กองทัพสหรัฐฯ เปลี่ยนครั้งใหญ่ หันไปใช้ “กระสุนหัวรู” เพิ่มอำนาจหยุดยั้ง

<FONT color=#00003>ลาก่อนเบเร็ตต้า M9 .. ไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนไปใช้ Modular Hand Gun System ที่ไม่ได้จำกัดขนาดลำกล้อง และ กระสุนตายตัวเท่านั้น หากยังเปลี่ยนไปใช้กระสุนพวกหัวรูหุ้มโลหะ แทนชนิดหัวกลมหุ้มโลหะอีกด้วย นับเป็นการเปลี่ยนแปลงระบบปืนพกครั้งใหญ่ของกองทัพ และ เป็นครั้งประวัติศาสตร์อย่างแท้จริง. </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - กองทัพบกสหรัฐฯ ประกาศในสัปดาห์นี้เกี่ยวกับนโยบายที่จะเปลี่ยนไปใช้กระสุนหัวรู (Hollow Point) กับปืนพก และปืนไรเฟิลยุคใหม่ทั่วทั้งกองทัพ ซึ่งจะเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แบบกู่ไม่กลับ หลังจากที่ใช้กระสุนหัวกลมหุ้มโลหะ (Full Metal Jecket) มานานนับศตวรรษ จากสงครามโลกครั้งที่ 1 ถึงสงครามเกาหลี และสงครามเวียดนาม จนถึงสงครามในตะวันออกกลาง

กระสุน FMJ จะจำกัดการใช้งานเฉพาะในการฝึก มีการระบุเรื่องนี้ ในแจ้งการของกองทัพบกฉบับหนึ่งที่เผยแพร่ในการพบปะกับอุตสาหกรรมผู้ผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ หรือ Industrial Day ในนิวเจอร์ซีย์ วันอังคาร 7-8 ก.ค.ที่่ผานมา

นั่นคือ กองทัพได้กำหนดมาตรฐานใหม่ โดยใช้กระสุนกลุ่มหัวรู (Jacketed Hollow Point) ซึ่งมีให้เลือกหลากหลายขนาด หลังจากกระทรวงกลาโหมได้พิจารณาข้อกฎหมายอย่างชัดเจน และ พบว่าไม่ผิดต่ออนุสัญญากรุงเฮก นอกจากนั้น กระสุนกลุ่มนี้ยังมีใช้แพร่หลายทั่วโลก ทั้งในกลุ่มผู้รักษากฎหมาย และประชาชนทั่วไปที่มีอาวุธกับกระสุนเพื่อป้องกันตัว

กองทัพบกสหรัฐฯ เผยแพร่ประกาศฉบับนี้ ระหว่างการพบปะกับผู้แทนจากอุตสาหกรรมอาวุธปืนทั่วประเทศ เพื่อประกาศรายละเอียดของโครงการรจัดหาปืนพก สำหรับกำลังพลกองทัพราว 280,000 กระบอก ที่จะดำเนินไปตลอด 2 ปีข้างหน้านี้

การเปลี่ยนชนิดกระสุนปืนดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่กองทัพกำลังจะปลดระวางประจำการ ปืนพกมาตรฐาน (Standard Side Arms) ของกำลังพลที่ใช้งานมาเป็นเวลา 20 ปี คือ เบเร็ตตา M9 ที่ใช้กระสุนขนาด 9x19 ซึ่งหนึ่งในบรรดาเสียงร้องเรียน ที่ได้ยินบ่อยที่สุดก็คือ กระสุน 9 มม. FMJ มีอำนาจหยุดยั้งไม่เพียงพอสำหรับการต่อสู้ด้วยปืนพกในระยะประชิด เช่น ที่เคยเผชิญในช่วงสงครามอิรัก

กองทัพบกสหรัฐฯ ได้ประกาศแผนการจัดหาปืนพกแบบใหม่ เป็น Modular Handgun System เต็มตัว คือ สามารถถอดรางเลื่อนเปลี่ยนชุดลำกล้องใหม่ เป็นขนาดอื่น สามารถรองรับซองบรรจุกระสุน หรือ แม็กกาซีนได้หลายขนาด นั่นคือ ปืนกระบอกเดียวกัน จะใช้ได้กับกระสุนหลายขนาด และ ยังมีรายละเอียดอื่นๆ อีกหลายข้อ

รายละเอียดทางเทคนิคระบุว่า กระสุนหัวรูหุ้มโลหะ (JHP) ที่บ่อยครั้งเรียกกันว่า “กระสุนหัวระเบิด” (Expanding/Fragmenting Bullet) ให้แรงปะทะได้มากกว่า หยุดยั้งได้ชะงัดกว่า ไม่ทะลุทะลวงเป้าหมาย ลดโอกาสที่จะทำอันตรายกับบุคลที่สาม ที่ส่วนใหญ่เป็นพลเรือน เนื่องจากสงครามในยุคปัจจุบันบ่อยครั้ง ไม่สามารถแยกแนวหน้าออกจากแนวหลังได้อย่างชัดเจน เหมือนเมื่อก่อน
.

.

.
ข้อกำหนดใหม่ที่เพิ่งประกาศนี้ทำให้หลายฝ่ายเชื่อว่า กองทัพบกสหรัฐฯ จะยังใช้กระสุนขนาด 9x19 มม.พาราเบลลัม (Parabellum) เป็นกระสุนมาตรฐานต่อไป แต่ขณะเดียวกัน ก็เปิดทางกลับไปใช้กระสุน .45 ACP อีกครั้งหนึ่ง หรืออาจจะรวมทั้งขนาด .40 S&W ในกรณีเฉพาะกิจด้วย สองชนิดหลังได้รับการยอมรับในเรื่องอำนาจหยุดยั้งที่ดีกว่า และใช้กันแพร่หลายในกำลังตำรวจทั่วสหรัฐฯ รวมทั้งในบางหน่วยของกองทัพเองด้วย

กระสุนทุกขนาดที่กล่าวมาแล้ว มีทั้งแบบหัวกลม และหัวรูให้เลือกใช้

กระสุน .45 ACP เคยเป็น Standard Issue ของสหรัฐฯ กับชาติพันธมิตรในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และของนาโต้ในเวลาต่อมา มีขนาดใหญ่กว่ากระสุน 9 มม.เล็กน้อย แต่อำนาจหยุดยั้งมากกว่า 9x19 มม. “ลูเกอร์” หัวกลมทั่วไป
.
<FONT color=#00003>กระสุน .40S&W JHP วางคู่กับหัวกระสุนซึ่งบานออก ถ่ายทอดพลังงานจากดินปืนได้มากกว่า หยุดยั้งข้าศึกได้ดีกว่า. -- En.Wikipedia.Org/Oleg Volk. </b>

<FONT color=#00003>กระสุน .40S&W JHP วางคู่กับหัวกระสุนซึ่งบานออก ถ่ายทอดพลังงานจากดินปืนได้มากกว่า หยุดยั้งข้าศึกได้ดีกว่า. -- En.Wikipedia.Org/Oleg Volk. </b>

<FONT color=#000033>หัวกระสุนชนิดกลม FMJ ไม่บานออก กับ อีกเม็ดเป็นหัวรูหุ้มโลหะ JHP ที่บานออกเปรียบเทียบกัน ทั้งสองชนิดยิงออกจากกระสุน 9x19 มาตรฐาน เม็ดที่บานออกแตกออกเป็นปลอกทองแดงที่หุ้มชิ้นหนึ่ง กับส่วนหัวจริงที่เป็นตะกั่วอีกชิ้นหนึ่ง ทั้งสองนัดทดลองยิงในน้ำ 30 ภาพวันที่ 30 มิ.ย.2557. -- En.Wikipedia.Org/Dinomite. </b>

<FONT color=#000033>กระสุนหัวรูทำออกมาหลายขนาด เพิ่มอำนาจการหยุดยั้ง กระทรวงกลาโหมสหรัฐกล่าวว่า หลังจากศึกษาข้อกหมายใหม่ พบว่า การหันไปใช้กระสุนใหัวรูไม่ผิดอนุสัญญากรุงเฮก ซึ่งส่อว่าต่อไปนี้จะยังคงใช้กระสุน 9x19 พาราฯ เป็นมาตรฐาน แต่เปิดทางให้ใช้ขนาดอื่นๆ ได้ด้วย. -- En.Wikipedia.Org/Derek280. </b>

2
อนุสัญญากรุงเฮก พ.ศ.2442 (1899 Hague Convention) มีข้อความสำคัญในตอนหนึ่ง ห้ามประเทศภาคีใช้กระสุนที่ “ขยายตัวและแบนลงได้ง่ายในกายมนุษย์” ซึ่งผู้แทนกองทัพบกสหรัฐฯ กล่าวว่า ได้ปฏิบัติตามเสมอมา แต่ก็ยอมรับในสัปดาห์นี้ว่า ที่ผ่านมาได้ใช้กระสุน .45 JHP ทั้งในอัฟกานิสถาน และอิรัก แต่ใช้กับกองกำลังฝ่ายตรงกันข้าม ซึ่งเป็น “พวกที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย” ไม่เคยใช้กับกองทัพต่างชาติโดยทั่วไปในสงครามปกติ

กระสุนหัวกลม FMJ มีอำนาจทะลุทะลวงสูง ลดการฉีกขาดภายในร่างกาย ลดการบาดเจ็บ การสูญเสียอวัยวะภายใน จึงถูกมองว่า “มีมนุษยธรรม” มากกว่ากระสุนชนิดอื่น แต่ในสงครามนั้น สิ่งที่จะต้องมาก่อนอื่นก็คือ การหยุดยั้งภยันตรายก่อนที่จะเข้าถึงตัวของกำลังพล และลดการสูญเสียของบุคคลที่สาม ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องต่อการสู้รบโดยตรง

อย่างไรก็ตาม การสำรวจความเห็นจากกำลังพลกองทัพบกกลับพบว่า การเปลี่ยนไปใช้กระสุนหัวรูดังกล่าว ได้ทำให้ส่วนใหญ่โน้มเอียงไปในทางที่จะใช้กระสุนขนาด 9x19 มม. เป็นมาตรฐานต่อไป

ตามรายงานในเว็บไซต์ Army.Mil การประชุม Industrial Day ที่ดำเนินมาเป็นเวลา 2 วัน มีบริษัทผู้ผลิตอาวุธปืนกว่า 20 บริษัท เข้ารับฟัง และให้ความสนใจต่อโครงการจัดหาอาวุธปืนสั้นกว่า 280,00 กระบอก ซึ่งจะมีการประกาศกำหนดการยื่นซองประกวดราคาใปลายเดือนนี้ โดยกำหนดส่งมอบล็อตแรกในปี 2561.