ASTVผู้จัดการออนไลน์ - การพัฒนาเกาะฟุก๊วกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำคืบหน้าไปเร็ว สัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างระบบรถกระเช้าไฟฟ้าข้ามทะลเชื่อมเกาะฟุก๊วก กับอีกเกาะหนึ่งที่อยู่ห่างจากปลายแหลมลงไปทางใต้ ในโครงการลงทุนขนาดใหญ่ ที่รวมทั้งสวนสนุก อีโครีสอร์ต แหล่งท่องเที่ยวทางทะเล กีฬาทั้งทางน้ำและทางบก และสถานบันเทิงครบชุด เป็นโครงการใหม่ในแผนการพัฒนาการท่องเที่ยวของเกาะในอ่าวไทยแห่งนี้
ขณะเดียวกัน กลุ่มทุนขนาดใหญ่ที่สุดในเวียดนามอีกกลุ่มหนึ่งได้ประกาศโครงการก่อสร้างสวนสัตว์ใหญ่บนฟุก๊วก ในเนื้อที่กว่า 500 เฮกตาร์ หรือประมาณ 3,125 ไร่ ซึ่งกลุ่มทุนนี้กล่าวว่า จะพัฒนาให้เป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลก
สำหรับรถกระเช้าโครงการใหม่ จะสร้างขึ้นเชื่อมเมืองอานเถย (An Thoi) ทางตอนใต้สุดของฟุก๊วก ความยาวเกือบ 8 กิโลเมตร ข้ามอ่าวไปยังเกาะห่อนโทม (Hon Thom) ซึ่งเป็นเกาะใหญ่ที่สุดในหมู่เกาะอานเถย และกำลังจะเป็นรถกระเช้าไฟฟ้าสายยาวที่สุดในประเทศ ทำลายสถิติรถกระเช้าขึ้นสู่ยอดเข้าฟ่านสิปาน (Fan Si Pan) ในภาคเหนือ ที่มีระยะทางเพียง 1,574 เมตร
กลุ่มซันกรุ๊ป (Sun Group) ผู้ลงทุนสัมปทานรถกระเช้า และโครงการพัฒนาสวนสนุกบนเกาะห่อนโทม กล่าวว่า การพัฒนาทั้งหมดจะต้องใช้เงินทุนถึง 458.4 ล้านดอลลาร์ การก่อสร้างรถกระเช้าไฟฟ้ามูลค่า 225 ล้านดอลลาร์ เป็นเพียงเฟสที่ 1 เท่านั้น โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในกลางปี 2560
ระบบรถกระเช้าที่ใช้เทคโนโลยีจากยุโรป จะสร้างผ่านเกาะที่เล็กกว่าอีก 2 เกาะในหมู่เกาะเดียวกัน ประกอบด้วยรถ จำนวน 70 คัน แต่ละคันบรรทุกผู้โดยสารได้ 30 คน เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 8.5 เมตรต่อวินาที รับผู้โดยสารรวมกันได้ 3,500 คนต่อชั่วโมง ซเวินเหวียดออนไลน์ หนังสือพิมพ์อิเล็กทรอนิกส์ภาษาเวียดนามรายงาน
พร้อมๆ กับรถกระเช้าไฟฟ้า กับสวนสนุกขนาดใหญ่ บนเกาะห่อนโทมกำลังจะมีแหล่งท่องเที่ยวในทะเล มีรีสอร์ตที่พักเชิงนิเวศ แหล่งท่องเที่ยวเชิงผจญภัย เช่น กีฬาทางน้ำ ขี่จักรยานภูเขา ปีนหน้าผา แล่นเรือ และประดาน้ำ กับสวนผลไม้หลากชนิด ซึ่งจะให้ดอกผลบริการแก่นักท่องเที่ยวตลอดทั้งปี สื่อออนไลน์อ้าง นายดั่งมีงเจือง (Dang Minh Truong) รองประธานซันกรุ๊ป ระหว่างพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อสร้างรถกระเช้า ที่เมืองอายเถย วันที่ 4 ก.ย.
นายเจือง กล่าวด้วยว่า โครงการลงทุนต่างๆ เหล่านี้จะเป็นมิตรต่อสภาพแวดล้อมบนเกาะ และ ท้องทะเลรอบๆ เกาะ และประชาชนในท้องถิ่นจะได้รับประโยชน์โดยตรง และยังช่วยสร้างงานในท้องถิ่นนับพันตำแหน่งอีกด้วย
ผู้ที่เดินทางไปท่องเที่ยวห่อนโทมเมื่อเร็วๆ นี้รายงานว่า บนเกาะมีประชากรประมาณ 3,000 คน เกือบทั้งหมดประกอบอาชีพประมงพื้นบ้าน สามารถปั่นจักรยานเที่ยวชมรอบเกาะได้ภายในเวลาครึ่งชั่วโมง บนเกาะมีหาดทรายขาวสะอาด 2 แห่ง แวดล้อมด้วยธรรมชาติสวยงาม เดินทางจากเกาะใหญ่ฟุก๊วกไปที่นั่นโดยทางเรือซึ่งใช้เวลา 30 นาที ปัจจุบันยังไม่มีสถานบริการท่องเที่ยวใดๆ นอกจากบ้านพักริมทะเลแบบพื้นบ้านเพียงไม่กี่หลัง
ก่อนหน้านั้นในสัปดาห์ปลายเดือน ส.ค. บริษัทวินกรุ๊ป (VinGroup) กลุ่มทุนพัฒนาอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ในเวียดนาม ได้ประกาศแผนการก่อสร้างสวนสัตว์ขึ้นบนฟุก๊วก ซึ่งจะครอบคลุมพื้นที่ 2 คอมมูนบนเกาะ แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดว่าจะกลายเป็นสวนสัตว์ขนาดใหญ่อันดับ 2 ของโลกได้อย่างไร หรือในด้านไหน เพราะว่าในปัจจุบันก็ยังมีข้อถกเถียงกันมากมายเกี่ยวกับเรื่องนี้
ตามข้อมูลการจัดอันดับสวนสัตว์ใหญ่ที่สุดในโลก จำนวน 10 แห่งนั้น สวนสัตว์ซานดิเอโก ในแคลิฟอร์เนีย ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุด ด้วยเนื้อที่ 100 เอเคอร์ (250 ไร่) ประกอบด้วยสัตว์ 650 ตระกูล จำนวนกว่า 3,700 ชนิด อันดับ 2 เป็นสวนสัตว์บรอนซ์ (The Bronx Zoo) ในนิวยอร์ก 256 เอเคอร์ (1,600 ไร่) ประกอบด้วยสัตว์ 650 ตระกูล แต่มีจำนวนเกือบ 6,000 ชนิดไม่ซ้ำกัน ซึ่งมากกว่า และใหญ่กว่าสวนสัตว์ซานดิเอโก ทั้งจำนวนสัตว์ และขนาดพื้นที่
ไกลออกไปในกรุงลอนดอน สวนสัตว์ที่นั่นมีเนื้อที่เพียง 26 เอเคอร์ (90 ไร่) แต่ประกอบด้วยสัตว์จากทั่วโลก 755 ตระกูล จำนวนกว่า 17,000 ตัว และในประเทศโปแลนด์ กับอีกหลายประเทศก็ยังมีสวนสัตว์ที่มีเนื้อที่กว้างใหญ่กว่า และมีสัตว์มากชนิดกว่าสวนสัตว์ในสหรัฐฯ ทั้งหมด
สนามบินนานาชาติฟุก๊วกแห่งใหม่ เปิดใช้เฟสแรกในปลายปี 2555 ทำให้สามารถรองรับเครื่่องบินโดยสารขนาด 400 ที่นั่งสมัยใหม่ได้ทุกชนิด แต่ในปัจจุบันยังมีเพียงเวียดนามแอร์ไลน์ส กับเวียดเจ็ตแอร์ ที่เปิดให้บริการบินเชื่อมกรุงฮานอย กับนครโฮจิมินห์ เมืองเสียมราฐ และสิงคโปร์
อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่รัฐบาลประกาศพิมพ์เขียวเมื่อปี 2548 พัฒนาฟุก๊วกให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับโลก เทียบชั้นเกาะภูเก็ตของไทย และเกาะบาหลีในอินโดนีเซีย ได้มีโครงการลงทุนพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว และบริการต่างๆ บนฟุก๊วกคิดเป็นมูลค่ากว่า 4,000 ล้านดอลลาร์ โครงการรถกระเช้าไฟฟ้า และสวนสัตว์ขนาดใหญ่จะช่วยทำให้การท่องเที่ยวบนเกาะอ่าวไทย มีชีวิตชีวามากขึ้นไปอีกอย่างไม่ต้องสงสัย สื่อออนไลน์กล่าว.
.
2
3
4
5