่สุด ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้าน และ ยังเป็นประตูค้าขายข้ามแดนใหญ่ที่สุดอีกด้วย

ตามตัวเลขของสำนักงานพาณิชย์จังหวัดหนองคาย ไตรมาสแรกของปี 59 (ม.ค.-มี.ค.) 2559 มูลค่ารวมการค้าสองฝ่าย เพิ่มขึ้นเป็น 15,435 ล้านบาท เป็นส่งออก 13,718 ล้านบาท และนำเข้า 1,717 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,003 ล้านบาท หรือ 6.95% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ 2558

สินค้าส่งออกมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ น้ำมันปิโตรเลียม รถยนต์นั่งพร้อมเครื่องปรับอากาศขับเคลื่อน 4 ล้อ และ เครื่องดื่ม รวมถึงน้ำอัดลมที่มีน้ำตาล หรือสารทำให้หวานอื่นๆ ส่วนสินค้านำเข้าจาก สปป.ลาว 3 อันดับแรก คือรถยนต์นั่งที่มีกระบะใหม่ เครื่องยนต์ดีเซลไม่เกิน 3,000 ซีซี ชุดสายไฟรถยนต์สำเร็จรูป สายเคเบิ้ล และ ส่วนประกอบของรองเท้าด้านบน

ทั้งหมดนี้เป็นตัวเลขการค้าผ่านระบบอย่างเป็นทางการ ไม่ได้รวมตัวเลขมูลค่าสินค้า ที่ชาวลาวข้ามแดนมาจับจ่ายซื้อหา ที่เคยมีการประเมินกันว่า เป็นเงินนับพันล้านบาทในแต่ละปี.
กำลังโหลดความคิดเห็น