ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ราษฎรออนไลน์ทั้งชาวไทย และชาวลาวให้ความสนใจไม่น้อยกับภาพเครื่องบินรบทันสมัยที่สุดในอดีตของกองทัพอากาศลาว ที่สื่อของทางการโพสต์ในเฟซบุ๊กสัปดาห์นี้ ภาพยังช่วยตอกย้ำย้อนยุคให้เห็นความเพียรพยายามของหน่วยข่าวกรอง กับสภาความมั่นคงแห่งชาติของไทยในอดีตที่เคยฟ้องต่อชาวโลกว่า สหภาพโซเวียตในยุคโน้นได้เคลื่อนอาวุธยุทโธปกรณ์ทันสมัยสุดล้ำเข้าประเทศเพื่อนบ้าน เป็นภัยข่มขู่ต่อแผ่นดินไทยอย่างร้ายแรง แต่แทบจะไม่มีใครเชื่อ
เป็นอีกครั้งหนึ่งในรอบกว่า 20 ปี ที่มีการนำเสนอภาพเครื่องบินขับไล่ซูเปอร์โซนิก MiG-21 "ฟิชเบด" (Fishbed) จากสนามบินทหารเมืองโพนสะหวัน แขวงเชียงขวาง นับตั้งแต่สำนักข่าวโนวอสติ (RIA Novosti) ของทางการรัสเซียเอง ได้เคยนำภาพเครื่องบินรบรุ่นนี้เผยแพร่ในแฟ้มภาพจากอดีต ซึ่งต่างกับ MiG-17 หรือ MiG-19 รุ่นพี่ ที่พบเห็นได้ทั่วไป รวมทั้งจำนวนหนึ่งที่สนามบินทหารวัดไต ในนครเวียงจันทน์ กับอีกกว่า 10 ที่สนามบินทหารโปเจินตง ในกรุงพนมเปญด้วย
"ນີ້ແມ່ນພາບເຮືອບິນສູ້ຮົບ Mic 21 ຂອງຣັດເຊຍທີ່ຈອດໄວ້ກາງແຈ້ງຢູ່ສະຫນາມບິນທົ່ງໄຫຫີນ ແຂວງຊຽງຂວາງ ພາຍຫລັງປົດປະຈໍາການ ຫລື ເອີ້ນວ່າໃຊ້ການບໍ່ໄດ້ແລ້ວ ແນວໃດກໍດີ ແອດມິນຍັງຈື່ໄດ້ຕອນສະໄຫມຮຽນຢູ່ໂຮງຮຽນນາຍທະຫານປະສານເລົ່າບ້ານແປ້ນໄດ້ເຫັນ ແລະ ໄດ້ສໍາພັດຝຸງບິນ Mic 21 ບິນຂ້າມຫົວປະມານອາທິດຫນຶ່ງ 2 ຄັ້ງ ໃນປີ 1993 ໃນເວລານັ້ນປະຊາຊົນຢູ່ແຂວງຊຽງຂວາງກ່າວໄຂ່ໄກ່ຢູ່ມັກເຫນົ່າ ເພາະບໍ່ສາມາດພັກເປັນລູກໄດ້ຍອ້ນສຽງລົບກວນ"
หนังสือพิมพ์ “ปะเทดลาว” โพสต์ภาพ MiG-21 ลำนี้ในเฟซบุ๊ก และแอดมินบรรยายภาพอย่างอารมณ์ดี เล่าเรื่องที่ได้สัมผัสเครื่องบินรุ่นนี้ด้วยตนเองในปี 2536 เมื่อครั้งเป็นนักเรียนโรงเรียนประสานเหล่าของกองทัพ ในแขวงเชียงขวาง
แอดมิน เล่าว่า ครั้งกระโน้นได้เห็นฝูงบิน MiG-21 บินข้ามหัวสัปดาห์ละ 2 ครั้ง และได้ยินประชาชนในเชียงขวางบ่นว่า ไก่ที่เลี้ยงเอาไว้ในเล้า เมื่อไข่ออกมาแล้วมักจะเน่า “เนื่องจากไม่สามารถฟักเป็นตัวได้ เพราะจากเสียง (เครื่องบิน) รบกวน”
กองทัพอากาศลาว เป็นแขนงหนึ่งของกองทัพประชาชนลาวในปัจจุบัน ก่อตั้งเมื่อปี 2519 หรือหนึ่งปีหลังจากฝ่ายคอมมิวนิสต์ปะเทดลาวเข้ายึดอนาจได้สำเร็จ ถึงตอนนั้นก็ยังมีเพียงเครื่องบินขับไล่ใบพัดรุ่นเก่า เครื่องบินขนส่ง กับปีกหมุนอีกจำนวนหนึ่งที่ตกทอดมาจากรัฐบาลยุคราชอาณาจักร กับเครื่องบินเล็กอีกจำนวนหนึ่ง ยึดได้จากกองกำลังฝ่ายนายพลวังปาว ที่สนามบินล่องแจ้ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ในแขวงไซสมบูน
.
" />
.
สหภาพโซเวียต ได้เซ็นสัญญาความร่วมมือด้านกลาโหมระหว่างกัน เมื่อนายไกสอน พมวิหาน ผู้นำสูงสุดไปเยือนกรุงมอสโก ในเดือน ส.ค.2528 ซึ่งเป็นช่วงที่สงครามในกัมพูชาดุเดือดแหลมคมมากที่สุด มีการรุกล้ำดินแดนไทยทางชายแดนตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมากครั้งที่สุด
นั่นคือช่วงปีที่ฝ่ายความมั่นคงในประเทศไทยมีความวิตกกังวลมากที่สุด ที่ได้เห็นการเสริมสร้างแสนยานุภาพของสหภาพโซเวียตในประเทศเพื่อนบ้าน ในรูปความช่วยเหลือที่ให้แก่รัฐบาลคอมมิวนิสต์ลาว และระบอบฮุนเซน-เฮงสัมริน-เจียซิม ในกัมพูชา กับกองทัพเวียดนาม ที่ทำสงครามกับกองโจรของรัฐบาลผสมสามฝ่ายที่นำโดยเจ้านโรดมสีหนุเมื่อก่อน
สัญญากลาโหมลาว-โซเวียต ทำให้กองทัพอากาศลาวมีเฮลิคอปเตอร์ Mil Mi-8 เป็นครั้งแรก ตามมาด้วย Mi-17 พร้อมระบบจรวดต่อสู้อากาศยานอีกจำนวนหนึ่ง เช่นเดียวกับกองทัพอากาศสาธารณรัฐประชาชนกัมพูชา ที่มีทั้ง Mi-8 และ Mi-17 กับ MiG-19 ขึ้นบินให้เห็น ถึงแม้ในช่วงปีดังกล่าว จะไม่เคยปรากฏเป็นข่าวว่า เครื่องบินแบบซูเปอร์โซนิกทันสมัยของกัมพูชารุ่นนี้บินมาเฉียดใกล้ชายแดนไทยก็ตาม
สภาความมั่นคงของไทย ได้ออกแถลงเกี่ยวกับการปรากฏตัวของ ฮ.รุ่นใหม่ กับเครื่องบินรบทันสมัยเหล่านี้หลายครั้งในช่วงปีโน้น แต่ถูกหลายฝ่ายมองว่า เป็นการโฆษณาชวนเชื่อ กระทั่ง “การให้ร้ายป้ายสี” ประเทศเพื่อนบ้านที่อ่อนแอกว่า
ไม่ปรากฏเวลาที่แน่ชัดว่า ทั้ง MiG-19 และ MiG-21 ถูกส่งเข้าลาวในเดือนหรือปีใด แต่กองทัพประชาสชนเวียดนาม เพื่อนบ้านคอมมิวนิสต์ด้วยกันมี MiG-21 ประจำการมาตั้งแต่ปี 2508 ทั้งในรูปความช่วยเหลือให้เปล่าแก่ประเทศคอมมิวนิสต์เวียดนามเหนือ และการจัดซื้อด้วยเงินกู้ เป็นเครื่องบินขับไล่ที่สร้างความเสียหายให้แก่กองทัพอากาศสหรัฐมากที่สุดในช่วงสงคราม
เวียดนามเคยมี MiG-21 เวอร์ชั่นต่างๆ ในประจำการอยู่กว่า 140 ลำ ซึ่งได้เป็นกำลังหลักทางอากาศตลอดยุคสงครามเย็น ในปัจจุบันทยอยปลดประจำการ และกำลังพิจารณาเครื่องบินรบยุคใหม่หลายรุ่นเพื่อจัดหาบรรจุประจำการแทน ซึ่งรวมทั้ง JAS 39 “กริพเพน” (Gripen) แบบเดียวกับกองทัพอากาศไทยด้วย.