MGRออนไลน์ -- กระทรวงรักษาความมั่นคงภายในเวียดนาม ได้สั่งพักงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ 4 นาย ซึ่งปฏิบัติหน้าที่เป็นผู้คุมที่เรือนจำ จ.กว๋างนีง ในนั้นเป็นตำรวจหญิง 1 คน ฐานละเลยต่อหน้าที่และขาดความรับผิดชอบ ปล่อยให้นักโทษหญิงคดียาเสพติดอุกฉกรรจ์รายหนึ่งตั้งครรภ์อย่างตั้งใจ มีการวางแผนล่วงหน้าอย่างดี ทั้งนี้เพื่อให้รอดพ้นจากการถูกประหารชีวิต ตามกฎหมาย
ผลการสอบสวนได้ข้อสรุปว่า นางเหวียน ถิ เหวะ (Nguyen Thi Hue) วัย 42 ปี ได้ "ขอซื้อสเปิร์ม" จากนักโทษชายคนหนึ่ง โดยให้คำมั่นว่า หากเธอตั้งครรภ์ พ้นโทษประหาร เธอจะจ่ายค่าตอบแทนให้เป็นเงิน 50 ล้านด่ง หรือ ประมาณ 4,000 ดอลลาร์ (148,000 บาท)
นายเหวียนต๋วนฮึง (Nguyen Tuan Hung) นักโทษหนุ่มวัย 27 ปีที่ต้องโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี ในความผิดเกี่ยวกับการลักทรัพย์ ได้นำอสุจิของตนบรรจุในซีรินจ์สำหรับฉีดยา ไปซ่อนไว้ยังที่นัดหมายกับนางเหวะ โดยใส่ในถุงพลาสติกอำพรางเจ้าหน้าที่ และ นางเหวะได้ถือโอกาสในยามเช้า ที่ได้รับอนุญาตให้ไปใช้ห้องน้ำ แวะไปรับถุงน้ำเชื้อของฝ่ายชาย และ ใช้ฉีดเข้าไปในอวัยวะของเธอ
นางเหวะกับนายฮึงทำเช่นนี้อยู่สองครั้ง ฝ่ายหญิงจึงตั้งครรภ์สมความปรารถนา จนถึงวันอังคาร 15 ก.พ.ที่ผ่านมา ทารกในครรภ์มีอายุได้ 25 สัปดาห์ และ แพทย์ประจำเรือนจำจังหวัดกล่าวว่า เธอมีกำหนดคลอดในเดือน เม.ย.นี้ ตามกฎหมายเวียดนาม นางเหวะจะถูกลดโทษลงเหลือจำคุกตลอดชีวิต และ ได้รับอนุญาตให้ทำหน้าที่มารดา เลี้ยงดูทารกในเรือนจำได้
สำนักงานความมั่นคงภายในหวัด และ กรมใหญ่ตำรวจ ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาชุดหนึ่ง สอบสวนเจ้าหน้าที่ทั้ง 4 คน เพื่อหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างนักโทษชายหญิงคู่นี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อคำถามที่ว่า ทั้งคู่นัดหมายกันได้อย่างไร และ ได้อปุกรณ์ไปจากแหล่งใด หากปราศจากความร่วมมือของเจ้าหน้าที่
นางเหวะเป็นชาว จ.ลังเซิน มีประวัติค้ายาเสพติดข้ามแดนอย่างโชกโชน เธออยู่ในขบวนการลักลอบค้ายาเฮโรอีนแก๊งใหญ่ ระหว่างภาคเหนือลาวกับภาคตะวันตกเฉียงใต้จีน จนกระทั่งถูกจับได้อีกครั้งหนึ่งในเดือน เม.ย.2555 ถูกดำเนินคดีครบ 2 ศาลตามระบบของเวียดนาม เมื่อปี 2557 ศาลอุทธรณ์ได้ยืนคำพิพากษาศาลชั้นต้นให้รับโทษประหารชีวิต
.
2
ประวัติการค้ายาเสพติดของนางเหวะสามารถย้อนหลังไปได้จนถึง 15 ปี เมื่ออายุ 27 ซึ่งครั้งนั้นประกอบอาชีพค้าขายสินค้าข้ามแดนเวียดนาม-จีน ด้วยความเป็นหญิงสาวหน้าตาดี แต่งกายดี ขับรถราคาแพง จึงเป็นที่คุ้เคยนกับบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูง เดินทางเข้าออกเวียดนาม-จีนได้สะดวก และ มักจะมีของฝากติดมือไปฝากเจ้าหน้าที่ด่านอยู่เสมอๆ หนังสือพิมพ์ลาวโดง (แรงงาน) รายงาน
นางเหวะเคยถูกจับกุมมาแล้วครั้งหนึ่ง ฐานมียาเสพติดในครอบครอง โดยถูกจำคุกเป็นเวลา 1 ปี เมื่อพ้นโทษได้กลับคืนวงการอีกครั้ง จนกระทั่งครั้งล่าสุด ถูกจับพร้อมเพื่อนร่วมแก๊งอีก 5 คน ขณะลอบขนเฮโรอีนจำนวนกว่า 20 แท่ง ข้ามแดนที่ด่านชายแดนแห่งเดียวกันนี้
นางเหวะรู้จักกับนายฮึง ซึ่งเป็นนักโทษหนุ่มหน้าตาดีในเรือนจำ จ.กว๋างนีง และ พัฒนาความสนิทสนมระหว่างกันมาเป็นลำดับ เมื่อสบโอกาส แต่ทั้งคู่ให้การว่าไม่เคยมีเพศสัมพันธ์กันโดยตรง เนื่องจากไม่เคยมีโอกาส ทำให้สองฝ่าย มีข้อตกลงกันเกี่ยวกับการ "ซื้อขายสเปิร์ม" และ ปฏิบัติการในเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว หลังพยายามอยู่ 2 ครั้ง ก็ประสบความสำเร็จ สำนักข่าวบางแห่งระบุว่า นายฮึงได้รับค่าจ้างไปแล้ว แต่อีกจำนวนหนึ่งรายงานว่า เขายังไม่เคยได้รับค่าตอบแทนใดๆ จากนางเหวะ
นายแพทย์คลินิกเอกชนแห่งหนึ่งในกรุงฮานอยกล่าวกับ หนังสือพิมพ์เตี่ยนฟง (ผู้บุกเบิก) ในวันพุธนี้ว่า นางเหวะกับนายฮึงโชคดีอย่างยิ่ง ทั้งนี้เนื่องจากการตั้งครรภ์นั้น จะต้องมีหลายปัจจัยเกื้อหนุน ฝ่ายหญิงจะต้องมีรอบไข่ ที่สุกพอดี และ ฝ่ายชายมีสเปิร์มที่แข็งแรง
อย่างไรก็ตาม สเปิร์มที่อยู่ในอสุจิของฝ่ายชายนั้น เมื่อใส่ลงในถุงพลาสติก ก็อาจจะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 2 ชั่วโมง และ ยิ่งปล่อยให้อยู่ภายนอกเป็นเวลานานเท่าไร สเปิร์มก็ยิ่งอ่อนแองลงเรื่อยๆ จนกระทั่งไม่มีแรงพอที่จะเจาะผนังไข่ของฝ่ายหญิง เพื่อเข้าไปปฏิสนธิได้ แต่ทั้งคู่ก็ทำได้ในที่สุด
2
เหตุการณ์ล่าสุดนี้ทำให้ผู้อ่านข่าวออนไลน์ในเวียดนาม ต้องหวนกลับไประลึกถึงอีกเหตุการณ์หนึ่งคล้ายกันนี้เมื่อ 10 ปีที่แล้ว ซึ่งนางเหวียน ถิ อแว็ง (Nguyen Thi Oanh) วัย 32 ปี นักโทษหญิงขังเดี่ยวรอประหาร ในความผิดเกี่ยวกับคดีค้าเฮโรอีนเช่นกัน เกิดตั้งครรภ์ภายในเรือนจำ จ.ฮว่าบี่ง ทางตอนเหนือกรุงฮานอย
การสอบสวนได้ข้อสรุปในเวลาต่อมาว่า เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดจากเจ้าหน้าที่หละหลวม เผลอเลอ ปล่อยให้นักโทษชายวัย 40 ปีคนหนึ่ง ซึ่งเป็นนักโทษชั้นดี ปฏิบัติหน้าที่แทน โดยทำหน้าที่ส่งอาหารให้แก่นางอแว็งเป็นประจำทุกวัน
ฝ่ายชายได้นำอสุจิใส่ถุงพลาสติก ซ่อนไปในถุงอาหารสำหรับนักโทษหญิง ซึ่งพยายามใช้หลอดดูดในการฉีดเข้าไปเพื่อให้ตั้งครรภ์ ทั้งคู่พยายามอยู่ 2 ครั้ง แต่ไม่ประสบความสำเร็จ ในที่สุดจึงตัดสินใจมีเพศสัมพันธ์กันภายในห้องขังเดี่ยวถึง 5 ครั้ง ฝ่ายหญิงจึงตั้งครรภ์สมปรารถนา
นางแอว็งคลอดทารกในเรือนจำในปี 2550 เลี้ยงดูลูกต่อมาจนโต ก่อนเด็กจะถูกนำออกจากเรือนจำ ไปอาศัยอยู่กับครอบครัว ใน จ.โด่งนาย ทางตอเหนือนครโฮจิมินห์ ส่วนมารดายังคงรับโทษจำคุกตลอดชีวิตต่อไป และ ถูกคุมขังในเรือนจำ จ.ฮว่าบี่ง มาจนกระทั่งบัดนี้
องค์การนิรโทษกรรมสากลเคยออกรายงานระบุว่า ในเวียดนามปัจจุบันอาจจะมีนักโทษรอการประหารชีวิตอยู่ราว 400 คน และ เมื่อไม่กี่ปีมานี้ รัฐสภาเวียดนามได้ผ่านกฎหมายฉบับหนึ่ง เปลี่ยนวิธีประหารชีวิตจากยิงเป้า ไปใช้วิธีฉีดสารพิษ ที่ยอมรับกันว่ามีมนุษยธรรมมากกว่า แต่ขณะเดียวกันก็มีต้นทุนสูงกว่าวิธีแรก
ปีสองปีมานี้ในเวียดนาม ได้มีความพยายามที่จะยกเลิกโทษประหารชีวิต ในความผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติด แต่ยังมีความแตกต่างทางความคิดกันอย่างมากในรัฐสภา ทำให้การออกกฎหมายยังไม่ประสบความสำเร็จ.
