xs
xsm
sm
md
lg

ความช่วยเหลือหลั่งไหลลงพื้นที่ แต่พม่ายังเสี่ยงน้ำท่วมแหล่งปลูกข้าวปากแม่น้ำอิรวดี

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>ผู้ประสบภัยน้ำท่วมขนสิ่งของช่วยเหลือจากเฮลิคอปเตอร์ทหารที่เมืองมรัคอู รัฐยะไข่ วันที่ 5 ส.ค.--Reuters/Soe Zeya Tun.</font></b>

เอพี - ประเทศผู้บริจาค และองค์กรบรรเทาทุกข์ต่างๆ กำลังให้ความช่วยเหลือแก่พม่าในการรับมือต่อน้ำท่วมที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 69 คน และมีประชาชนได้รับผลกระทบ 260,000 คน หลังฝนมรสุมตกหนักนานกว่าหนึ่งเดือน และอิทธิพลของพายุไซโคลนจากอ่าวเบงกอล

พะยู เล เล ตุน ผู้อำนวยการจากกระทรวงโยกย้ายถิ่นฐาน บรรเทาทุกข์ และสวัสดิการสังคม ยืนยันตัวเลข และเตือนว่า เขตที่ราบลุ่มปากแม่น้ำอิรวดี ที่เป็นอู่ข้าวอู่น้ำของประเทศมีความเสี่ยงอย่างมากที่จะเกิดน้ำท่วมอย่างรุนแรงที่อาจทำลายนาข้าว และบ้านเรือนเมื่อน้ำไหลบ่าลงมาตามแม่น้ำจากพื้นที่น้ำท่วมทางเหนือ

ในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของอาเซียนในมาเลเซีย ซึ่งพม่าเป็นสมาชิก จอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐฯ กล่าวว่า วอชิงตันจะประกาศแพกเกจช่วยเหลือบรรเทาทุกข์อุทกภัยในเร็วๆ นี้ หลังปรึกษากับเจ้าหน้าที่พม่าถึงวิธีที่จะใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างดีที่สุด

แคร์รี่ กล่าวว่า สถานทูตสหรัฐฯ ได้ประสานงานกับศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินของพม่า และแสดงความหวังว่าจะเกิดความสูญเสียต่อชีวิต และผลกระทบน้อยที่สุด

สถานทูตจีน ประกาศบนเว็บไซต์ของสถานทูตว่า ทีมกู้ภัยจีน 10 คน เดินทางถึงนครย่างกุ้งเมื่อวันอังคาร (4) โดยทีมกู้ภัยบลูสกาย ที่เป็นองค์กรด้านมนุษยธรรมนอกภาครัฐที่ใหญ่ที่สุดของจีน เป็นทีมกู้ภัยต่างชาติทีมแรกที่เดินทางถึงสถานที่เกิดเหตุ และจะมุ่งหน้าไปรัฐยะไข่ ซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 พื้นที่ที่ประธานาธิบดีเต็งเส่ง กำหนดให้เป็นเขตภัยพิบัติ
.
<br><FONT color=#000033>ทหารและเจ้าหน้าที่กู้ภัยขนสิ่งของบรรเทาทุกข์ลงจากเครื่องบินทหารในสนามบินสิตตะเว รัฐยะไข่ วันที่ 5 ส.ค.--Agence France-Presse/Ye Aung Thu.</font></b>
.
สำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) ประกาศเมื่อวันอังคาร (4) ว่า หน่วยงานกำลังสำรวจความเสียหายในรัฐยะไข่ ที่มีผู้ไร้ที่อยู่จากเหตุความขัดแย้งทางชาติพันธุ์เมื่อหลายปีก่อนอาศัยอยู่ในค่ายพักพิงชั่วคราวราว 130,000 คน และรัฐยะไข่ ที่เป็นพื้นที่ชายฝั่งทะเล ยังได้รับผลกระทบจากอิทธิพลของไซโคลนเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

“จนถึงตอนนี้ทีมที่ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ของ UNHCR หน่วยงานของสหประชาชาติอื่นๆ และเอ็นจีโอ สามารถเข้าถึงค่ายพักพิงสำหรับผู้พลัดถิ่นภายในประเทศในเมืองสิตตะเว เมืองเอกของรัฐยะไข่ได้แล้ว รวมทั้งเมืองที่อยู่ใกล้เคียง เช่น เมืองป็อกตอ และเมืองมะเยบอน” UNHCR ระบุในคำแถลง

“จากการประเมินค่าย 24 แห่ง พบว่า 1 ใน 4 ของที่พักพิงชั่วคราวได้รับความเสียหาย และผู้ไร้ที่อยู่ได้รับผลกระทบมากกว่า 21,000 คน ที่พักชั่วคราวที่สร้างขึ้นมานานหลายปี ในตอนนี้มีสภาพไม่แข็งแรง และไม่สามารถทนต่อสภาพอากาศที่รุนแรงได้”

องค์การแพทย์ไร้พรมแดนระบุว่า สถานการณ์อยู่ในภาวะอันตรายในหลายเมืองของรัฐยะไข่

“ผู้ไร้ที่อยู่กว่า 4,000 คน ในเมืองเมงเบียะ ต้องพักอยู่ในวัด 23 แห่ง แม้ความต้องการทางการแพทย์อย่างเร่งด่วนยังอยู่ในระดับต่ำ แต่ความเสียหายก็เกิดขึ้นอย่างกว้างขวางทั้งต่อบ้านเรือนและโครงสร้างพื้นฐาน รวมทั้งน้ำดื่มปนเปื้อน” องค์การแพทย์ไร้พรมแดน ระบุ

ในเวลานี้ความสนใจมุ่งไปที่บริเวณที่ราบลุ่มปากแม่น้ำอิรวดี เพราะภัยคุกคามจากน้ำที่กำลังไหลลงจากทางเหนือไปสู่เขตพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งเคยประสบภัยพิบัติจากไซโคลนนาร์กิส ในปี 2551 จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 140,000 คน

เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นในเมืองนองโดง ที่ติดริมแม่น้ำอิรวดี ทางตะวันตกเฉียงเหนือของนครย่างกุ้ง ระบุว่า โรงเรียนในเมืองหยุดการเรียนการสอน ประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงอายุ และเด็กถูกอพยพไปยังพื้นที่สูงเพราะระดับน้ำในแม่น้ำสูงขึ้น แต่เมืองยังไม่ถูกน้ำท่วม.
กำลังโหลดความคิดเห็น