xs
xsm
sm
md
lg

ปธน.จีน เยือนเวียดนามซ่อมแซมความสัมพันธ์หลังขัดแย้งทะเลจีนใต้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ผู้ชุมนุมประท้วงถือรูปประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีนที่มีรอยขีดกากบาททับ และป้ายต่อต้านจีนระหว่างชุมนุมประท้วงก่อนการเยือนเวียดนามของผู้นำจีน บนถนนสายหนึ่งในกรุงฮานอย เมื่อวันที่ 3 พ.ย. กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านจีนรวมตัวกันหน้าโรงละครในกรุงฮานอยและเดินขบวนไปตามถนนสายต่างๆ เพื่อแสดงความคิดเห็รต่อการเยือนของผู้นำจีนระหว่างวันที่ 5-6 พ.ย.--Reuters/Kham.</font></b>

รอยเตอร์ - แม้ว่าประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน จะไม่ได้นั่งรถม้า หรือชนแก้วเบียร์ในผับท้องถิ่นของนายกรัฐมนตรีในการเยือนเวียดนาม แต่การต้อนรับอบอุ่นได้จัดเตรียมรอไว้ขณะที่ทั้งสองฝ่ายหาทางที่จะซ่อมแซมความสัมพันธ์หลังขัดแย้งรุนแรงเมื่อปีก่อน

ผู้นำจีนจะได้รับการปฏิบัติแบบปูพรมแดง งานเลี้ยงใหญ่ และโอกาสที่จะได้กล่าวสุนทรพจน์ยังรัฐสภา เมื่อเดินทางถึงกรุงฮานอยในวันศุกร์ (6) แม้จะเป็นเพียงชั่วระยะเวลาสั้นๆ ก็ตามเมื่อเทียบกับที่เขาได้รับในอังกฤษเมื่อเดือนก่อน ทั้งการนั่งรถม้าร่วมกับสมเด็จพระราชินีเอลิซาเบธที่ 2 และร่วมดื่มเบียร์กับนายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน

การเยือนเวียดนามของประธานาธิบดีสีครั้งนี้ยังถูกบดบังจากการประกาศที่ว่าเขาจะพบหารือกับประธานาธิบดีของไต้หวันในสิงคโปร์เสาร์นี้ (7) ที่เป็นการพบหารือกันครั้งแรกของผู้นำจากสองชาติคู่ขัดแย้งนับตั้งแต่แตกแยกกันในช่วงสิ้นสุดสงครามกลางเมืองเมื่อปี 2492

อย่างไรก็ตาม เดิมพันทางภูมิรัฐศาสตร์นั้นมีค่าสูงสำหรับจีน เมื่อความสัมพันธ์ของเวียดนามกับสหรัฐฯ อบอุ่นขึ้นอย่างรวดเร็ว ที่เชื่อว่าเป็นผลจากการหว่านล้อมของวอชิงตัน ในขณะที่เพื่อนบ้านคอมมิวนิสต์ขัดแย้งกันเกี่ยวกับการตั้งแท่นขุดเจาะน้ำมันในน่านน้ำทะเลจีนใต้ที่เป็นข้อพิพาท

เหตุไม่สงบต่อต้านจีนปะทุขึ้นในเวียดนาม หลังฮานอยกล่าวหาว่า เรือของจีนเจตนาชนเรือของเวียดนามในน่านน้ำพิพาท เรือของกองทัพเรือ และหน่วยป้องกันชายฝั่งหลายสิบลำจากทั้งสองประเทศต่างอยู่ในน่านน้ำบริเวณดังกล่าวเวลานั้น

แม้ความไม่ไว้ใจยังคงมีอยู่ แต่ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า การเยือนของประธานาธิบดีจีนเกิดขึ้นในเวลาที่เหมาะสม คือ ช่วงเวลาสองเดือนก่อนเวียดนามจะปรับเปลี่ยนผู้นำในทุก 5 ปี ที่ทำให้จีนมีโอกาสที่จะรักษาบาดแผล และย้ำเตือนผู้บริหารระดับสูงของพรรคว่าปักกิ่งมีข้อเสนอมอบให้อย่างมากมาย

“สีเยือนเวียดนามในช่วงกลางของการอภิปรายผู้นำที่กำลังเดินอยู่ เขาอาจต้องการที่จะพยายามปรับสมดุลถอยห่างจากผู้นำที่คัดค้านอย่างหนักต่อความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับปักกิ่ง และเปิดรับความสัมพันธ์ใกล้ชิดยิ่งขึ้นกับวอชิงตัน” เมอร์เรย์ เฮเบิร์ต ผู้เชี่ยวชาญด้านเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ของศูนย์ศึกษายุทธศาสตร์และการระหว่างประเทศ กล่าว

นับตั้งแต่ความขัดแย้งทะเลจีนใต้ในช่วง 18 เดือนที่ผ่านมามีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นมาก ความสัมพันธ์ของเวียดนามที่นอกเหนือไปกว่าจีนเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว และหลากหลาย เช่น ชุดข้อตกลงการค้าใหม่ๆ ที่รวมทั้งสหภาพยุโรป และข้อตกลง TPP นำโดยสหรัฐฯ ที่ทำให้เวียดนามเข้าถึงเศรษฐกิจที่มีมูลค่าร่วมกันกว่า 46 ล้านล้านดอลลาร์

ขณะเดียวกัน เกาหลีใต้กำลังเพิ่มการลงทุนผ่านกิจการต่างๆ เช่น ซัมซุง รวมทั้งญี่ปุ่น และสหรัฐฯ ได้จัดหาเรือ และการฝึกอบรมให้กับหน่วยรักษาชายฝั่งของเวียดนาม ส่วนรัสเซียได้ส่งมอบเรือดำน้ำ และกำลังอนุญาตให้เวียดนามใช้แบบของรัสเซียสร้างเรือติดจรวดชั้นตารานตุล

การสนับสนุนเหล่านั้น นักวิเคราะห์กล่าวว่า ได้เพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่เวียดนามในการกระตุ้นเศรษฐกิจประเทศ และการยับยั้งทางทหารเมื่อปักกิ่งเพิ่มการรุกรานด้วยการขยายอาณาเขตทางทะเล

การเยือนเวียดนามของสีถูกคัดค้านทั้งจากการร้องเรียนบนสื่อออนไลน์ของบรรดาชาวเวียดนามชาตินิยม และการชุมนุมประท้วงขนาดย่อมในกรุงฮานอยเมื่อวันอังคาร (3) ที่ทางการซึ่งโดยปกติอ่อนไหวอย่างมากต่อความรู้สึกต่อต้านจีนไม่ได้พยายามเข้าขัดขวาง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญบางส่วนระบุว่า ความอดทนอดกลั้นเช่นนั้นสะท้อนถึงความคิดเห็นต่อปักกิ่งในหมู่บุคคลชั้นสูงทางการเมืองของเวียดนาม

แต่ด้วยเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของโลก และร่วมแบ่งปันมูลค่าทางการค้าราว 60,000 ล้านดอลลาร์ต่อปี เวียดนามไม่แสดงสัญญาณของการปล่อยให้ความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจย่ำแย่ ซึ่งคาร์ล เธเยอร์ ผู้เชี่ยวชาญด้านเวียดนามระบุว่า การเยือนของสีอยู่ในส่วนที่ออกแบบมาเพื่อปฏิบัติการเชิงรุกผ่านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ.
กำลังโหลดความคิดเห็น