รอยเตอร์ - ประธานาธิบดีเต็งเส่งของพม่า ได้แสดงตัวเป็นดังนักต่อสู้เพื่อเสรีภาพในการแสดงความคิด ในวิดีโอที่เผยแพร่เมื่อวันพุธ (23) ที่ยิ่งเพิ่มการคาดการณ์ว่า เต็งเส่งอาจกำลังมองไปที่การทำหน้าที่ประธานาธิบดีเป็นวาระที่ 2 ในขณะที่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งกำลังร้อนระอุ
ด้าน นางอองซานซูจี บุคคลทางการเมืองสำคัญอีกคนหนึ่งของประเทศ ได้ปลุกกระตุ้นฝูงชนด้วยข้อความเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลง การปฏิรูปที่รวดเร็วขึ้น และสหพันธรัฐที่รวมชนกลุ่มน้อยชาติพันธุ์
ขอบเขตของการเปลี่ยนแปลงเหล่านั้นจะถูกกำหนดโดยผลการเลือกตั้งวันที่ 8 พ.ย. ที่พรรครัฐบาล และพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตยของซูจี จะต่อสู้กับเพื่อช่วงชิงจิตใจและความคิดของผู้มีสิทธิเลือกตั้งมากกว่า 30 ล้านคน
วิดีโอของเต็งเส่งที่ตั้งชื่อว่า “เปิดเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็น” ถูกโพสต์ลงบนหน้าเพจเฟซบุ๊กส่วนตัว ที่แสดงความชื่นชมสรรเสริิญถึงการอนุญาตให้มีการจัดตั้งสหภาพแรงงาน และสิทธิในการชุมนุมประท้วง พร้อมแสดงภาพหนังสือพิมพ์กำลังถูกตีพิมพ์ ประชาชนพูดคุยข่าวตามร้านค้า และผู้ชุมนุมประท้วงมีอิสระที่จะเข้าร่วมในการเจรจาประชาธิปไตย
“เมื่อครั้งที่พม่ายังเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยการเซ็นเซอร์ ประชาชนไม่สามารถฝันถึงเสรีภาพของการแสดงความคิดเห็น นับตั้งแต่ประธานาธิบดีเต็งเส่ง เข้าบริหารประเทศ ทุกอย่างได้เปลี่ยนแปลงไป” คำบรรยายใต้วีดีโอ ระบุ
กลุ่มสิทธิมนุษยชน ระบุว่า พม่าก้าวหน้าจากวันที่ยังอยู่ภายใต้การปกครองของทหาร ที่รัฐบาลเผด็จการทหารจำคุก และทรมานฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง แต่รัฐบาลก็ยังคงควบคุมผู้เห็นต่าง และดำเนินคดีต่อนักศึกษา นักรณรงค์ปฏิรูปที่ดิน และนักเคลื่อนไหวอื่นๆ ขณะที่สมาคมช่วยเหลือนักโทษการเมืองพม่าระบุว่า พม่ายังมีนักโทษการเมืองอยู่ 108 คน และนักเคลื่อนไหวเกือบ 460 คน อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดี
แม้เต็งเส่ง จะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งในการเลือกตั้งเดือน พ.ย. แต่เขานำพรรคสหสามัคคีและการพัฒนาที่เป็นพรรครัฐบาลของพม่า และอาจได้รับเลือกเป็นสมัยที่ 2 โดยรัฐสภาชุดใหม่ที่จะเป็นการให้สิทธิเต็งเส่งตั้งรัฐบาล
คลิปวิดีโอของเต็งเส่งที่ประกอบไปด้วยภาพกราฟิกระดับมืออาชีพ และเพลงประกอบชิ้นนี้นับเป็นครั้งที่ 2 ของการแสดงผลงานความสำเร็จของรัฐบาลกึ่งพลเรือน
เต็งเส่ง ได้ส่งสัญญาณความมุ่งมั่นของตัวเอง ทั้งการรณรงค์ผ่านสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้น การถอดคู่แข่งทางการเมืองจากการเป็นหัวหน้าพรรคในเดือน ส.ค. และการเดินทางเยือนพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ล้วนมีแนวโน้มที่แสดงถึงความต้องการของเต็งเส่งที่จะดำรงตำแหน่งอีกวาระหนึ่ง.