เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีของเวียดนาม ให้คำมั่นว่าจะเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจ และป้องกันไม่ให้เหตุจลาจลโจมตีโรงงานชาวต่างชาติเกิดขึ้นซ้ำอีก ในความพยายามที่จะสร้างความมั่นใจให้แก่บรรดานักลงทุนที่หวั่นวิตก
นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง กล่าวว่า เหตุจลาจลที่เกิดขึ้นเมื่อกลางเดือน พ.ค. ซึ่งปักกิ่งระบุว่ามีคนงานชาวจีนเสียชีวิต 4 คน เป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด และไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ผู้นำเวียดนาม กล่าวยืนยันในที่ประชุมธุรกิจในกรุงฮานอยว่า จะไม่มีเหตุจลาจลเกิดขึ้นอีก และรัฐบาลจะรับประกันความปลอดภัย และความมั่นคงต่อธุรกิจของชาวต่างชาติ และชาวต่างชาติที่ทำงาน ศึกษาต่อ หรืออาศัยอยู่ในเวียดนาม พร้อมทั้งเรียกร้องให้นักลงทุนเชื่อมั่น และไว้วางใจในเวียดนาม
นับตั้งแต่จีนย้ายแท่นขุดเจาะเข้าไปในน่านน้ำพิพาทที่เวียดนามอ้างสิทธิอธิปไตยเมื่อต้นเดือน พ.ค. ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศเพื่อนบ้านคอมมิวนิสต์ก็ลดระดับลงจนถึงจุดต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ
กิจการของชาวไต้หวัน และเกาหลีใต้ได้รับผลกระทบหนักสุดจากเหตุความไม่สงบที่เกิดขึ้น โรงงานหลายแห่งถูกวางเพลิงเผาทำลายเสียหายในหลายพื้นที่ของภาคใต้ และภาคกลางของเวียดนาม
นายกฯ ยวุ๋ง ระบุว่า 90% ของกิจการที่ได้รับผลกระทบกลับมาดำเนินการได้ตามปกติแล้ว และให้คำมั่นที่จะให้ความช่วยเหลือแก่กิจการที่ยังไม่สามารถกลับมาดำเนินกิจการได้
“ทางการได้ดำเนินมาตรการที่จะลงโทษผู้กระทำความผิด และป้องกันไม่ให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นอีก” นายกรัฐมนตรีเวียดนาม กล่าว ทั้งยังให้คำมั่นว่าจะเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจภายในประเทศ ด้วยการปรับโครงสร้างเศรษฐกิจทั้งหมด และแปรูปกิจการของรัฐเป็นเอกชนในปีนี้
นอกจากนั้น ผู้นำเวียดนามยังเผยว่า ประเทศกำลังเจรจาข้อตกลงทางการค้า 6 ฉบับ ตั้งแต่ความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (TPP) ไปจนถึงข้อตกลงทวิภาคีกับสหภาพยุโรป และเกาหลีใต้
นายกฯ ยวุ๋ง ยังเน้นย้ำว่า รัฐบาลสามารถควบคุมเงินเฟ้อที่เคยอยู่ในระดับสูง และกระตุ้นการเติบโตของ GDP ได้อย่างต่อเนื่อง โดยอัตราการเติบโตของ GDP ในปี 2557 นี้ คาดว่าจะอยู่ที่ประมาณ 5.8% และขยายเป็น 6.0 ในปี 2558 และขยายตัวที่ 6.5% ต่อไปอีก 4 ปี.