รอยเตอร์ - รัฐสภากัมพูชา มีมติวานนี้ (30) อนุญาตศาลดำเนินการสืบสวนผู้นำพรรคฝ่ายค้านที่ถูกกล่าวหาว่า ซื้อบริการหญิงโสเภณี ในการลงมติที่อาจผลักดันประเทศให้เข้าสู่ความวุ่นวายทางการเมืองมากยิ่งขึ้น
กรณีของแกนนำฝ่ายค้าน แกม สุขา และข้อกล่าวหาที่ถูกตั้งขึ้นนั้นกำลังครอบงำการเมืองของประเทศมาเป็นเวลาหลายสัปดาห์ และได้ยกระดับความตึงเครียดก่อนการเลือกตั้งปี 2561 ที่อาจเป็นบททดสอบที่จริงจังที่สุดของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน
ฝ่ายตรงข้ามของฮุนเซน กล่าวว่า ผู้นำเขมรกำลังใช้ระบบศาลเข้าต่อต้านฝ่ายตรงข้ามของตัวเอง ซึ่งรัฐบาลได้ปฏิเสธข้อกล่าวหานี้
แกม สุขา ที่กำลังทำหน้าที่รักษาการหัวหน้าพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) เนื่องด้วย สม รังสี อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง ที่เป็นหัวหน้าพรรค ต้องลี้ภัยในต่างแดนเพื่อเลี่ยงการจับกุมตัวจากคดีหมิ่นประมาทเก่า ที่เขาได้รับพระราชทานอภัยโทษแล้ว ซึ่งพรรค CNRP ได้ประณามหมายจับใหม่นี้ว่า มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง
สมาชิกทั้ง 68 คน ของรัฐสภาจากพรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของฮุนเซน ที่เป็นพรรครัฐบาล มีมติอนุญาตศาลดำเนินการสืบสวน แกม สุขา ด้วยเหตุจากบันทึกลับบทสนทนาทางโทรศัพท์ที่รั่วไหลออกมา ระหว่างแกม สุขา และหญิงสาวรายหนึ่ง ที่รัฐบาลระบุว่า มีความสัมพันธ์เชิงชู้สาวผิดกฎหมาย
การค้าประเวณีถือเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายในกัมพูชาในปี 2551 แม้ว่าจะเป็นที่แพร่หลายก็ตาม
แกม สุขา ไม่ได้ยอมรับ หรือปฏิเสธความสัมพันธ์กับหญิงสาว และไม่สนใจการดำเนินการของศาล ด้วยเขาระบุว่า เป็นแรงจูงใจทางการเมือง และล่าสุด เมื่อวันพฤหัสบดี (26) ก็ปฏิเสธที่จะไปปรากฏตัวที่ศาลตามหมายเรียก
สหภาพแรงงานที่เป็นพันธมิตรกับพรรค CNRP ประกาศว่า จะจัดการชุมนุมประท้วงหากแกม สุขา ถูกจับกุม
“พรรค CNRP ต้องการให้กัมพูชาปกครองด้วยหลักนิติธรรม และระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรค” สน ชาย สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรอาวุโสของพรรค CNRP กล่าวแถลงข่าว
พรรคระบุว่า การลงมติวานนี้ (30) ไม่เป็นไปตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ
การเลือกตั้งครั้งล่าสุดในปี 2556 นับเป็นความท้าทายที่หนักหนาที่สุดในการปกครองนาน 3 ทศวรรษของฮุนเซน และฝ่ายค้านคาดว่า ความท้าทายจะเพิ่มมากยิ่งขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้า ด้วยผู้มีสิทธิลงคะแนนเสียงอายุน้อยแสวงหาความเปลี่ยนแปลง
ฝ่ายฮุนเซน ได้กล่าวเตือนว่า ชัยชนะในการเลือกตั้งสำหรับฝ่ายค้านอาจจะทำให้สงครามกลางเมืองเกิดขึ้นอีกครั้ง
เมื่อวันอาทิตย์ (29) สหประชาชาติได้แสดงความวิตกต่อการยกระดับความตึงเครียด ระหว่างพรรคของฮุนเซน และพรรคฝ่ายค้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจับกุม หรือความพยายามที่จะจับกุมนักการเมือง.