รอยเตอร์ - อองซานซูจี ผู้นำฝ่ายค้านพม่าเดินทางไปยังรัฐยะไข่ในวันนี้ (16) เพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเป็นเวลา 3 วัน แต่ซูจีจะข้ามพื้นที่ยังมีความรุนแรง ซึ่งพรรคฝ่ายค้านของเธอต้องเผชิญกับการแข่งขันอย่างดุเดือดจากพรรคชาตินิยมที่มีอิทธิพล
ในช่วงเวลาที่กำลังใกล้เข้าสู่การเลือกตั้งในวันที่ 8 พ.ย. ศาสนาและการเมืองถูกนำเข้ามาพัวพันกันมากขึ้น โดยซูจีถูกกล่าวหาจากคู่แข่งยะไข่ว่าทำตัวเป็นมิตรกับชาวมุสลิมมากเกินไป อันเป็นข้อหาที่ตรงกันข้ามกับพื้นที่ที่เหลือของประเทศและต่างประเทศ ที่ผู้นำ
พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่าพูดถึงชะตากรรมของชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมโรฮิงญาน้อยเกินไป
สมาชิกพรรค NLD ระบุว่าการตัดสินใจลงพื้นที่ต่างๆ ในรัฐยะไข่ของซูจี มีขึ้นตามข้อมูลที่ต้องยอมรับว่าพรรค NLD มีแนวโน้มที่จะได้รับการสนับสนุนไม่มากนักในเขตเลือกตั้งเหล่านี้
ขณะที่พรรค NLD คาดว่าจะทำได้ดีในการเลือกตั้งครั้งสำคัญ พรรคต้องเผชิญกับคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างพรรคแห่งชาติอาระกัน (ANP) ที่ได้รับการสนับสนุนจากกระแสชาตินิยมและความรู้สึกต่อต้านชาวมุสลิมที่เพิ่มมากขึ้นหลังเหตุรุนแรงในรัฐยะไข่ในปี 2555
พรรค ANP กล่าวหาว่าซูจีเห็นอกเห็นใจชาวโรฮิงญามากเกินไป และไม่สนใจปัญหาที่ชาวพุทธยะไข่กำลังเผชิญอยู่
ชาวโรฮิงญาราว 140,000 คน ยังคงอาศัยอยู่ในค่ายพักชั่วคราวในรัฐยะไข่และไม่มีส่วนร่วมในการเลือกตั้งปีนี้ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวก่อให้เกิดเสียงประณามจากนานาชาติต่อรัฐบาลกึ่งพลเรือนที่กำลังบริหารประเทศนับตั้งแต่การปกครองของทหารสิ้นสุดลงในปี 2554
จอห์น ยิน วิน หัวหน้าพรรค NLD เมืองตานด่วย (Thandwe) ยอมรับว่าพรรคมีโอกาสน้อยในรัฐยะไข่ แต่ยังมีความเป็นไปได้ที่จะชนะในพื้นที่นี้
ซูจีมีกำหนดเดินทางจากเมืองตานด่วย หลังเดินทางถึงในวันศุกร์ (16) ไปยังเมืองตองอูบ (Taungup) ที่เป็นสถานที่เกิดเหตุที่ช่วยจุดชนวนคลื่นความรุนแรงในเดือนมิ.ย. 2555 ที่ผู้แสวงบุญชาวมุสลิม 10 คน ถูกดึงลงจากรถโดยสารขณะเดินทางผ่านเมืองนี้ และถูกสังหารโดยกลุ่มม็อบ และเมืองตานด่วยก็ตกอยู่ในเหตุรุนแรงทางศาสนาเช่นกัน
ในเดือนต.ค. 2556 ชาวพุทธยะไข่ได้สังหารชาวมุสลิมกะมันในเมืองตานด่วย ซึ่งต่างไปจากชาวโรฮิงญา ชาวกะมันได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในกลุ่มชาติพันธุ์อย่างเป็นทางการ จากทั้งหมด 135 กลุ่มของประเทศ และประชาชนหลายร้อยคนกลายเป็นผู้ไร้ที่อยู่อาศัยจากเหตุรุนแรง
จอห์น ยิน วิน กล่าวว่า การรณรงค์หาเสียงของพรรค NLD ในเมืองตานด่วย มุ่งเน้นไปที่การสร้างความปรองดอง
"มีความกังวลอยู่ตลอด และไม่สามารถรับรองความปลอดภัยได้ เราหวังให้ซูจีช่วยแก้ปัญหานี้" โท โท อายุ 50 ปี ชาวมุสลิมกะมันที่อาศัยในเมืองตานด่วย กล่าว.
.
