ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการรัสเซีย ได้ส่งเครื่องบินรบอเนกประสงค์ Su-30MK2 ไปให้เวียดนามอีก 2 ลำ วันที่ 7 ส.ค.ที่ผ่านมา ในล็อตที่เซ็นสัญญาซื้อ จำนวน 12 ลำ เมื่อ 2 ปีที่แล้ว สื่อของทางการรัสเซียรายงานเมื่อวันพุธ แต่ยังไม่มีการระแคะระคายเกี่ยวกับเรื่องนี้จากรัฐบาลคอมมิวนิสต์เวียดนาม ซึ่งเป็นเรื่องปกติ
เครื่องบินรบทั้ง 2 ลำ ถูกถอดออกเป็นชิ้นๆ เช่นที่เคยทำมาทุกครั้ง นำขึ้นบรรทุกบนเครื่องบินขนส่งขนาดใหญ่แบบ An-124-100 จากโรงงานประกอบในเมืองคอมโซมอลสก์-ออน-อามูร์ (Komsomonlsk-on-Amur) ในแคว้นไซบีเรีย ไปถึงท่าอากาศยานนครด่าหนัง ในภาคกลางเวียดนาม และมีการจัดพิธีรับมอบอย่างเป็นทางการที่นั่น สำนักข่าวโนวอสติรายงาน
เครื่องบินทั้ง 2 ลำ ประกอบที่โรงงานกาการิน (Gagarin Factory) ซึ่งเป็นโรงงานในเครือบริษัทซูคอย (Sukhoi) ตามสัญญาซื้อขายมูลค่าราว 450 ล้านดอลลาร์ โดยฝ่ายรัสเซียกำหนดส่งมอบ ให้เวียดนามครบทั้ง 12 ลำ ภายในปี 2558 นี้
ในเดือน ธ.ค.2557 รัสเซีย ได้ส่ง Su-30MK2 ในล็อตเดียวกันนี้ให้เวียดนาม 2 ครั้งในเดือนเดียวกัน รวมจำนวน 4 ลำ และจะส่งมอบอีก 8 ลำที่เหลือภายในปีนี้ทั้งหมด ซึ่งหลังจากได้รับ 2 ลำเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็ยังคงเหลืออีก 6 ลำ
ระหว่างปี 2547-2555 กองทัพอากาศเวียดนาม ได้รับ Su-30 จากรัสเซียรวมทั้งหมด 24 ลำ จากการสั่งซื้อหลายครั้ง คือ ครั้งแรก 4 ลำ เมื่อปี 2546 อีก 8 ลำ ในปี 2552 และ 12 ลำ ในปี 2553 และล็อตสุดท้าย 12 ลำ เมื่อปี 2556 เป็นอันว่าภายในสิ้นปี 2558 เวียดนามก็จะมี Su-30 ครบจำนวน 3 ฝูง 36 ลำ โดยใช้เวลาในการจัดหารวม 12 ปี
เวียดนาม ยังมีโครงการจัดหาเครื่องบินรบอีกจำนวนมากเพื่อนำเข้าประจำการแทน MiG-19 ที่ใช้งานจนเกินเวลาในขณะนี้ แม้ว่าจะยังไม่เคยประกาศตัวเลขใดๆ ออกมาก็ตาม
สื่อตะวันตกประโคมข่าวหนาหูก่อนหน้านี้ไม่นานว่า เวียดนามกำลังพิจารณาเครื่องบินรบของโลกตะวันตก 2 รุ่น คือ ราฟาล (Rafale) ที่ผลิตในฝรั่งเศส กับ JAS-39 กริพเพน (Gripen) แบบเดียวกับของกองทัพอากาศไทย
นักวิเคราะห์ด้านอาวุธบางคนให้ความเห็นว่า เวียดนามกำลังกระจายความเสี่ยงการพึ่งพาอาวุธจากรัสเซีย โดยหันไปหาอาวุธของโลกตะวันตก เช่นเดียวกับที่เคยซื้อเรือคอร์แว็ต จากเนเธอร์แลนด์ ที่ทำให้สามารถติดจรวดเอ็กโซเซ่ ที่มีชื่อเสียงของฝรั่งเศสได้ รวมทั้งระบบจรวดต่อสู้อากาศยานติดตั้งบนเรือด้วย
นักวิเคราะห์บางคนกล่าวว่า สำหรับเครื่องบินรบล็อตใหม่ที่จะนำเข้าประจำการแทน MiG-19 นั้น เวียดนามมีตัวเลือกมากมายในขณะนี้ มากกว่าเมื่อครั้งตัดสินใจซื้อ Su-30MK2 ซึ่งยังเป็นเครื่องบินรบยุคที่ 4 และเวียดนามอาจจะตัดสินใจซื้อ JAS-39 ได้ง่ายขึ้น หากรัสเซียขาย Su-35 ซึ่งเป็นเครื่องบินรบยุค 4++ ให้แก่จีน
ทั้งนี้ เป็นที่ทราบกันดีว่า สวีเดน ผลิตกริพเพนขึ้นมาพร้อมกับระบบอาวุธเพื่อต่อกรกับเครื่องบินรบตระกูล Sukhoi กับ Mikoyan ของโซเวียต/รัสเซีย ที่ประจำการในย่านทะเลบัลติกโดยเฉพาะ.