ASTVผู้จัดการออนไลน์ - เครื่องบินขับไล่โจมตี JAS-39 กริพเพน-ซี (Gripen C) ที่นั่งเดี่ยวของกองทัพอากาศฮังการี อีกลำหนึ่งเกิดขัดข้องทางเทคนิค ล้อหน้ากางออกไม่สุดขณะลงจอดที่ฐานทัพอากาศทางตอนใต้ของกรุงบูดาเปสต์ ทำให้ส่วนท้องไถไปกับรันเวย์เป็นทางยาวก่อนเสียหลักไถลออกนอกทางวิ่ง เครื่องบินเสียหายยับเยิน ถึงแม้นักบินจะดีดตัวเองออกจากเครื่องได้ทัน แต่ก็บาดเจ็บสาหัส
เหตุเกิดในสัปดาห์นี้ นับเป็นกริพเพนลำที่ 2 ของกองทัพอากาศฮังการี ที่ประสบเหตุขัดข้องในชั่วเวลาข้ามเดือน ซึ่งทำให้สุดยอดเครื่องบินรบรุ่นหนึ่งของโลกดูเลวร้ายลง ในขณะที่บริษัทผู้ผลิตอยู่ระหว่างเจรจาทำสัญญาซื้อขายกับลูกค้ารายใหม่อีก 30-40 ลำ รวมทั้งข้อเสนอให้เปิดสายการผลิตในประเทศอินเดียด้วย
เหตุเกิดวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ขณะกริพเพน ซึ่งติดหมายเลข 30 ลงจอดที่ฐานทัพอากาศเค็กสเกเหม็ต (Kecskemét Air Base) วิดีโอคลิปที่เผยแพร่ในวันถัดมา แสดงให้เห็นช่วงวินาทีที่เกิดความขัดข้องทางกลไก และนักบินที่มีสติสัมปชัญญะดีเยี่ยม ได้ตัดสินใจดีดตัวเองออกจากเครื่องบินในเสี้ยววินาทีสุดท้าย เขาทำได้สำเร็จ แต่ก็ได้รับบาดเจ็บจากการตกกระแทกพื้นอย่างเห็นได้ชัด
การประสบเหตุของกริพเพน-ซี ซึ่งเป็นลำที่สองในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือน ทำให้กองทัพอากาศฮังการีสั่งกริพเพนอีก 12 ลำที่เหลืออยู่ห้ามขึ้นบิน จนกว่าการตรวจสอบด้านความปลอดภัยจะมีความชัดเจน
ก่อนหน้านั้น ในวันที่ 19 พ.ค. JAS-39 D หรือ “กริพเพ่น-D” แบบ 2 ที่นั่งลำหนึ่ง ซึ่งติดหมายเลข 42 ได้ประสบ “เหตุขัดข้องทางเทคนิค” ในสาธารณรัฐเช็ก โดยแล่นเลยรันเวย์เสียหลักแล่นไถลเข้าเขตทุ่งหญ้า ขณะไปร่วมฝึกซ้อมกับกริพเพนของอีกหลายประเทศ ส่วนหัวเครื่องบินหักเสียหายยับเยิน ถึงแม้ว่านักบินทั้งสองจะดีดตัวเองออกได้ทันเวลา และอย่างปลอดภัยก็ตาม
JAS-39 กริพเพน ผลิตโดยกลุ่มซาบแห่งสวีเดน ได้ชื่อเป็นเครื่องบินรบอเนกประสงค์ขนาดเล็กที่มีความคล่องตัวสูงมาก กริพเพนรุ่นใหม่ล่าสุดทำความเร็วสูงสุดได้ถึงมัค 2 ได้เปรียบในเรื่องความกะทัดรัด ขึ้นลงง่าย แม้กระทั่งบนถนนลาดยางทั่วไป และใช้เวลาสั้นที่สุดในการเติมเชื้อเพลิง-ติดอาวุธ ก่อนกลับไปปฏิบัติการอีก รวมทั้งมีขีดความสามารถสูงในปฏิบัติการ “ร่วมโจมตี” โดยเชื่อมต่อข้อมูลกับฝูงบินอื่นๆ กับกองเรือรบผิวน้ำ กระทั่งยานพาหนะโจมตีทางบก ผ่านระบบดาต้าลิงก์
จรวดยิงอากาศยาน และโจมตีเป้าหมายภาคพื้นดิน พื้นผิวน้ำ ที่ประดิษฐ์ติดตามกันออกมา ทำให้กริพเพนมีเขี้ยวเล็บที่น่าเกรงขามมากยิ่งขึ้น จนกระทั่งเป็นที่หมายตาของกองทัพอากาศหลายประเทศ รวมทั้งเพื่อนบ้านของไทยด้วย
เหตุขัดข้องของกริพเพนฮังการีทั้งสองลำ มีขึ้นในขณะที่บราซิลอยู่ระหว่างทำข้อตกลงซื้อขายกริพเพนรุ่นต่างๆ ถึง 36 ลำ จากสวีเดน รวมทั้งเวียดนามเองที่สื่่อตะวันตกรายงานว่า อยู่ระหว่างเจรจาลับๆ กับกลุ่มซาบ เพื่อซื้อกริพเพน-อี (Gripen E) ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ล่าสุดจำนวนหนึ่งด้วย
.
.
เหตุการณ์อันไม่พึงประสงค์ยังมีขึ้นในขณะที่กลุ่มซาบเพิ่งจะยื่นข้อเสนอใหม่ๆ หมาดๆ ต่อรัฐบาลอินเดีย เพื่อให้เปิดสายการผลิต JAS-39 ในประเทศนี้ ในความพยายามเจาะตลาดใหญ่เอเชีย และยังมีขึ้นหลังอินเดียลดจำนวนสั่งซื้อราฟาล (Rafale) จากฝรั่งเศสลงเหลือเพียง 36 ลำ จากแผนการจัดหาทั้งหมด 126 ลำ ทั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี นายนเรนทรา โมดี (Narendra Modi) ที่ให้กองทัพหันมาใช้วิธี Make-in-India เพื่อลดการนำเข้าอาวุธต่างๆ
เป็นที่ทราบกันทั่วไปว่า กองทัพอากาศไทยเองมีโครงการจัดหากริพเพนอีกอย่างน้อย 6 ลำ หลังจากได้รับมอบมาครบฝูงแรก 12 ลำ ทั้งกริพเพน-ซี และ ดี ในปี 2554 และ 2556 เพื่อนำเข้าประจำการแทนเครื้องบินขับไล่โจมตีแบบ F-5 ที่ผลิตโดยนอร์ธร็อป แห่งสหรัฐฯ เมื่อก่อน ซึ่งผ่านการใช้งานมานาน
ตลอด 20 ปีที่ผ่านมา มีกริพเพนได้รับความเสียหายในเหตุขัดข้องต่างๆ รวม 7 ลำ รวมทั้ง 2 ลำล่าสุดของกองทัพอากาศฮังการีด้วย อีก 2 ลำเป็นเครื่องบินต้นแบบ กับเครื่องที่ผลิตออกมาลำแรก 3 ลำที่เหลือเป็นของกองทัพอากาศสวีเดน นอกจากนั้น กริพเพนก็เคยประสบเหตุขัดข้องอีกหลายครั้ง ขณะเข้าร่วมการฝึก หรือไปร่วมงานแสดงระหว่างประเทศ แม้ว่าที่ผ่านมาจะยังไม่มีใครได้รับอันตรายจนถึงแก่ชีวิตก็ตาม
ฮังการี เคยเป็นหนึ่งในบรรดา “รัฐบริวาร” ของสหภาพโซเวียต หลังอาณาจักรใหญ่คอมมิวนิสต์ล่มสลาย ก็ได้เข้าเป็นสมาชิกกลุ่มนาโต้เมื่อปี 2542 และเริ่มมองหาเครื่องบินรบเพื่อนำเข้าประจำการแทนฝูง MiG-29 ที่เก่ามาก โดยหมายตาเป็นพิเศษไปยัง F-16 มือสอง ซึ่งมีมิตรหลายประเทศเสนอขายให้ ไม่ว่าจะเป็นสวีเดน เบลเยียม อิสราเอล ตุรกี รวมทั้งสหรัฐฯ ด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะเจรจาซื้อ F-16 จากสหรัฐฯ อยู่นั้น สวีเดนก็ได้เสนอกริพเพนในรูปแบบของการให้เช่าเป็นเวลา 10 ปี โดยมีออปชันให้ซื้อเครื่องบินได้เมื่อสัญญาเช่าครบกำหนด จนกระทั่งเดือน ก.พ.2546 ฮังการีจึงเซ็นสัญญาเช่า JAS-39 จำนวน 14 ลำ จากกริพเพน A/B ได้ผ่านการอัปเกรดขึ้นเป็น C/D เพื่อให้เข้ากันได้กับระบบเครื่องบินรบของนาโต้
ต่อมา ในเดือน ม.ค.2555 ฮังการีกับสวีเดนได้ตกลงต่อสัญญาเช่ากริพเพนทั้ง 14 ลำ ออกไปอีกเป็นเวลา 10 ปี ซึ่งรัฐมนตรีกลาโหมของฮังการี กล่าวว่า ช่วยประหยัดได้อย่างมหาศาล แต่เหตุขัดข้องของหมายเลข 30 กับหมายเลข 42 ที่ผ่านมา ทำให้ฮังการีเหลือกริพเพนอยู่ 12 ลำ ทั้งหมดต้องจอดนิ่งรอผลการสอบสวนหาสาเหตุ.
.
1
2
3