รอยเตอร์ - เวียดนามจะยกเว้นกิจการรัฐบางรายจากความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (TPP) ที่เพิ่งบรรลุกันไปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้เจรจาที่จะรักษาภาษีส่งออกในส่วนของน้ำมันดิบ และถ่านหินเอาไว้เพื่อช่วยสนับสนุนงบประมาณรัฐที่ใช้จ่ายสูง ตามการเปิดเผยของหัวหน้าผู้เจรจาของเวียดนาม
เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่ร่วมลงนามในข้อตกลง TPP ที่คาดว่าเม็ดเงินการลงทุนหลั่งไหลเข้ามาในเศรษฐกิจของประเทศกว่า 186,000 ล้านดอลลาร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในส่วนของการผลิตต้นทุนต่ำ
ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อความมั่นคงของชาติ เวียดนามสามารถยกเว้นกิจการรัฐวิสาหกิจออกจากข้อตกลง TPP และไม่จำเป็นต้องเปิดเผยรายละเอียดในภาคส่วนเหล่านั้น เจิ่น ก๊วก แค็ง รัฐมนตรีช่วยกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้า กล่าว
สำหรับภาษีส่งออกถ่านหิน น้ำมันดิบ และแร่บางชนิดจะยังคงไว้เช่นเดิม และประเทศอื่นๆ ก็ได้เจรจาข้อยกเว้นที่คล้ายคลึงกันนี้เช่นกัน ซึ่งเวียดนามนั้นทำรายได้จากการส่งออกน้ำมันดิบ 7,200 ล้านดอลลาร์ และจากการส่งออกถ่านหิน 554.5 ล้านดอลลาร์ ในปีที่ผ่านมา
“ผลกระทบต่องบประมาณรัฐจะเกิดขึ้นน้อยที่สุด” แค็ง กล่าว
ส่วนวัตถุทางธรรมชาติที่มีลักษณะพิเศษ หรือหาได้ยากจะได้รับอนุญาตให้อยู่นอกกรอบข้อตกลง TPP ขณะที่ยังคงคุณสมบัติของกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าในส่วนของสิ่งทอ ที่เป็นหนึ่งในภาคส่วนสำคัญอันดับต้นของเวียดนาม
การผลิตเสื้อผ้าสำเร็จรูปและรองเท้าของเวียดนาม จะได้ประโยชน์อย่างมากจาก TPP หลังทำรายได้จากการส่งออก 31,000 ล้านดอลลาร์เมื่อปีก่อนให้แก่สินค้ายี่ห้อ เช่น Nike Adidas H&M Gap Zara Armani และ Lacoste
เวียดนาม ผลิตรองเท้า 1 ใน 10 ของปริมาณรองเท้าทั้งหมดโลก และเป็นแหล่งผลิตรองเท้าที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของสหรัฐฯ รองจากจีน
แม้ประโยชน์จาก TPP ที่เวียดนามได้รับจะมากกว่าความสูญเสีย แต่ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ข้อกำหนดสำหรับสหภาพแรงงานที่เป็นอิสระ การแข่งขันอย่างเป็นธรรม และความโปร่งใสของรัฐวิสาหกิจเป็นสิ่งที่ต้องคำนึง ซึ่งแค็ง ระบุว่า เวียดนามจะดำเนินการตามหลักการขององค์การแรงงานระหว่างประเทศว่าด้วยสหภาพบนพื้นฐานของความเคารพต่อสถาบันทางการการเมือง.
