รอยเตอร์ - ทางการรัฐโอกลาโฮมามีคำสั่งระงับการประหารนักโทษด้วยวิธีฉีดสารพิษเอาไว้ชั่วคราวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังเกิดปัญหาสารพิษ 2 ชนิดปะปนกัน จนเจ้าหน้าที่เผลอหยิบสารที่ไม่ผ่านการรับรองไปฉีดใส่นักโทษเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นในรัฐโอกลาโฮมารายงานวานนี้ (8 ต.ค.)
สื่อฉบับนี้อ้างข้อมูลจากสำนักงานราชทัณฑ์ (DOC) ซึ่งระบุว่า เจ้าหน้าที่รัฐโอกลาโฮมาได้หยิบขวดบรรจุสาร “โปแตสเซียมอะซิเตต” ไปฉีดเข้าร่างกายของ ชาร์ลส วอร์เนอร์ แทนที่จะใช้สาร “โปแตสเซียมคลอไรด์” ซึ่งเป็นตัวยาที่มีฤทธิ์ทำให้หัวใจหยุดเต้น และเป็นสารที่ถูกกำหนดให้ใช้ตามระเบียบว่าด้วยการประหารนักโทษของรัฐโอกลาโฮมา
พยานซึ่งอยู่ในห้องประหารนักโทษเปิดเผยว่า วอร์เนอร์ซึ่งเคยก่อคดีข่มขืนและฆ่าทารกโอดครวญก่อนจะสิ้นใจว่า “ร้อนเหมือนถูกไฟเผา” โดยก่อนหน้านั้นทนายของเขาพยายามเรียกร้องให้ระงับการประหารไว้ก่อน เพราะสารพิษที่ปะปนกันอาจทำให้นักโทษต้องเจ็บปวดทรมานนานเกินไป
แมรี ฟอลลิน ผู้ว่าการรัฐโอกลาโฮมาอ้างว่า เจ้าหน้าที่แพทย์จาก DOC ยืนยันกับเธอว่าตัวยาทั้ง 2 ชนิด “ใช้แทนกันได้”
อย่างไรก็ตาม รัฐโอกลาโฮมาได้สั่งระงับการฉีดสารพิษให้ ริชาร์ด กลอสซิป เมื่อวันที่ 30 ก.ย. หลังตรวจพบเพียง 2 ชั่วโมงก่อนได้เวลาประหารว่าสารพิษที่ได้รับมาไม่ใช่ “โปแตสเซียมคลอไรด์” แต่เป็น “โปแตสเซียมอะซิเตต” ซึ่งไม่ถูกรับรองโดยระเบียบว่าด้วยการประหารชีวิตของรัฐใดๆ
“ระหว่างที่พูดคุยเรื่องเลื่อนการประหาร ดูเหมือน DOC จะยอมรับว่าได้ใช้โปแตสเซียมอะซิเตตกับชาร์ลส วอร์เนอร์ ไปเมื่อเดือนมกราคมปีนี้” ฟอลลินระบุในคำแถลง
ศาลอุทธรณ์คดีอาชญากรรมแห่งรัฐโอกลาโฮมามีคำสั่งเมื่อวันที่ 2 ต.ค.ให้ระงับการประหารนักโทษ 3 ราย เพื่อให้เจ้าหน้าที่รัฐได้ตรวจสอบสารพิษทั้ง 2 ชนิดที่มีการใช้ปนกันอยู่
วอร์เนอร์ เป็นนักโทษรายแรกที่ถูกประหารในรัฐโอกลาโฮมา หลังเกิดกรณีอื้อฉาวเกี่ยวกับการฉีดสารพิษประหารฆาตกร เคลย์ตัน ล็อกเก็ตต์ เมื่อเดือนเมษายน ปี 2014
ล็อกเก็ตต์ดิ้นพราดอยู่บนเตียงด้วยความทรมาน หลังเจ้าหน้าที่ห้องประหารฉีดยาพิษไม่ตรงเข้าเส้นเลือด แม้จะมีคำสั่งให้ระงับการประหารทันที แต่เขาก็เสียชีวิตในอีก 45 นาทีต่อมา เนื่องจากสารพิษเข้าไปสะสมในเนื้อเยื่อ