MGRออนไลน์ -- เวียดนามได้รับมอบเครื่องบินขับไล่โจมตีซูคอย (Sukhoi) แบบ Su-30 จากผู้ผลิตในรัสเซียอีก 2 ลำ เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.ที่ผ่านมา ขนจากโรงงานผลิตในตอนกลางของแคว้นไซบีเรียไปยัง ฐานทัพอากาศอ่าวกามแรง (Cam Ranh) ในภาคกลางเวียดนาม โดยเครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่ An-124 "รุสลาน" (Ruslan)
ข่าวการส่งมอบ Su-30 ยังมีขึ้นพร้อมกับข่าวที่สื่อทางการรัสเซียระบุว่า เวียดนามกำลังจะเป็นลูกค้ารายที่ 2 ของเครื่องบินโจมตีทิ้งระเบิด สมรรถนะสูงแบบ Su-34 ของซูคอยเช่นกัน
สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์ (InterFax-AVN) ซึ่งเป็นสำนักข่าวเอกชนระดับแนวหน้า รายงานเรื่องนี้โดยอ้างแหล่งข่าวในอุตสาหกรรมอากาศยานที่ระบุว่า AN-124 สายการบินโวลก้า-ดเนเปอร์ (Volga-Dnepr Airlines) ได้ขนเครื่องบินรบทั้งสองลำไปยังเวียดนามเมื่อวันที่ 29 ธ.ค.
เครื่องบินใหม่ทั้งสองลำเป็นหมายเลข 5889 และ 8590 รวมอยู่ในจำนวน 12 ลำ ที่เวียดนามสั่งซื้อเป็นล็อตล่าสุดปี 2556 รวมมูลค่า 600 ล้านดอลลาร์ ผลิตโดยโรงงานกาการินอากาศยาน (KNAAPO) ในเครือบริษัทซูคอย ที่เมืองคอมโซมอลสค์-ออน-อามูร์ (Comsomolsk-On-Armur) ซึ่งแผนการดั้งเดิมจะส่งมอบครบทั้งหมดในปี 2558 แต่เกิดปัญหาทำให้ล่าช้า ออกไปเป็นปี 2559 ซึ่งเวียดนามจะได้รับอีก 4 ลำที่เหลือ
อินเตอร์แฟ็กซ์กล่าวอีกว่า Su-30 ของเวียดนามล็อตล่าสุดนี้ รันหมายเลขตั้งแต่ 8583 จนถึง 8594 สี่ลำแรกส่งมอบเมื่อปี 2557 แบ่งเป็นสองงวด อีก 4 ลำ มอบเมื่อปีที่แล้วแบ่งเป็น 2 งวดเช่นกัน ซึ่งช้ากว่ากำหนดเดิม
ถึงปัจจุบันเวียดนามซื้อ Su-30 จากรัสเซียรวมทั้งหมด 36 ลำ ในคอนฟิกูเรชั่นแตกต่างกัน และ ได้รับมอบแล้ว 32 ลำ ในนั้นจำนวน 4 ลำ เซ็นซื้อครั้งแรกเมื่อปี 2556 อีก 8 ลำซื้อในปลายปี 2552 กับ 12 ลำในปี 2553 และ 12 ลำในล็อตล่าสุด
เวียดนามยังคงจัดหาเครื่องบินรบอีกจำนวนหนึ่ง เพื่อนำเข้าประจำการแทน MiG-21 กับ Su-22 ที่ใช้งานมาเป็นเวลา 30 ปี เว็บไซต์ VZ.Ru ของทางการ รายงานสัปดาห์นี้ว่า เวียดนามกำลังจะเป็นลูกค้ารายที่ 2 ของเครื่องบินทิ้งระเบิด/โจมตีอเนกประสงค์ Su-34 ถัดจากแอลจีเรีย ที่สั่งซื้อจำนวน 12 ลำปลายที่แล้ว
นับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบหลายเดือน ที่สื่อทางการรัสเซียกล่าวถึงชื่อเวียดนาม ในฐานะเป็นลูกค้าเครื่องบินรบก้าวหน้าอีกรุ่นหนึ่่ง ที่สามารถเสริมภารกิจขับไล่โจมตีของ Su-30 ได้อย่างสัมฤทธิ์ผล โดยแอลจีเรียก็มี Su-30 ประจำการเช่นเดียวกันกับเวียดนาม
Su-34 "ฟูลแบ็ค" (Full Back) ได้รับความนิยมมากขึ้น หลังจากรัสเซียส่งเข้าปฎิบัติการในสงครามซีเรีย ปลายปีที่แล้ว และ เป็นเครื่องบินหลัก ในการโจมตีทิ้งระเบิดระยะไกล ที่ตั้งสำคัญของกลุมรัฐอิสลามหรือ ISIS ในประเทศนั้น
อย่างไรก็ตาม ยังไม่เคยมีการยืนยันเรื่องนี้อย่างเป็นทางการจากฝ่ายเวียดนาม นับตั้งแต่สื่อรัสเซีย รายงานเมื่อปีที่แล้วว่า กำลังมีการเจรจาซื้อขาย Su-34 กับทางการฮานอย.