ASTVผู้จัดการออนไลน์ - วิอีโอคลิปชิ้นหนึ่งที่แสดงการทำงานของปืน AK-74 และ AK-47 ถ่ายทำในระบบซูเปอร์สโลว์โมชัน หรือภาพเคลื่อนไหวช้าเป็นพิเศษ ได้รับความสนใจจากแฟนๆ ของปืนคาลาสนิคอฟอย่างกว้างขวางในช่วงข้ามเดือนมานี้ หลายคนกล่าวว่า เป็นวิดีโอที่แสดงให้เห็นการทำงาน ของปืนไรเฟิลกึ่งอัตโนมัติ “อาก้า” ได้ดีที่สุด ชัดเจนที่สุด
ลารี วิกเคอร์ (Lary Vickers) ทำวิดีโอชิ้นนี้ขึ้นมา และนำขึ้นโพสต์เมื่อวันที่ 18 พ.ค. ในช่องยูทิวบ์ Vickers Tactical ถึงวันนี้มีผู้เข้าชมแล้วเกือบ 1 ล้าน กับ 9 หมื่นครั้ง ยูทิวบ์แชนเนลช่องนี้ เชี่ยวชาญเฉพาะทางด้านวิดีโอ ซูเปอร์สโลว์โมชัน เกี่ยวกับการทำงานของอาวุธปืนหลายชนิดที่รู้จักคุ้นเคยกันดีมากในแวดวงกลาโหม และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศ และ Inside AK-47 เป็นชิ้นล่าสุดที่ได้รับคะแนนนิยมจากผู้ชม และสมาชิกมากที่สุด
ช่อง Vickers Tactical มีสมาชิกลงทะเบียนกว่า 164,000 คน และ HD วิดีโอของเขาชิ้นนี้ให้ความชัดถึง 1280x720 ซึ่งรับชมได้ทันที ถ้าหากฮาร์ดแวร์ของคอมพิวเตอร์ หรือโทรทัศน์ LED รองรับได้
เรากำลังพูดถึงอาวุธสงครามที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดกระบอกหนึ่งของโลก และมีใช้ในกองทัพเกือบทุกประเทศในย่านนี้ ทั้งลาว เวียดนาม กัมพูชา พม่า ลงไปจนถึงมาเลเซีย และอินโดนีเซีย รวมทั้งกองทัพบกไทย ที่ใช้ “อาก้า” เวอร์ชันที่ผลิตในประเทศจีน
ตามตัวเลขสถิติที่สำรวจยังไม่ครบถ้วน เชื่อกันว่านับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา มีการผลิตปืน AK-47 เพียงรุ่นเดียว ออกมาไม่น้อยกว่า 80 ล้านกระบอก ในนั้นผลิตจากโรงงานคาลาสนิคอฟในรัสเซีย ราว 65 ล้านกระบอก แต่เมื่อนับรวมปืนทุกรุ่นในครอบครัว “อาก้า” ก็จะเป็นจำนวนราว 100 ล้านกระบอก
นอกจากนั้น ระบบการทำงานของปืนที่ใช้แรงดันแก๊ส (Gas Operated) ของอาก้า ยังถูกลอกเลียนนำไปใช้กับปืนไรเฟิล และปืนพกอีกหลากหลายยี่ห้อเป็นจำนวนหลายล้านกระบอกทั่วโลก
วิดีโอซูเปอร์สโลว์ Inside AK-47 ของลารี วิกเคอร์ แสดงให้เห็นขั้นตอนต่างๆ ตั้งแต่เหนี่ยวไก นกสับลงที่เข็มแทงชนวนที่พุ่งชนจอกแก๊ปท้ายกระสุน เกิดการระเบิด หัวกระสุนแล่นไปตามลำกล้อง ควันกับแก๊สพวยพุ่งจากครอบปลายกระบอก หรือ Muzzle Brake ที่่ช่วยลดแรงตีกลับ
.
.
นอกจากนั้น ยังแสดงให้เห็นระบบหน่วงเวลา และการทำงานของท่อส่งแก๊สที่วางอยู่เหนือลำกล้อง นำแก๊สกลับไปใช้ดันลูกเลื่อนให้ถอยหลัง และคันคัดปลอกกระสุนทำงานในจังหวะเดียวกัน ดีดปลอกกระสุนออกจากรังเพลิง.. ลูกเลื่อนถูกดันให้เดินหน้าอีกครั้งด้วยคอยล์สปริง ซึ่งทำใก้คันดันกระสุนทำงาน ดันนัดใหม่จากซองกระสุน หรือแม็กกาซีนเข้าสู่รังเพลิง พร้อมยิง .. ครบรอบการทำงานอีกครั้ง
ในชีวิตจริง ขั้นตอนทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในเวลาเพียงเสี้ยววินาทีเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถจะมองเห็นรายละเอียดต่างๆ ได้ทันด้วยตาเปล่าปกติ
ลารี วิกเคอร์ นำร่องด้วยการยิงไรเฟิลกระบอกหนึ่ง เขาแนะนำต่อผู้ชมว่า เป็น AK-74 ผลิตในบัลแกเรีย นำเข้าโดยบริษัทอาร์เซนัล ยูเอสเอ ซึ่งก็คือ เวอร์ชันที่ใหม่กว่าของ AK-47 นั่นเอง ในช่วงแรกของวิดีโอความยาว 2.45 นาทีนี้ เขาได้ “เปลือย” ให้เห็นการทำงานในส่วนระบบคอยล์สปริง ลูกเลื่อน นกสับ รังเพลิง กับระบบคัดปลอกกระสุน ใน AK-74
ในครึ่งหลังได้มีการสลับฉากไปในช่วงเวลาสั้นๆ ไปดูการทดลองยิง AK-47 กระบอกหนึ่ง ซึ่ง “เปลือย” ท่อนบน ให้เห็น “รีคอยล์สปริง” กับท่อส่งแก๊สที่อยู่ทางด้านหน้าของปืน ระบบท่อดังกล่าวมีบทบาทสำคัญมาก เนื่องจากต้องนำแก๊สกลับไปใช้ในขั้นตอนดันลูกเลื่อนให้ “รีคอยล์” หรือถอยหลัง คัดปลอกกระสุน ก่อนจะปล่อยฟรีให้คอยล์สปริงดันลูกเลื่อนให้เดินหน้าอีกรอบ พร้อมดันกระสุนนัดใหม่เข้ารังเพลิง
ต่างไปจาก AK-47 ที่ใช้กระสุนขนาด 7.62×39 มม. มาตรฐานดั้งเดิมของโซเวียต AK-74 ที่ใหม่กว่าทำขึ้นมาเพื่อใช้กับกระสุน 5.45×39 มม. ซึ่งเป็นอีกมาตรฐานหนึ่งที่มีขนาดเล็กลง แต่มีความเร็วสูงกว่า คือ ความเร็วที่ปากกระบอก (Muzzle Velocity) ระหว่าง 880-900 เมตรต่อวินาที เทียบกับ 715 เมตรต่อวินาที ใน AK-47
กระสุน 5.45x39 มม.ของ AK-74 จึงให้แรงปะทะที่หนักหน่วงกว่า ซึ่งหมายถึงอำนาจการหยุดยั้งที่ดีกว่า.