เอเอฟพี - สื่อทางการของพม่ารายงานวันนี้ (10) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากน้ำท่วมรุนแรงที่เกิดขึ้นทั่วประเทศเพิ่มเป็น 100 คน และเกือบ 1 ล้านคน ได้รับผลกระทบ ขณะที่ความวิตกเพิ่มสูงขึ้นต่อพื้นที่ที่เป็นแหล่งอู่ข้าวอู่น้ำสำคัญของประเทศ
น้ำท่วมจากอิทธิพลของฝนในฤดูมรสุมเกิดขึ้นทั้งในภูมิภาคเอเชียใต้ และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา คร่าชีวิตผู้คนไปหลายร้อยชีวิต และทำให้ผู้คนไร้ที่อยู่อาศัยหลายล้านคน
พม่า ประเทศที่ยากจนที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชีย ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากฝนที่ตกต่อเนื่องหลายสัปดาห์ ที่ทำให้เขต และรัฐ 12 แห่ง จากทั้งหมด 14 แห่ง ประสบต่อน้ำท่วม
ความช่วยเหลือจากต่างประเทศกำลังเร่งดำเนินการในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา หลังรัฐบาลพม่าร้องขอความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ
หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์ รายงานตัวเลขล่าสุดของทางการในวันนี้ (10) ว่า ยอดผู้เสียชีวิตมีจำนวนมากกว่า 100 คน และประชาชนอีกเกือบ 1 ล้านคน ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม
รายงานยังระบุว่า พื้นที่ปลูกข้าวมากกว่า 3 ล้านไร่จมอยู่ใต้น้ำ โดยที่มากกว่า 1 ล้านไร่ ถูกทำลายเสียหาย
พื้นที่ 4 แห่งของประเทศถูกประกาศให้เป็นเขตภัยพิบัติ โดยรัฐยะไข่ เป็นพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุด
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ความวิตกกังวลได้เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากระดับน้ำในพื้นที่ราบลุ่มแม่น้ำอิรวดีและบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำอิรวดี ที่เป็นพื้นที่ทางการเกษตร 2 แห่งหลักที่ใกล้กับนครย่างกุ้งเพิ่มสูงขึ้น
โกลบอลนิวไลท์ออฟเมียนมาร์ รายงานอ้างหน่วยงานด้านสภาพภูมิอากาศ ระบุว่า ระดับน้ำในแม่น้ำลดลงเล็กน้อยเมื่อวันอาทิตย์ (9) แต่ยังคงอยู่เหนือกว่าระดับที่กำหนดให้เป็นระดับอันตราย
รัฐบาลเผด็จการทหารชุดก่อนของพม่าถูกกล่าวหาว่าไม่สนใจที่จะตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจากไซโคลนนาร์กิส เมื่อเดือน พ.ค.2551 ภัยพิบัติที่ทำให้ผู้คนอย่างน้อย 138,000 คน ต้องเสียชีวิต หรือสูญหาย
พม่า กำหนดจัดการเลือกตั้งทั่วไปในเดือน พ.ย. และสถานการณ์น้ำท่วมทำให้เกิดการแข่งขันทางการเมืองด้วยทั้งรัฐบาลกึ่งพลเรือน และฝ่ายค้านที่นำโดยนางอองซานซูจี ดำเนินความพยายามต่างๆ ที่จะแสดงให้เห็นว่า พวกเขาตอบสนองอย่างรวดเร็วต่อภัยพิบัติครั้งนี้
ประธานาธิบดีเต็งเส่ง เดินทางลงพื้นที่เขตอิรวดีเมื่อวันอาทิตย์ (9) ในขณะที่ พล.อ.มิน ออง หล่าย ผู้บัญชาการกองทัพ เดินทางเยือนเขตสะกาย และรัฐชิน ทางตะวันตก
แต่ผู้ประสบภัยหลายคนไม่ได้พึ่งความช่วยเหลือของรัฐบาล และยังพยายามที่จะรับมือด้วยตัวเองหรือหันไปอาศัยวัดในท้องถิ่น หรือกลุ่มชุมชนแทน
ทางการพม่า ได้ยืนยันว่า การเลือกตั้งที่กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. จะยังคงเดินหน้าต่อไปแม้ประเทศจะประสบต่อปัญหาน้ำท่วม และทางการกำลังพยายามที่จะประเมินขนาดของความเสียหาย.