ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมเมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังคงดำเนินต่อไป ประชาชนในหลายท้องถิ่น ยังไม่สามารถเดินทางกลับเคหะสถานได้ เนื่องจากระดับน้ำที่ยังท่วมสูง แต่ในขณะเดียวกันสำนักงานอุตุนิยมวิทยาในนครย่างกุ้ง ได้ออกเตือนในตอนค่ำวันจันทร์ 27 ก.ค. ให้รัฐและเขตปกครองต่างๆ ทั่วประเทศ เตรียมรับมือกับอุทกภัยรอบใหม่ ทั้งเหตุน้ำท่วมฉับพลัน ดินเลื่อน ดินถล่ม
กรมอุตุนิยมวิทยาและอุทกศาสตร์กล่าวว่า ดีเปรสชั่นที่ก่อตัวขึ้นในอ่าวเบงกอลช่วงสุดสัปดาห์ กำลังจะส่งอิทธิพลรุนแรงต่อภาคตะวันตกกับภาคเหนือของประเทศ ลงไปจนถึงภาคกลาง ที่จะเกิดฝนตกทั่วไป จนถึงตกหนัก ตั้งแต่ตอนบนของเขตสะกาย (Sagaing) และ ในทั่วทั้งเขตพะโค ย่างกุ้งและอิรวดี ในช่วง 2-3 วันข้างหน้า
ดีเปรสชั่นจะส่างอิทธิพลกดดันต่อสภาพความกดอากาศสูง ที่กำลังปกคลุมตอนบนของประเทศ จะทำให้ฝนตกครอบคลุมเป็นอาณาบริเวณกว้าง ไปจนถึงรัฐชานทางตะวันออกเฉียงเหนือ รัฐชิน (Chin) ทางตอนบนสุด รัฐระไค (Rakhine/ยะไข่) ทางตะวันตก และ รัฐมอญ ที่อยู่ติดชายแดนไทย คาดว่าจะวัดปริมาณน้ำฝนได้มากกว่า 3 นิ้ว (77 มม.) ในบ่ายวันอังคารนี้ สื่อของทางการรายงาน
กำลังจะเกิดฝนตกเบาบางในหลายพื้นที่ ในวันเดียวกัน ทั้งในเขตมัณฑะเลย์ มาเกว (Magway) กับทางตอนล่างของเขตสะกาย กรมอุตุนิยมวิทยาฯ ได้ออกเตือนประชาชนทั่วไป ทั้งที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่ม และ เขตภูเขา ให้ระวังภัยอันตราายที่อาจจะเกิดขึ้นในช่วง 2-3 วันนี้ เรือประมงชายฝั่งที่ออกหาปลา จะต้องระวังคลื่นสูงและลมแรง และ ไม่ควรออกไกลฝั่ง
วันจันทร์ที่ผ่านมาดีเปรสชั่นยังคงปกคลุมอยู่ในทะเลเบางกอล ห่างจากเมืองมองดอว (Maungdaw) รัฐระไค ไปทางตะวันตกเฉียงเหนือราว 140 ไมล์ (225 กิโลเมตร) หรือประมาณ 190 ไมล์ (305 กม) จากเมืองสิตตะเว เมืองศูนย์กลางของรัฐ คาดว่าดีเปรสชั่นจะไม่เคลื่อนตัวทางทิศตะวันออกเข้าสู่พม่า แต่จะทำให้อิทธิพลของมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ มีความรุนแรงมากขึ้น ส่งผลกระทบต่อระบบลมฟ้าอากาศของทั่วทั้งภาคเหนือกับภาคกลาง
ทะเลอันดามันจะเกิดคลื่นปานกลางจนถึงคลื่นสูง และ เกิดฝนตกในเขตตะนาวศรี ลงไปจนถึงตอนใต้สุด
กระทรวงเกษตรและชลประทาน ออกแถลงในวันเดียวกันว่ากำลังเฝ้าจับตา เขื่อนและอ่างเก็บน้ำต่างๆ จำนวน 25 แห่ง อย่างใกล้ชิด หลังจากเมื่อสัปดาห์กลางเดือนนี้ หลายแห่งได้ทะยอยระบายน้ำออก เพื่อลดปริมาณการสะสมจนถึงขีดอันตราย และ ได้ระดมเจ้าหน้าที่รวมทั้งทหาร ออกเสริมความเข้มแข็งของคันดิน กับทางระบายน้ำของเขื่อน และ อ่างเก็บน้ำชลประทานหลายแห่ง เพื่อลดความเสี่ยง
จนถึงวันจันทร์นี้ยังมีราษฎรหลายพันคนที่ประสบอุทกภัยสัปดาห์ที่แล้วในเขตสะกาย ยังไม่สามารถกลับถิ่นฐานเดิมได้ และ ในวันจันทร์นี้ทางการได้อพยพราษฎรอีกราว 1,300 คน จากเมืองอะยาดอ (Ayadaw) ไปพำนักในแหล่งพักพิงชั่วคราว หลังจากเกิดน้ำท่วมสูงในหลายหมู่บ้าน
สองเดือนที่ผ่านมาอุทกภัยรุนแรง ในรัฐกะฉิ่น (Kachin) รัฐชาน เขต สะกาย พะโค เขตย่างกุ้ง และ เขตมัณฑะเลย์ ได้ทำลายนาข้าวเสียหายรวมกันกว่า 13,000 เอเคอร์ (32,500 ไร่) หนักหน่วงที่สุดคือ เขตสะกายที่เสียหาย 11,452 เอเคอร์ หนังสือพิมพ์โกลบอลนิวไล้ท์ออฟเมียนมาร์ รายงานในฉบับวันอังคาร 28 ก.ค.นี้ อ้างตัวเลขกระทรวงเกษตรและชลประทาน
สะกายประสบภัยน้ำท่วมครั้งรุนแรงเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งหนังสือพิมพ์เมียนมาร์อาห์ลิน รายงานว่าวัดปริมาณน้ำฝนได้มากที่สุดในรอบ 24 ปี และ เป็นเหตุอุทกภัยระลอกที่สอง หลังจากก่อนหน้านี้ในช่วงกลางเดือน มิ.ย. ได้เกิดขึ้นในหลายเขตทางตอนกลางกับภาคตะวันตกของประเทศคือ รัฐระไค จนถึงเขตอิรวดั ย่างกุ้ง รัฐมอญ และ รัฐกะเหรี่ยง
น้ำท่วมรุ่นเมื่อสัปด่าห์ที่แล้วยังเกิดขึ้นในรัฐชาน ภาพที่สื่อทางการนำเสนอในวันอังคาร แสดงให้เห็นกระแสน้ำแรง ทำให้สะพานสำคัญแห่งหนึ่ง ถูกทำลายเสียหาย.
.
2
3