เอพี - เวียดนาม มีจุดมุ่งหมายที่จะแก้ปัญหาข้อพิพาทดินแดนในทะเลจีนใต้กับจีนผ่านการเจรจาในระดับทวิภาคี แม้ไม่ได้ปฏิเสธการดำเนินการตามกฎหมายระหว่างประเทศก็ตาม เมื่อฟิลิปปินส์ได้ชัยชนะทางกฎหมายจากศาลอนุญาโตตุลาการถาวรเมื่อไม่นานนี้ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามระบุ
“นโยบายของเราคือ การแก้ไขข้อพิพาทด้วยสันติวิธีตามกฎหมายของประเทศ และสหประชาชาติ และเราค่อนข้างให้ความสำคัญต่อการเจรจาในระดับทวิภาคี” เล ฮว่าย จุง กล่าว
“สำหรับเรา ทุกวิธีของการแก้ไขปัญหาอย่างสันติล้วนมีความสำคัญ รวมถึงศาลอนุญาโตตุลาการถาวร แต่เราให้ความสำคัญต่อการเจรจาในระดับทวิภาคี” เล ฮว่าง จุง ให้สัมภาษณ์นอกรอบการประชุมความมั่นคงของภูมิภาค ที่กำลังจัดขึ้นในลาว
“ปัจจัยสำคัญคือคุณต้องมีความหวังดี และการอ้างสิทธิอธิปไตยของคุณต้องอยู่บนพื้นฐานของกฎหมายระหว่างประเทศ และกฎหมายระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง เราควรใช้ทุกอย่างที่เรามีในการส่งเสริมมิตรภาพ และส่งเสริมการเจรจา และไม่มองว่าใครชนะหรือแพ้ ดังนั้น การอดทนอดกลั้น และความพยายามที่จะก้าวไปข้างหน้าด้วยจิตวิญญาณที่สร้างสรรค์และแง่บวก และการทำงานเพื่อมิตรภาพ” เล ฮว่าย จุง กล่าว
จีนอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือน่านน้ำเกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ ซึ่งบางส่วนทับซ้อนกับการอ้างสิทธิอธิปไตยของฟิลิปปินส์ เวียดนาม บรูไน และมาเลเซีย มีเพียงฟิลิปปินส์ที่นำข้อพิพาทยื่นฟ้องต่อศาลอนุญาโตตุลาการถาวร ในกรุงเฮก ที่มีคำตัดสินไปเมื่อต้นเดือน ซึ่งจีนระบุว่า ไม่ยอมรับอำนาจศาลต่อกรณีพิพาทนี้ และปฏิเสธคำตัดสิน
จีน และเวียดนามมีข้อขัดแย้งดินแดนมายาวนานในบริเวณหมู่เกาะสแปรตลีย์ และหมู่เกาะพาราเซล ในทะเลจีนใต้ ความตึงเครียดระหว่างสองประเทศพุ่งสูงขึ้นในปี 2557 หลังจีนเคลื่อนแท่นขุดเจาะน้ำมันขนาดใหญ่เข้าไปในบริเวณหมู่เกาะพาราเซล
ปัจจุบัน จีนเป็นคู่ค้ารายใหญ่ที่สุดของเวียดนาม สองประเทศพยายามที่จะสานความแก้ไขฟื้นฟูความสัมพันธ์ด้วยการแลกเปลี่ยนการเยือนของเจ้าหน้าที่ระดับสูง แม้ความตึงเครียดเกี่ยวกับหมู่เกาะพิพาทยังคงมีอยู่ก็ตาม
เล ฮว่าย จุง กล่าวว่า เวียดนามแก้ไขปัญหาพรมแดนของประเทศกับกัมพูชา ลาว จีน และมาเลเซียผ่านการเจรจาในระดับทวิภาคี และไม่มีเหตุผลใดที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาทะเลจีนใต้ไม่สามารถดำเนินไปได้ด้วยวิธีการเดียวกันนี้.