xs
xsm
sm
md
lg

รัสเซียงัดมาตรการเด็ด นักบินพก “อาก้า” ปืนสั้นอีกกระบอก ออกทิ้งระเบิดในซีเรีย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#00003>ต่อไปนี้ไม่ได้ยิงฟรีอีกแล้ว การสูญเสียนักบิน Su-24 ในเหตุการณ์วันที่ 24 พ.ย. และ นักบินผู้ช่วยแทบเอาชีวิตไม่รอด ทำให้กระทรวงกลาโหมรัสเซียงัดมาตรการเก่าแก่ แต่ได้ผลออกมาใช้ การให้นักบินพกอาวุธขึ้นเครื่องออกปฏิบัติการโจมตีนั้น ทำกันมาตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 และ เป็นวัตรปฏิบัติในช่วงสงครามเวียดนาม. </b>

MGRออนไลน์ -- นักบินรัสเซียทุกคนที่ขึ้นบินออกปฏิบัติการโจมตีบรรดาผู้ก่อการร้ายในซีเรีย ได้รับอนุญาตจากกระทรวงกลาโหม ให้พกปืนเล็กยาวกึ่งอัตโนมัติ AK-47 พร้อมทั้ง ปืนพกออโตเมติกอีก 1 กระบอกขึ้นเครื่องไปด้วย เพื่อใช้เป็นอาวุธในยามฉุกเฉิน หลังจากกรณีเครื่องบิน Su-24 ลำหนึ่ง ถูกตุรกียิงตกวันที่ 24 พ.ย. ที่ผ่านมา นักบินคนหนึ่งเสียชีวิต นักบินผู้ช่วยต้องหนีหัวซุกหัวซุน เกือบเอาชีวิตไม่รอด เนื่องจากถูกกลุ่มก่อการร้ายหลายกลุ่มตามล่า เมื่อร่มชูชีพของเขาลงถึงพื้น

อาวุธปืนประจำกายทั้งปืนสั้นและปืนเล็กยาว จะช่วยให้นักบินของรัสเซีย มีโอกาสต่อสู้เพื่อความอยู่รอด ภายใต้สถานการณ์คับขันเช่นนั้น

ตามรายงานของ Life News สำนักข่าวเอกชนในรัสเซีย ปืนคาลาชนิคอฟจะเก็บไว้ใต้ที่นั่งนักบิน ซึ่งใช้่เป็นที่เก็บแพยาง โดยแพยางยังอยู่เหมือนเดิม แต่จะหุ้มปืนเล็กยาวพับฐานเอาไว้อย่างมิดชิด

วิดีโอคลิปที่เผยแพร่ในช่วงวันสองวันมานี้ แสดงให้เห็นนักบินเครื่องบินทิ้งระเบิด Su-34 คนหนึ่ง แสดงให้ผู้สื่อข่าวดูอาวุธปืนสั้นออโต้สเต็ชคิน (Stechkin) ของเขา พร้อมซองกระสุนอีกอย่างน้อย 4 ซอง ที่เก็บอย่างปลอดภัยในกระเป๋าเสื้อคอมแบ็ต และ นี่คือปืนพกประจำกายที่ใช้กระสุนขนาด 19x18 มม.ของมาคารอฟ ซองกระสุนหรือแม็กกาซีนบรรจุ 20 นัด หนักอึ้ง แต่เป็น "ปืนลูกดก" ยอดนิยม ที่ใช้มาตั้งแต่ยุคสงครามเย็น ในกองทัพกลุ่มวอร์ซอว์ ที่มีสหภาพโซเวียตเป็นแกนนำ

เข้าใจกันว่า มาตรการนี้อนุญาตให้ใช้กับนักบินของอากาศยานทุกลำ ที่ออกปฏิบัติหน้าที่ในซีเรีย รวมทั้งนักบินกับลูกเรือประจำเฮลิคอปเตอร์โจมตีแบบ Mi-24 และ Mi-8 ด้วย

พันตรี โอเลก เปสคอฟ นักบิน Su-24 ที่ตกเป็นเหยื่อเครื่องบิน F-16 ของตุรกี กับผู้ช่วยของเขา ดีดตัวออกได้อย่างปลอดภัยก่อนเครื่องระเบิดกลางอากาศ แต่ทั้งสองคนถูกระดมยิงจากพื้นดินอย่างแน่นหนา

นักบินเสียชีวิต และศพยังถูกทำร้ายเมื่อลงถึงพื้น ขณะที่ผู้ช่วยซึ่งเป็นนายทหารยศนายร้อยโท ซึ่งร่มไปตกลงในพื้นที่ยึดครองของฝ่ายรัฐบาล ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัยและทันเวลา ในขณะที่ฝ่ายกองโจรต่อต้านรัฐบาลนับร้อยคน ติดอาวุธครบมือ ออกพลิกป่าตามล่าหาตัว โดยเขาไม่มีอาวุธป้องกันตัวแม้แต่ชิ้นเดียว

รัสเซียยังสูญเสีย ฮ. ค้นหากู้ภัยแบบ Mi-8 ไป 1 ลำ และ ทหารนาวิกโยธิน ที่ไปกับเครื่องเสียชีวิตอีก 1 ราย เมื่อ ฮ. ต้องลงจอดฉุกเฉิน หลังจากถูกระดมยิงจากพื้นดินอย่างหนัก นอกจากนั้น ยังถูกกองโจรฝ่ายกองทัพซีเรียเสรี (Free Syrian Army) ซุ่มยิงด้วยจรวดโทวอีก

ไม่เพียงแต่อาวุธและกระสุนเท่านั้น ต่อไปนี้ในกระเป๋านักบินทุกคน จะมีอุปกรณ์เดินป่าที่จำเป็น ตลอดจนเครื่องยังชีพพื้นฐาน ซึ่งรวมทั้งเข็มทิศ กระจกสำหรับส่องแสงขอความช่วยหลือจากอากาศยาน ไม้ขีดไฟที่บรรจุในภาชนะกันน้ำ กับวิทยุสื่อสารอีก 1 เครื่อง เว็บไซต์ข่าวภาษารัสเซียรายงาน

ทั้งหมดนี้เป็นพัฒนาการขั้นล่าสุด เกี่ยวกับการออกปฏิบัติการทิ้งระเบิด หลังจากกระทรวงกลาโหมประกาศก่อนหน้านี้ว่า Su-34 ทุกลำจะติดจรวดต่อสู้อากาศยานทั้งระยะสั้นและระยะไกล เพื่อป้องกันตนเอง

นักบินในคลิปที่เผยแพร่ล่าสุดนี้ กล่าวว่า จรวดระยะใกล้ของเขา สามารถยิงเป้าหมายได้ไกลถึง 60 กิโลเมตร แต่ก็มีไว้เพื่อป้องกันตนเองเท่านั้น ไม่ได้มีจุดประสงค์ ติดตั้งเพื่อโจมตีฝ่ายใดก่อน

กรณียิง Su-24 ตก ทำให้ความสัมพันธ์ตุรกี - รัสเซีย ร้าวลึกจนยากจะเยียวยา รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีดมิตรี เมดเวลเดฟ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรสินค้านำเข้าจากตุรกีหลายสิบรายการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลผลิตทางการเกษตร ที่ครอบครัวชาวรัสเซียนับล้านต้องกินต้องใช้ มาตรการของรัสเซียได้บั่นทอนรายได้จากการส่งออกของตุรกี ที่มีมูลค่าปีละกว่า 20,000 ล้านดอลลาร์

ตุรกีกล่าวว่า Su-24 บินล้ำน่านฟ้า ขณะที่รัสเซียได้แสดงหลักฐาน “บันทึกการบิน” ยืนยันให้เห็นว่า เครื่องบินรบของตนไม่เคยล่วงล้ำน่านฟ้า และถูกยิงตกในดินแดนซีเรีย ในขณะที่ฝ่ายตุรกีก่อสถานการณ์ โดยส่ง F-16 ขึ้นบินดักรอ ซุ่มยิงในระยะใกล้อย่างจงใจ วางแผนเอาไว้ล่วงหน้า

รัสเซียได้เปิดหลักฐานภาพถ่ายดาวเทียม ทั้งภาพเคลื่อนไหวและภาพนิ่ง แสดงให้เห็นกระบวนการขนน้ำมันดิบของกลุ่มก่อการร้าย ISIS จากซีเรีย เข้าสู่ดินแดนตุรกี เพื่อนำออกจำหน่ายในตลาดมืด รัสเซียกล่าวหาว่า ครอบครัวผู้นำรัฐบาลตุรกี มีส่วนได้เสียกับการลักลอบค้าน้ำมันเถื่อน ที่เป็นเลือดหล่อเลี้ยงกลุ่มก่อการร้าย

การอนุญาตให้นักบินพกอาวุธขึ้นเครื่องบินไม่ใช่เรื่องใหม่ หากปฏิบัติกันมาทุกยุคสมัยตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 1 ที่ยังใช้เครื่องบินใบพัด มีหลายเหตุการณ์ที่นักบินฝ่ายสัมพันธมิตรกับฝ่ายอักษะ ดวลกันกลางอากาศด้วยปืนพก

ช่วงสงครามเวียดนาม นักบินอเมริกันทั้งเครื่องบินขับไล่และเครื่องบินทิ้งระเบิด ได้รับอนุญาตให้พกปืนสั้นได้ ทั้งปืนลูกโม่ .38 สเปเชี่ยล และ ปืนสั้นออโต้ โคลต์ M1911 ขนาด .45 เพื่อใช้ต่อสู้เอาตัวรอด กรณีเครื่องบินถูกยิงตกหรือต้องลงฉุกเฉินในดินแดนเวียดนาม ที่มีนักรบกองโจรเวียดกงคอยตามล่า
.

2

3

4
<br><FONT color=#00003>พันตรีโอเลก เปสคอฟ นักบิน Su-24 เสียชีวิต ขณะร่มชูชีพกำลังลงสู่พื้น และ ถูกระดมยิงอย่างหนักจากฝ่ายกองโจรต่อต้านรัฐบาล โดยไม่มีโอกาสได้ต่อสู้ ศพของเขาถูกส่งจากชายป่าประเทศซีเรีย สู่ประเทศตุรกี ก่อนจะส่งถึงกรุงมอสโกโดยสถานทูตในกรุงแองการา วันที่ 1 ธ.ค.ที่ผ่านมา. </b>
5
กำลังโหลดความคิดเห็น