xs
xsm
sm
md
lg

เวียดนามเสริมแสนยานุภาพทางทหารรับสถานการณ์เผชิญหน้าจีน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ทหารเวียดนามถือปืนไรเฟิลกาลิลของอิสราเอลขณะเดินสวนสนามในการเฉลิมฉลองวันชาติที่จตุรัสบาดิ่ง ในกรุงฮานอย เมื่อวันที่ 2 ก.ย. 2558. -- Reuters/Kham.</font></b>

รอยเตอร์ - กองทัพเวียดนามกำลังเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ตัวเองเพื่อรับมือความขัดแย้งกับจีน ด้วยการเสริมอาวุธครั้งใหญ่ที่สุดของประเทศนับตั้งแต่สงครามเวียดนาม

เป้าหมายของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามคือ การยับยั้งเพื่อนบ้านยักษ์ใหญ่ทางเหนือเมื่อความตึงเครียดเพิ่มสูงในข้อพิพาททะเลจีนใต้ และหากเป้าหมายดังกล่าวล้มเหลว ก็ยังสามารถป้องกันตนเองในทุกการเผชิญหน้าได้ เจ้าหน้าที่อาวุโสกล่าวต่อรอยเตอร์

ยุทธศาสตร์ของเวียดนามได้ก้าวไปเกินกว่าแผนรับมือฉุกเฉิน หน่วยทหารสำคัญหลายหน่วยอยู่ในสถานะ “พร้อมรบสูง” - การเตือนเฝ้าระวังให้ป้องกันเหตุโจมตีฉับพลัน ที่รวมทั้งกองพล 308 ซึ่งเฝ้าระวังอยู่ทางเหนือ

เวียดนาม และจีนเคยต่อสู้กันในสงครามชายแดนเมื่อปี 2522 แต่จุดอ่อนไหวในตอนนี้อยู่ในทะเลจีนใต้ ที่พวกเขาต่างอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือหมู่เกาะพาราเซล และสแปรตลีย์

“เราไม่ต้องการที่จะมีความขัดแย้งกับจีน และเราต้องมีศรัทธาในนโยบายทางการทูตของเรา แต่เรารู้ว่าเราต้องพร้อมต่อสิ่งที่เลวร้ายที่สุด” เจ้าหน้าที่อาวุโสในรัฐบาลเวียดนาม กล่าว

แต่ที่น่าสังเกตมากที่สุด ฮานอยกำลังสร้างกองเรือป้องปรามด้วยการซื้อเรือดำน้ำชั้นคิโลทันสมัย 6 ลำจากรัสเซีย และในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เรือดำน้ำลำแรกได้เริ่มออกลาดตระเวนในทะเลจีนใต้ ตามการระบุของเจ้าหน้าที่ทหารเวียดนาม และต่างชาติ ที่นับเป็นการยืนยันครั้งแรกว่าเรือได้อยู่ในน่านน้ำยุทธศาสตร์

ความตึงเครียดเห็นได้ชัดที่สำนักงานใหญ่ของกองพลทหารราบที่ 308 หน่วยทหารที่ดีที่สุดของเวียดนาม ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของกรุงฮานอย ที่นายทหารระดับสูงได้พูดซ้ำๆ เกี่ยวกับ “ความพร้อมรบระดับสูง”

วลีดังกล่าวปรากฏอยู่บนป้ายโฆษณาใต้ภาพจรวด และภาพอดีตผู้ก่อตั้งเวียดนาม ประธานโฮจิมินห์ และ พล.อ. หวอ เหวียน ย้าป วีรบุรุษแห่งชาติ

ด้วยตั้งอยู่ระหว่างภูเขาทางภาคเหนือ และพื้นที่ปลูกข้าวโบราณของที่ราบปากแม่น้ำแดง กองพลทหารราบที่ 308 เป็นกองพลที่เก่าแก่ที่สุดของเวียดนาม และยังคงมีประสิทธิภาพในการเฝ้าระวังพื้นที่ทางเหนือใกล้กรุงฮานอย

สะท้อนให้เห็นถึงความรู้สึกต่อการกระทำของปักกิ่ง แม้เจ้าหน้าที่ระดับสูงจะไม่สามารถกล่าวถึงจีนได้ แต่เวียดนามพร้อมที่จะขับไล่กองกำลังต่างชาติใดๆ ก็ตาม พ.อ.เล วัน หาย กล่าวต่อรอยเตอร์ระหว่างการเยือนของนักข่าวต่างชาติที่เกิดขึ้นได้ยาก

“ความพร้อมรบเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดของกองพล ของกระทรวงกลาโหม และประเทศ เราสามารถจัดการต่อสถานการณ์ที่ไม่คาดคิด หรือเหตุฉับพลันใดๆ ก็ตาม เราพร้อม” พ.อ. เล วัน หาย กล่าว

“ความพร้อมรบระดับสูง” พร้อมกับการอ้างอิงถึง “สถานการณ์ใหม่” เป็นถ้อยคำที่ปรากฏบ่อยขึ้นในการฟังบรรยายจากเจ้าหน้าที่ระดับสูงระหว่างการเยือนค่ายทหาร และในสื่อสิ่งพิมพ์ของกองทัพประชาชนเวียดนาม ข้อความนี้ยังปรากฏในการหารือกับคณะผู้แทนทหารต่างประเทศ นักการทูต กล่าว

“เมื่อเวียดนามอ้างถึง “สถานการณ์ใหม่” พวกเขากำลังใช้รหัสภาษาที่จะอ้างถึงความเป็นไปได้ที่เพิ่มขึ้นของการเผชิญหน้าทางอาวุธ หรือการปะทะกับจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในทะเลจีนใต้” คาร์ล เธอเยอร์ ศาสตราจารย์จากสถาบันป้องกันประเทศของออสเตรเลีย กล่าว

ขณะที่เวียดนามเพิ่มความพร้อมรบ บรรดานายพลที่ครั้งหนึ่งเคยสันโดษกำลังมองหาหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ที่หลากหลายขึ้น รัสเซีย และอินเดีย เป็นแหล่งอาวุธทันสมัย การฝึกอบรม และความร่วมมือด้านข่าวกรอง นอกจากนั้น ฮานอยยังสร้างความสัมพันธ์กับสหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และฟิลิปปินส์ รวมทั้งยุโรป และอิสราเอล

เวียดนาม กำลังมองหาเครื่องบินทิ้งระเบิดของรัสเซีย และหารือกับผู้ผลิตอาวุธของยุโรป และสหรัฐฯ เพื่อซื้อเครื่องบินรบ และเครื่องบินลาดตระเวนทางทะเล และโดรนลาดตระเวนไร้อาวุธ ตามการเปิดเผยของแหล่งข่าว เวียดนามเพิ่งอัปเกรด และขยายการป้องกันทางอากาศ รวมทั้งได้รับเรดาร์เฝ้าระวังเตือนภัยล่วงหน้าจากอิสราเอล และจรวดต่อสู้อากาศยานจากพื้นสู่อากาศ S-300 จากรัสเซีย

การใช้จ่ายทางทหารที่เพิ่มขึ้นของเวียดนามได้ก้าวเกินกว่าเพื่อนบ้านในภูมิภาคในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ตามการระบุของสถาบันวิจัยสันติภาพนานาชาติสตอกโฮล์ม (SIPRI)

“พวกเขาไม่ได้ทำสิ่งเหล่านี้เพื่อการสวนสนามในวันชาติ แต่พวกเขากำลังสร้างแสนยานุภาพทางทหารที่แท้จริง” ทิม ฮักซ์ลีย์ ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงในภูมิภาคของสถาบันยุทธศาสตร์ศึกษานานาชาติในสิงคโปร์ กล่าว

ขณะที่พรรคคอมมิวนิสต์ปกครองทั้งเวียดนาม และจีนและแบ่งปันพันธะทางการเมือง สองประเทศมีประวัติศาสตร์ของความขัดแย้ง และช่วงเวลายาวนานของความไม่ไว้วางใจ

งานวิจัยทางวิชาการล่าสุดได้เผยให้เห็นว่าสงครามจีน-เวียดนาม ในปี 2522 มีความตึงเครียดมากกว่าเท่าที่ทราบกัน และยาวนานมาจนถึงกลางทศวรรษ 1980 ที่ทั้งสองฝ่ายปะทะกันในทะเลในปี 2531 เมื่อจีนเข้าครองหมู่เกาะสแปรตลีย์ครั้งแรก ซึ่งความพ่ายแพ้ครั้งนั้นยังคงรู้สึกอย่างรุนแรงในฮานอย

จีนยังเข้าควบคุมหมู่เกาะพาราเซลอย่างเต็มรูปแบบ หลังเผชิญหน้าทางเรือกับเวียดนามใต้ที่ปกครองอยู่ในขณะนั้นในปี 2517 ที่ฮานอยยังคงประท้วงการครอบครองของจีน

และเมื่อเร็วๆ นี้ การตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันของจีนในน่านน้ำพิพาทนาน 10 สัปดาห์ในช่วงกลางปียังก่อให้เกิดเหตุจลาจลต่อต้านจีนทั่วเวียดนาม

การตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันบนไหล่ทวีปห่างจากชายฝั่งเวียดนาม 80 ไมล์ทะเล เป็นการเปลี่ยนเกม เจ้าหน้าที่ในกรุงฮานอยกล่าว ซึ่งในหมู่ผู้นำทางการเมือง และทหารต่างสงสัยในตัวประธานาธิบดีสี จิ้นผิง

ฮานอย ส่งเรือพลเรือนหลายสิบลำเข้าเผชิญหน้ากับเรือรักษาการณ์ชายฝั่งและเรือรบร่วม 70 ลำ ของจีน ที่ส่งมาคุ้มกันแท่นขุดเจาะน้ำมันในกลางปี 2557

“มันเป็นสิ่งที่ช่วยเตือนพวกเราทั้งหมดถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ในทะเลจีนใต้” ทหารเรือสหรัฐฯ เกษียณราชการ กล่าว
.
<br><FONT color=#000033>นายทหารเวียดนามยืนอยู่บนเรือดำน้ำชั้นคิโลจากรัสเซีย ระหว่างการฉลองวันกองทัพเรือเวียดนาม ที่ท่าเรือกามแรง จ.แค้งฮว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ค. 2558. -- Reuters/Vietnam Peoples Army Newspaper.</font></b>
.
<br><FONT color=#000033>จรวดต่อต้านอากาศยานถูกยิงออกจากรถบรรทุจรวดหมู่ BM21 Grad ที่ทำในรัสเซีย ขณะฝึกซ้อมทางทหารนอกนครโฮจิมินห์ เมื่อวันที่ 7 พ.ย. -- Reuters/Vietnam Peoples Army Newspaper.</font></b>
.
นักยุทธศาสตร์ทางทหารของจีนไม่พอใจค่ายทหาร 24 แห่ง ที่ฮานอยสร้างขึ้นทั่วหมู่เกาะสแปรตลีย์ นับตั้งแต่เวียดนามเสียหมู่เกาะพาราเซลในปี 2517 และจีนกำลังสร้างทางวิ่งขึ้นลงเครื่องบิน 3 แห่ง บนเกาะเทียมที่จีนสร้างขึ้นจากแนวปะการังในหมู่เกาะสแปรตลีย์ ที่ได้มาจากกองกำลังเวียดนามในปี 2531

คำแถลงจากกระทรวงกลาโหมของจีนที่รอยเตอร์ได้รับระบุว่า กองทัพสองประเทศมีความสัมพันธ์ที่เป็นมิตร และใกล้ชิดกัน และจีนหวังที่จะทำงานร่วมกันกับเวียดนามเพื่อสันติภาพของภูมิภาค

“ทั้งสองฝ่ายมีการแลกเปลี่ยนมุมมองความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาต่อประเด็นทะเลจีนใต้ ทั้งสองฝ่ายควรมองหาทางแก้ไขพื้นฐาน และยั่งยืนที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับ” คำแถลงระบุ

ประวัติศาสตร์จีนอ้างสิทธิอธิปไตยเกือบทั้งหมดของทะเลจีนใต้ ด้วยการแสดงบนแผนที่ในลักษณะเส้นประ 9 เส้น ซ้อนทับเขตเศรษฐกิจจำเพาะของเวียดนาม ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และบรูไน

การค้าทางเรือที่มีมูลค่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ผ่านน่านน้ำแห่งนี้ทุกปี รวมทั้งน้ำมันที่นำเข้าโดยจีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้

ความสำคัญต่อจีนในการปกป้องฐานเรือดำน้ำของประเทศบนเกาะไหหลำ ที่คาดว่าจะเป็นที่ตั้งของกองเรือดำน้ำติดอาวุธนิวเคลียร์ในอนาคต อาจเป็นอีกหนึ่งจุดอ่อนไหว ปักกิ่งยังมีเครื่อบินรบและเรือรบชั้นยอดหลายลำประจำการอยู่รอบเกาะไหหลำ กองเรือภาคใต้ของจีนแห่งนี้อยู่ใกล้กับชายฝั่งภาคเหนือของเวียดนาม และเป็นช่องทางน้ำลึกสำคัญของจีนที่จะเข้าถึงทะเลจีนใต้ และไกลไปกว่านั้น

บรรดานายพลเวียดนามได้ให้ความกระจ่างต่อผู้เยี่ยมชมชาวต่างชาติว่า พวกเขาทราบถึงข้อจำกัดของตนเอง เนื่องจากในช่วงสองทศวรรษที่ผ่านมา จีนเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหมในอัตราเลขสองหลักที่ทำให้จีนมีกองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกองทัพบกติดอาวุธดีขึ้น และมีขนาดใหญ่ขึ้น

ทูตทหารต่างประเทศ กล่าวว่า พวกเขาพยายามที่จะวัดประเมินขีดความสามารถที่แท้จริงของเวียดนาม และพวกเขาเข้ากันกับอาวุธใหม่ที่ซับซ้อนได้ดีเพียงใด

นักยุทธศาสตร์ทางทหารเวียดนามพูดถึงการสร้าง “การป้องปรามที่น่าเชื่อถือขั้นต่ำ” ที่จะเพิ่มความเสียหายต่อความเคลื่อนไหวใดๆ ของจีนที่มีต่อเวียดนาม ไม่ว่าจะเป็นการเผชิญหน้าทางทะเล หรือการโจมตีข้ามชายแดนทางเหนือ

หากเหตุขัดแย้งเกิดปะทุขึ้น ฮานอยอาจมุ่งเป้าไปที่เรือสินค้า และเรือน้ำมันของจีนในทะเลจีนใต้ คาร์ล เธเยอร์ ระบุ โดยอ้างว่าเขาได้รับทราบสิ่งนี้จากผู้เชี่ยญชาญด้านยุทธศาสตร์ชาวเวียดนาม

“แม้เป้าหมายจะไม่ใช่การเอาชนะกองกำลังที่เหนือกว่าของจีน แต่จะสร้างความเสียหายและความไม่แน่นอนทางด้านจิตใจ ซึ่งจะทำให้อัตราประกันภัยของบริษัทลอยด์พุ่งพรวด และนักลงทุนต่างชาติหวั่นวิตก” คาร์ล เธเยอร์ ระบุ

ด้านกระทรวงการต่างประเทศของเวียดนามไม่ได้ตอบรับคำร้องขอความคิดเห็นในเรื่องนี้.
.
<br><FONT color=#000033>แผ่นป้ายรณรงค์ขนาดใหญ่ติดตั้งอยู่หน้าสำนักงานใหญ่กองพลทหารราบที่ 308 ในเมืองซวนมาย ชานกรุงฮานอย เมื่อวันที่ 10 ก.ค. -- Reuters/Greg Torode.</font></b>
กำลังโหลดความคิดเห็น