MGRออนไลน์ -- การลดภาษีศุกกากรนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตในประเทศสมาชิก ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC ที่เริ่มมีผลบังคับใช้ในปีนี้ ทำให้เวียดนามนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตในประเทศไทยมากที่สุด โดยอาศัยสภาพภูมิศาสตร์ ที่เป็นเพื่อนบ้านใกล้เคียงกัน ขนส่งทางบกได้สะดวก ในขณะที่คูแข่งสำคัญซึ่งได้แก่มาเลเซียกับอินโดนีเซียนั้นอยู่ไกลออกไป
สื่อเวียดนามรายงานในวันอังคาร 19 เม.ย.นี้ อ้างตัวเลขกรมใหญ่ศุลกากร (General Department of Customs) ที่แสดงให้เห็นว่า ในไตรมาสที่ 1 ของปี 2559 นี้ มีการนำเข้ารถยนต์ชนิดต่างๆ ที่ผลิตในประเทศไทย เข้าสู่ตลาดเวียดนามกว่า 7,800 คัน ทำให้รถยนต์ที่ประกอบในไทย กลายเป็นเบอร์ 1 แทนเจ้าตลาดเดิม ซึ่งได้แก่รถยนต์จากเกาหลีและจีน
ตัวเลขการนำเข้ารถยนต์จากไทยในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.ทีผ่านมา เพิ่มพรวด 64.5% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว ในขณะเดียวกัน จำนวนรถยนต์นำเข้าจากเกาหลีลดวูบลง 41% เช่นเดียวกับรถยนต์ที่นำเข้าจากจีน ซึ่งลดฮวบลงในทันที 58% รวมเป็นจำนวน 2,560 และ 2,260 คันตามลำดับเตื่อยแจ๋ออนไลน์รายงานในเว็บไซต์ข่าวภาษาเวียดนาม
กระทรวงการเงินเวียดนามอธิบายว่า สาเหตุหลักที่ทำให้การนำเข้ารถยนต์จากไทยเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนั้น เนื่องมาจากพันธสัญญาทางภาษีการค้าอาเซียน ซึ่งตั้งแต่ปีนี้ภาษีนำเข้ารถยนต์ภายในกลุ่มได้ลดลงจาก 50% เหลือ 40% และ จะเป็น 30% ในปี 2560 จนเหลือเป็น 0% ในปี 2561
ผู้ค้ารถยนต์ได้ใช้สิทธิพิเศษทางภาษีนี้ ซึ่งจะทำให้การนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตจาก 2 แหล่งใหญ่ ภายในประชาคมเศรษฐกิจ คือ ไทยกับอินโดนีเซีย เพิ่มขึ้น ประเทศสมาชิกอื่นๆ ก็อยู่ภายใต้ข้อตกลงทางภาษีเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นบรูไน กัมพูชา ลาว อินโดนีเซีย พม่า มาเลเซีย ฟิลิปปินส์และสิงคโปร์
ในช่วงเดือน ม.ค.-มี.ค.ที่ผ่านมา เวียดนามนำเข้ารถยนต์กว่า 19,700 คัน ลดลง 16.8% เทียบกับช่วงเดียวกันปีที่แล้ว
ในขณะที่ลดภาษีศุลกากรสำหรับรถยนต์ที่นำเข้าจากประเทศสมาชิกประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ตั้งแต่เดือน ก.ค.เป็นต้นไป คือครึ่งหลังของปี เวียดนามจะปรับอัตราภาษีศุลกากรรถยนต์นำเข้า ที่ติดเครื่องยนต์ขนาดใหญ่ ซึ่งจะทำให้ราคาแพงขึ้นอีกมาก เป็นการรักษาเสถียรภาพของตลาดรถยนต์ภายในประเทศ
รถที่ใช้เครื่องยนต์ 2.5-3 ลิตร จะปรับภาษีศุลกากรขึ้นจาก 50% ในปัจจุบัน เป็น 55% และ จาก 60% เป็น 90% สำหรับเครื่องยนต์ 3-4 ลิตร หนังสือพิมพ์เตื่อยแจ๋รายงานเมือวันจันทร์ อ้างนายบุ่ยกิมข่า (Bui Kim Kha) รองประธานสภามาคมผู้ประกอบรถยนต์เวียดนาม ( Vietnam Automobile Manufacturers' Association)
.
2
ภาษีศุลกากรใหม่จะสูงถึง 130% สำหรับรถเครื่องยนต์ 5-6 ลิตร และ 150% สำหรับเครื่องยนตร์ขนาดใหญ่กว่า 6 ลิตร ซึ่งจะทำให้ รถยนต์หลายรุ่น เช่น Lexus RX350 (จากญี่ปุ่น) ที่ติดเครื่องยนต์ขนาด 3.5 ลิตร มีราคาสูงกว่า 3.9 พันล้านด่ง (174,107 ดอลลาร์) จากราว 3.3 พันล้านด่ง (147,321 ดอลลาร์) ราคาปัจจุบัน
รถเกีย (Kia) เซโดนา (Sedona) ที่ผลิตในเกาหลี ซึ่งติดเครื่องยนต์ ขนาด 3.3 ลิตร ราคาแพงขึ้นอีก 200 ล้านด่ง หรือ 8,929 ดอลลาร์ นายกิมข่ากล่าว
แต่ในเดือนเดียวกัน กระทรวงการเงินจะปรับอัตราอากรสรรพสามิตสำหรับรถยนต์ ที่ใช้เครื่องยนต์ไม่เกิน 1.5 ลิตรลง จากปัจจุบัน 45% เหลือเพียง 40%
การปรับอัตราภาษีศุลกากร และ อากรสรรพสามิต จะทำให้รถยนต์นั่งส่วนบุคคลขนาดเล็ก (Sub-Compact) ไม่เกิน 1.5 ลิตร ราคาถูกลง 446-892 ดอลลาร์ต่อคัน เป็นอย่างน้อย ขึ้นอยู่กับยี่ห้อและรุ่น รองประธาน VAMA กล่าว
ตามตัวเลขรวมของกรมใหญ่ศุลกากร ในไตรมาสแรกของปีนี้ เวียดนามนำเข้ารถบรรทุกขนาดและชนิดต่างๆ เพิ่มขึ้น 16% เป็นจำนวน 9,860 คัน รถโดยสารขนาด 9 ที่นั่งขึ้นไปเพิ่มขึ้น 37.6% รวมจำนวนเกือบ 6,900 คัน รถยนต์เพื่อการพาณิชขย์ชนิดอื่นๆ อีกกว่า 3,000 คัน แต่เป็นอัตราที่ลดลง 45.6% เตื่อยแจ๋กล่าว.