ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ในที่สุดการก่อสร้างเขื่อนน้ำคาน 2 ในแขวงหลวงพระบางก็แล้วเสร็จสมบูรณ์ รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวได้ทำพิธีการเริ่มเก็บกักน้ำอย่างเป็นทางการในสัปดาห์นี้ และคาดว่าอีก 5 เดือนเท่านั้น เขื่อนขนาด 13 เมกะวัตต์ ก็จะเริ่มปั่นไฟได้ จุดความสว่างไสวให้แก่แขวงทางตอนเหนือของประเทศ และทางการท้องถิ่นจะพัฒนาอ่างเก็บน้ำที่เกิดขึ้นนี้ให้เป็นแหล่งท่องท่องเที่ยวอีกด้วย
นายสมสะหวาด เล่งสะหวัด กรรมการกรมการเมืองศูนย์กลางพรรค รองนายกรัฐมนตรีผู้ชี้นำงานด้านเศรษฐกิจ การผลิตและการขนส่งสินค้า ได้เป็นเกียรติเข้าร่วมพิธีที่จัดขึ้นเมื่อวันที่ 18 เม.ย. มีนายคำแพง ไซสมแพง เจ้าแขวงแขวงหลวงพระบาง นายสุลิวง ดาลาวง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานแหละเหมืองแร่ ตลอดจนแขกทั่วไปเข้าร่วมด้วยเป็นจำนวนมาก สื่อของทางการรายงาน
เขื่อนแห่งนี้มีมูลค่า 350 ล้านดอลลาร์ รัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาวลงทุนเอง 100% โดยใช้เงินกู้จากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า ของจีน รวม 308 ล้าน จำนวนที่เหลือเป็นเงินลงทุนของฝ่ายลาว บริษัทซิโนไฮโดรคอร์ป (Sinohydro Corporaton) จากจีน เป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ซึ่งจะใช้เวลา 54 เดือน เป็นเขื่อนหินอัดแน่นฉาบหน้าด้วยคอนกรีต มีพื้นที่อ่างเก็บน้ำ 5.16 ตารางกิโลเมตร เก็บกักน้ำได้ 686 ล้านลูกบาศก์เมตร ประกอบด้วย เครื่องปั่นไฟ 2 หน่วย ผลิตไฟฟ้าได้ 558 กิกะวัตต์ชั่วโมงต่อปี ทั้งนี้เป็นตัวเลขอัปเดตล่าสุด โดยหนังสือพิมพ์ลาวพัดทะนา
ตามรายงานของสื่อทางการ เขื่อนที่สร้างขึ้นในเขตป่าต้นน้ำเมือง (อำเภอ) เชียงเงิน ที่อยู่ติดกับแขวงเชียงขวางแห่งนี้ ส่งผลกระทบต่อราษฎร จำนวน 13 หมู่บ้าน ในพื้นที่ 2 เมืองของแขวงเดียวกัน ทั้งหมดต้องอพยพออกไปยังแหล่งตั้งถิ่นฐานใหม่ที่ทางการจัดให้ โดยได้รับเงินชดเชยค่าเสียหายด้วย
อย่างไรก็ตาม อ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นกำลังจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งหนึ่ง และ จะหลายเป็นแหล่งทำมาหากินอันอุดมของประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเขตเมืองเชียงเงิน ซึ่งจะช่วยให้ราษฎรหลุดพ้นจากความยากจนทีละก้าว หนังสือพิมพ์ออนไลน์ซึ่งเป็นของสมาคมนักข่าวแห่งชาติรายงาน.
.