MGRออนไลน์ -- ปี 2558 กำลังจะผ่านพ้นไปอีกปี แต่ปีนี้ไม่ธรรมดาสำหรับเครื่องบินขับไล่โจมตียี่ห้อสวีเดน ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูงในด้านการตลาด หลังจากบราซิลซื้อไปล็อตใหญ่ ซึ่งได้ทำให้ JAS39 "กริพเพน" (Gripen) กลายเป็นประชาคมเครื่องรบที่มีขนาดใหญ่โตขึ้นมาทันที ไม่ผิดเลยที่บริษัทผู้ผลิตเรียกปีนี้เป็น "ปีแห่งกริพเพน"
นับตั้งแต่กลางปี 2558 เป็นต้นมา ซาบกรู๊ป (Saab Group) ได้จัดทำปฏิทินออนไลน์ขึ้นมา เป็นประจำทุกเดือนหมุนเวียนกันไป โดยใช้รูปภาพกริพเพน ของกองทัพอากาศประเทศต่างๆ ที่มีประจำการอยู่ในขณะนี้ และ สำหรับกริพเพนของไทย ได้กลายเป็นดาราบนหน้าปฏิทินซาบประจำเดือน พ.ย. ที่เพิ่งจะผ่านมา โดยมีกริพเพ่นของกองทัพอากาศแอฟริกาใต้ เป็นดาวเด่นประจำเดือนสุดท้ายของปี
JAS39 ได้ชื่อเป็นเครื่องบินรบขนาดเล็กแต่แข็งแกร่ง อาศัยความเร็ว ความคล่องตัว กับ การเชื่อมข้อมูลเรดาร์ กับการออกปฏิบัติการกันเป็นกลุ่ม อย่างที่ซาบเรียบกว่า "ล่าเหยื่อกันเป็น (ทีม) ฝูง"
เล็กและเร็ว ทั้งยังบินขึ้นลงสะดวก ต้องการทางวิ่งสั้นๆ เพียง 400-500 เมตร ลงจอดและบินขึ้นได้จากถนนลาดยางเรียบๆ ธรรมดา ดูแลรักษาก็ง่าย ติดอาวุธต่างๆ ได้ง่าย โดยไม่จำเป็นต้องบินกลับฐานทัพ เพียงแต่มีหน่วย "โมบายล์ เซอร์วิส" ออกให้บริการเคลื่อนที่ ตามจุดใกล้เคียงที่ขึ้นลงสะดวกเท่านั้น
และกริพเพนก็ต้องการเพียงเต็นท์ผ้าใบง่ายๆ แทนโรงจอด หรือ โรงซ่อมเครื่องบินที่ใหญ่โตหรูหรา สำหรับป้องกันแดด ลม ฝน
กริพเพนยังได้ชื่อเป็นเครื่องบินรบที่มีค่าใช้จ่ายต่อชั่วโมงบินต่ำที่สุด และ สามารถยืดขยายระยะปฏิบัติการออกไปได้ ด้วยการเติมน้ำมันกลางอากาศ หรือ บินลงเติมเชื้อเพลิงจากหน่วยสนับสนุนเคลื่อนที่ ณ ตรงจุดใดก็ได้ โดยไม่ต้องบินกลับฐานทัพ
.
Gripen: The Smart Fighter |
|
.
ปีสองปีมานี้ ซาบกับพันธมิตรยุโรปตะวันตก ทยอยผลิตอาวุธที่เป็นเขี้ยวเล็บสำหรับกริพเพนออกมาเป็นระยะ ทั้งจรวดต่อสู้อากาศยาน และ ระเบิดสำหรับทำลายที่มั่นของข้าศึกที่อยู่เบื้องล่าง บริษัทผู้ผลิตได้อัปเกรตอุปกรณ์กับระบบเอวิโอนิกส์ ระบบควบคุมต่างๆ มาเป็นระยะเช่นกัน รวมทั้งเครื่องยนต์ที่สามารถอัปเกรตได้ หรือ เปลี่ยนใหม่ได้ โดยใช้เวลาเพียงประมาณ 1 ชั่วโมงเท่านั้น
นอกจากนั้นยังมีการพัฒนาระบบเรดาร์ตรวจไกลทั้งทางบก เรือและทางอากาศ เพื่อร่วมปฏิบัติการกับกริพเพน รวมทั้งพัฒนาเครื่องบินตรวจการณ์ ติดตั้งอุปกรณ์แจ้งเตือนล่วงหน้ากับระบบควบคุมต่างๆ เพื่อเชื่อมข้อมูลเรดาร์กับฝูงบินทั้งฝูง รวมทั้งกองเรือรบในทะเลกับเรือดำน้ ำและ กองกำลังป้องกันทางบกด้วย
จาก Gripen C/D พัฒนาเป็น Gripen E ซึ่งได้กลายมาเป็น "Gripen NG" หรือ Gripen Next Generation (กริพเพนสำหรับยุคหน้า) ในที่สุด
เดือน ก.ย.ปีนี้ กลุ่มซาบออกแถลงว่า สัญญากับรัฐบาลบราซิลได้เริ่มมีผลบังคับใช้ และจะเริ่มผลิต JAS39 รุ่นล่าสุดในบราซิล ระหว่างปี 2563-2567 ภายใต้ข้อตกลงมูลค่า 39,900 ล้านโครนา เงินสวีเดน หรือประมาณ 4,780 ล้านดอลลาร์ รวมเป็น Gripen NG ทั้งหมด 36 ลำ ซึ่งเป็นการขายเครื่องบินรบรุ่นใหม่ล็อตใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
.
2
3
4
5
6
7
อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงกับบราซิลไม่ใช่การขายเครื่องบินรบธรรมดาทั่วไป หากหมายความว่าอุตสาหกรรมเครื่องบินอันใหญ่โตของบราซิล ได้มีสมาชิกใหม่เพิ่มขึ้นอีก สัญญากับกลุ่มซาบได้ครอบคลุมถึง การซื้อโนว์ฮาวและเทคโนโลยีอากาศยานเพื่อการนสงคราม ของค่ายยุโรปแห่งนี้อีกด้วย
สัญญากับบราซิลยังเป็นขีดหมายสำคัญ ที่ทำให้มี "ปีของกริพเพน" นับเป็นการเปิดตลาด JAS39 ครั้งแรกในย่านอเมริกาใต้ ไม่ต่างกับการเปิดตลาดในทวีปเอเชียเมื่อปี 2551 ซึ่งกองทัพอากาศไทยเป็นลูกค้ารายแรก สั่งซื้อล็อตแรกจำนวน 6 ลำ เป็น Gripen C ที่นั่งเดี่ยว 2 ลำ กับ Gripen D สองที่นั่งอีก 4 ลำ ซาบได้ทยอยส่งมอบจนครบในปี 2554
ต่อมาในเดือน พ.ย.2553 ไทยสั่งซื้อเพิ่มอีกล็อตหนึ่งจำนวน 6 ลำ ได้รับมอบครบทั้งหมดในปลายปี 2556 และ ยังแสดงเจตนาจะซื้ออีกอย่างน้อย 6 ลำในล็อตต่อไป
ตามรายงานของซาบ และรายงานของสื่อประเทศต่างๆ ในย่านนี้ "บราซิลโมเดล" อาจจะไปใช้กับอินเดียอีกประเทศหนึ่ง ซึ่งในปัจจุบันยังคงมองหาเครื่องบินโจมตีขับไล่ยุคใหม่นับร้อยลำ และ ได้ลดจำนวนการซื้อราฟาล (Rafale) จากฝรั่งเศสลงเหลือเพียงไม่กี่สิบลำ เพื่อเปิดทางให้เครื่องบินรบค่ายๆ อื่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือ JAS39
.
"ธงไตรรงค์สูงเด่นเหนือยุโรป"Saab AB/Katsuhiko Tokunaga
.
8
9
10
ทั้งฟิลิปปินส์และเวียดนาม ที่ยังต้องการเครื่องบินรบรุ่นใหม่ เพื่อนำเข้าประจำการแทนรุ่นเก่าที่ใช้งานมานาน หรือ ทดแทนรุ่นที่ปลดระวางออกไปเป็นเวลานานมาแล้ว ต่างพิจารณาถึงความเหมาะสมของกริพเพน ในการนำไปใช้งานตามสภาพพื้นที่ท้องถิ่นในแต่ละประเทศ ซึ่งอาจจะทำให้ "อินเดียโมเดล" มีความเป็นไปได้มากขึ้นไปอีก
ในสายตาของนักวิเคราะห์ทางการทหาร สวีเดนเป็นประเทศหน้าด่านของยุโรปเหนือ ที่มีสภาพภูมิศาสตร์ทั้งน่านน้ำและน่านฟ้า ติดกับอาณาจักรใหญ่สหภาพโซเวียตในอดีต และ รัสเซียในวันนี้ ไม่มีสงครามครั้งใดระหว่างรัสเซียกับยุโรปตะวันตกครั้งก่อนๆ ที่สวีเดนจะรอดพ้นจากการถูกเหยียบย่ำ เพราะฉะนั้นสวีเดนจึงสร้างระบบป้องกันที่ดีที่สุด เพื่อพิทักษ์น่าฟ้ากับน่านน้ำ ให้พ้นจากการรุกรานของอีกฝ่ายหนึ่ง
พูดอย่างเป็นรูปธรรมก็คือ สวีเดนสร้างกริพเพนขึ้นมา เพื่อต่อกรกับเครื่องบินรบทันสมัยของรัสเซียในปัจจุบัน และ สวีเดนสร้างเรือดำน้ำเพื่อพิฆาตเรือรบกับเรือดำน้ำของรัสเซีย
เพราะฉะนั้นปี 2559 หรือไม่ก็ปีถัดไป อาจจะมี JAS39 ของกองทัพอากาศแห่งอื่นๆ ในย่านนี้ ไปปรากฏบนแผ่นปฏิทินในสวีเดนบ้างก็เป็นได้.