เวียดนาม-จีนเห็นชอบสร้างความไว้วางใจต่อกันเสริมความสัมพันธ์-ความร่วมมือ

รอยเตอร์ - เวียดนาม ตกลงที่จะสร้าง “ความสัมพันธ์ที่ไว้วางใจอย่างแท้จริง” กับจีนในวันนี้ (6) ระหว่างการเยือนกรุงฮานอย ของประธานาธิบดีสี จิ้นผิง แต่ในช่วงเวลาเดียวกันเวียดนามได้เชิญญี่ปุ่น ที่เป็นคู่ปรับเก่าของจีนเข้าร่วมการซ้อมรบ และเยือนท่าเรือยุทธศาสตร์ของประเทศ

ความวุ่นวายทางการทูตเน้นย้ำให้เห็นถึงความเปราะบางของความสัมพันธ์ที่แปรปรวนระหว่างจีนกับเพื่อนบ้านคอมมิวนิสต์ และความพยายามของเวียดนามที่จะสร้างความหลากหลายของความสัมพันธ์ผ่านพันธมิตรใหม่ๆ กับประเทศที่ติดอยู่ในความขัดแย้งกับปักกิ่งเกี่ยวกับการขยายพื้นที่ทางทะเลของจีน

การแข่งขันอ้างสิทธิอธิปไตยเหนือดินแดนของเวียดนาม และจีนขยายตัวขึ้นอย่างรวดเร็วจนกลายเป็นข้อพิพาทใหญ่เมื่อปีก่อน ที่สี จิ้นผิง ตั้งใจที่จะแก้ไขในช่วงเวลาที่เยือนเวียดนามซึ่งใกล้กับกำหนดการปรับเปลี่ยนผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์

ผู้นำจีนได้รับการปฏิบัติเป็นอย่างดีในระหว่างการพบหารือตั้งแต่วันพฤหัสบดี (5) กับผู้นำระดับสูงของเวียดนาม และเขาได้กล่าวต่อที่ประชุมรัฐสภาของเวียดนามถึงมิตรภาพร่วมกันที่สามารถกำจัดปัญหา และหลุดพ้นจากภาวะชะงักงัน

“พรรคการเมือง ประเทศ และประชาชนของเราทั้งสองฝ่ายควรไว้วางใจในความเชื่อของเรา การช่วยเหลือกันและกัน และดำเนินการไปด้วยกัน ไม่ให้ใครขัดขวางความร่วมมือของเรา” สี จิ้นผิง กล่าว

ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกันที่จะรักษาความสงบสุขทางทะเล และไว้วางใจต่อกัน แต่ขณะที่สี จิ้นผิง เตรียมที่จะเดินทางออกจากเวียดนาม รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของญี่ปุ่นได้ประกาศว่าเวียดนามเชิญญี่ปุ่นเข้าร่วมในการฝึกซ้อมร่วมด้านมนุษยธรรม และอนุญาตให้เรือรบของญี่ปุ่นเข้าเยี่ยมอ่าวกามแรง เมื่อการก่อสร้างท่าเรือใหม่เสร็จสมบูรณ์

ญี่ปุ่น และจีนมีปัญหาพิพาทดินแดนในทะเลจีนตะวันออก และอ่าวกามแรงถือเป็นอัญมณีมีค่าของกองทัพเวียดนาม ด้วยเป็นที่ประจำการของกองเรือดำน้ำที่สร้างขึ้นในรัสเซีย การเยือนของเรือต่างชาติถือเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ยาก
.

.
การรับรองอย่างอบอุ่นของเวียดนามต่อจีน และข้อตกลงกับญี่ปุ่นในวันเดียวกันที่ดูเหมือนเป็นการต่อต้านปักกิ่ง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความตั้งใจของฮานอยที่ต่องการมีส่วนร่วมกับอำนาจในฝั่งตะวันตก และเอเชียในด้านการป้องกัน การค้า และการลงทุน

การตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันของจีนโดยไม่มีการประกาศในน่านน้ำนอกชายฝั่งเวียดนามเมื่อเดือน พ.ค.2557 ถูกมองอย่างกว้างขวางว่า เป็นการคำนวณผิดพลาดที่ทำให้สหรัฐฯ และพันธมิตร เช่น ญี่ปุ่น เปิดฉากเข้าควบคุมฮานอยออกจากวงโคจรของปักกิ่ง

การถมทะเลสร้างเกาะเทียมของจีนใกล้กับหมู่เกาะสแปรตลีย์ ยิ่งเพิ่มความไม่พอใจ และทำให้ผู้ปกครองของเวียดนามอยู่ในสถานะลำบาก ด้วยแรงกดดันจากชาวเวียดนามชาตินิยม และแม้แต่สมาชิกพรรคบางส่วนที่ต้องการให้ดำเนินการแข็งกร้าว

ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ไม่ได้กล่าวถึงทะเลจีนใต้ แต่อ้างถึงเพียง “บททดสอบ” ที่ทั้งสองฝ่ายต้องเผชิญ โดยย้ำว่า ความสัมพันธ์ต้องไม่หลงออกจากเส้นทางที่ถูกต้อง

ส่วนประธานาธิบดีเจื่อง เติ่น ซาง ของเวียดนาม กล่าวว่า ความไว้วางใจในความสัมพันธ์ลดลงในหมู่ประชาชน และสมาชิกพรรค เนื่องจากข้อพิพาท และความขัดแย้ง แต่เรียกร้องให้ทั้งสองฝ่ายเพิ่มการสร้างความไว้วางใจทางการเมือง ความร่วมมือ และความพยายามที่จะแก้ไขปัญหาที่มีอยู่.