รอยเตอร์ - ชาติต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ยังไม่บรรลุข้อสรุปคำแถลงของการประชุมภูมิภาคในมาเลเซีย เนื่องจากยังติดขัดเกี่ยวกับวิธีที่จะอ้างถึงข้อพิพาททะเลจีนใต้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสิงคโปร์ เผยวันนี้ (6)
ความล่าช้าเป็นสัญญาณของความไม่ลงรอยกันภายในสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (อาเซียน) ในการจัดการกับการรุกรานของจีนในทะเลจีนใต้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการก่อสร้างเกาะเทียมเมื่อไม่นานนี้ของจีนในบริเวณน่านน้ำ
“คำแถลงร่วมควรเสร็จสิ้นตั้งแต่เมื่อวาน แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้ข้อสรุป” เค ชันมูกัม รัฐมนตรีต่างประเทศสิงคโปร์ กล่าวในการแถลงข่าวในกรุงกัวลาลัมเปอร์
“ย่อหน้าที่เกี่ยวข้องต่อทะเลจีนใต้ทำให้เกิดปัญหาบางอย่าง” ชันมูกัม กล่าวและว่า ยังไม่มีฉันทมติว่าย่อหน้าดังกล่าวควรจะเป็นอย่างไร
ความตึงเครียดเกี่ยวกับทะเลจีนใต้ได้แย่งชิงพื้นที่ในการเจรจาหารือในสัปดาห์นี้ในเมืองหลวงของมาเลเซีย ที่รัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนได้พบหารือกับประเทศคู่เจรจาจากชาติต่างๆ ที่รวมทั้ง จีน และสหรัฐฯ
จีน อ้างสิทธิอธิปไตยเหนือน่านน้ำของทะเลจีนใต้เกือบทั้งหมด ที่เป็นเส้นทางเดินเรือที่มีมูลค่าการค้ากว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์ในแต่ละปี ฟิลิปปินส์ เวียดนาม มาเลเซีย ไต้หวัน และบรูไน ต่างอ้างสิทธิทับซ้อนเหนือพื้นที่ดังกล่าว
รัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนได้สรุปการหารือในวันอังคารหลังปฏิเสธคำร้องของจีนที่ให้ยกเว้นประเด็นข้อพิพาททะเลจีนใต้ออกจากวาระหารือ ซึ่งรัฐมนตรีต่างประเทศของบางประเทศ รวมทั้งเจ้าภาพมาเลเซีย ระบุว่า ประเด็นดังกล่าวมีความสำคัญเกินกว่าจะไม่สนใจ
ร่างคำแถลงก่อนหน้านี้ ระบุว่า อาเซียนมีความวิตกเกี่ยวกับการพัฒนาในทะเลจีนใต้ และเน้นย้ำว่า ไม่ควรใช้การคุกคาม หรือใช้กำลัง และยังแสดงความกังวลต่อความคืบหน้าของการเจรจาในความพยายามที่จะตกลงเรื่องระเบียบปฏิบัติ (Code of Conduct) ที่มีวัตถุประสงค์ให้เป็นข้อผูกพันของจีน และอาเซียนต่อกฎระเบียบพฤติกรรมในทะเล
หวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศของจีน กล่าวเมื่อวันพุธ (5) ว่า ปักกิ่งได้ยุติการถมทะเลในทะเลจีนใต้และว่า อาเซียน และจีนมีความปรารถนาร่วมกันที่จะแก้ไขปัญหาผ่านการเจรจา
ในเดือน มิ.ย. จีนระบุว่า การถมทะเลสร้างเกาะเทียมในหมู่เกาะสแปรตลีย์ของทะเลจีนใต้ใกล้เสร็จสมบูรณ์ ขณะเดียวกัน ก็จะเริ่มก่อสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกบนเกาะเทียมดังกล่าว
อินโดนีเซีย และพม่า ระบุว่า สิ่งสำคัญอย่างแรกคือ การทำให้ระเบียบปฏิบัติเสร็จสมบูรณ์ ซึ่่งโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอินโดนีเซีย ระบุว่า เขาไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้เวลายาวนานเท่าใด แต่ตราบเท่าที่มีการร่วมมือ นั่นถือเป็นสัญญาณที่ดี
