xs
xsm
sm
md
lg

ไปๆมาๆเขมรมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงมากกว่าใครๆ ในย่านนี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

<bR><FONT color=#00003>นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน นางปู้เจียงกว๋อ เอกอัครรัฐทูตจีน ร่วมทำพิธีเปิดใช้สะพานแห่งใหม่กับทางหลวงอีกสายหนึ่ง อย่างเป็นทางการตอนเช้าวันพุธ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ที่ จ.สตรึงแตรง ทางตอนเหนือของประเทศ ซึ่งได้กลายเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 6 ที่สร้างด้วยความช่วยเหลือจากจีน ปีนี้กัมพูชายังเตรียมการเปิดสะพานมิตรภาพกัมพูชา-จีนอีกแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ กับ สะพานมิตรภาพกัมพูชา-ญี่ปุ่น ที่ จ.เปรย์แวง ในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึง ซึ่งจะเป็นสะพานขึงขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศ. -- ภาพ: สำนักข่าวซินหวา.</b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - นายกรัฐมนตรีกัมพูชาฮุนเซน ได้ทำพิธีเปิดสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งใหม่ใน จ.สตึงแตรง (Stung Treng) ทางตอนเหนือของประเทศ ในวันพุธ 1 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นสะพานข้ามแม่น้ำโขงแห่งที่ 6 ที่สร้างขึ้นด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลจีนบนลำน้ำสายนี้ จากสะพานข้ามลำน้ำโขงส่วนที่ไหลผ่านดินแดนกัมพูชา จำนวน 9 หรือ 10 โครงการในปัจจุบัน ซึ่งทำให้ประเทศนี้มีสะพานข้ามลำน้ำโขงมากที่สุดในอนุภูมิภาค ในขณะที่สะพานข้ามแม่น้ำโขงอีกแห่งหนึ่ง ใน จ.เปรย์แวง (Prey Veng) มีกำหนดเปิดใช้ก่อนเทศกาลสงกรานต์ที่จะถึง

จีนได้กลายเป็นประเทศให้การสนับสนุนการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการคมนาคมขนส่ง รายใหญ่ที่สุดในกัมพูชา ซึ่งรวมทั้งถนน สะพาน และท่าเรือ พิธีในวันพุธที่ผ่านมา ยังมีการเปิดใช้ ทางหลวงสาย 9 (สตึงแตรง-กัมปงธม-พระวิหาร) ระยะทาง 143.33 กิโลเมตร ซึ่งทั้งสองโครงการใช้เงินกู้ผ่อนปรนจากรัฐบาลจีน รวม 116.3 ล้านดอลลาร์ สำนักข่าวซินหวาของจีน และสื่อในกัมพูชารายงานเรื่องนี้

สะพานสตึงแตรง ยาว 1,731 เมตร เปิดให้สัญจรไปมาได้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว และได้กลายเป็นสะพานบนจุดตัด “สี่แยกอินโดจีน” แห่งใหม่ในอนุภูมิภาค เป็นจุดข้ามแม่น้ำโขงเชื่อมต่อระหว่างไทย กัมพูชา ลาว และเวียดนาม ทำให้โครงข่ายการคมนาคมขนส่งทางตอนเหนือ (Northern Corridor) ในดินแดนกัมพูชาเกือบจะสมบูรณ์ ซึ่งเป็นประโยชน์โดยตรงต่อการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในประเทศ รวมทั้งกับประเทศเพื่อนบ้านรอบข้าง

เมื่อ 3 ปีที่แล้ว กัมพูชาได้เปิดใช้ทางหลวงสายหนึ่ง จาก สตรึงแตรง ไปยัง จ.รัตนคีรี ซึ่งมุ่งไปสู่ชายแดนเวียดนาม เหลือเพียงทางหลวงอีกสายหนึ่งไปยังภาคใต้ของลาว ที่ยังเหลือช่วงสั้นๆ จะต้องสร้างให้แล้วเสร็จ

นายกรัฐมนตรีกัมพูชา โพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัววันเดียวกัน ขอขอบคุณอย่างลึกซึ้งต่อ “ความช่วยเหลือที่ไม่มีเงื่อนไข” จากจีน ในการช่วยพัฒนาการคมนาคมขนส่ง และพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนตลอดหลายปีมานี้ และปี 2558 นี้ รัฐบาลจีนยังให้การช่วยเหลือแบบให้เปล่าอีกราว 165 ล้านดอลลาร์ ในการพัฒนาการศึกษา สาธารณสุข และโครงการพัฒนาทางด้านสังคมจำนวนหนึ่ง

นายจามอิวตั๊ก (Tram Iv Tak) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงขนส่งกัมพูชา กล่าวว่า ถนน และสพานที่ก่อสร้างโดยกลุ่มบริษัทเซี่ยงไฮ้ คอนสตรักชั่น [Shanghai Construction (Group) Company] จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อราษฎรนับแสนๆ ในพื้นที่ ซึ่งในนั้นราว 90% ของประชาชนที่อาศัยอยู่ตามแนวถนน เป็นกลุ่มชาติพันธุ์หลายกลุ่มที่เลี้ยงชีพโดยการเก็บหาของป่าส่งขาย และประกอบอาชีพกสิกรรม

นางปู้เจียงกว๋อ (Pu Hianguo) เอกอัครราชทูตจีน ประจำกัมพูชา ซึ่งให้สัมภาษณ์ภายหลังพิธีตัดริบบิ้น กล่าวว่า “สะพานสตึงแตรงจะทำให้การสัญจรไปมาง่ายขึ้น และประชาชนที่อาศัยอยู่สองฝั่งของแม่น้ำโขงสามารถไปไหนมาไหนได้สะดวก” ซึ่งรัฐบาลจีนได้ตระหนัก และให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ ต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ กับการลดความยากจนของกัมพูชา

“ความสำเร็จอันนี้แสดงให้เห็นสายสัมพันธ์อันใกล้ชิด และมีสัมฤทธิผลระหว่างจีนและกัมพูชา” เอกอัครรัฐทูตจีนกล่าว

นายกรัฐมนตรีกัมพูชา กล่าวเช่นกันว่า ประชาชนจะได้รับประโยชน์อย่างมากมายจากสะพานแห่งใหม่นี้ พร้อมฝากขอบคุณอย่างลึกซึ้งจากใจ ผ่านเอกอัครราชทูตจีน ไปยังรัฐบาลจีน ที่ให้ความช่วยเหลืออันล้ำค่าต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ และลดความยากจนของกัมพูชามาโดยตลอด

การเปิดใช้สะพานสตรึงแตรง กับทางหลางสายที่ 9 ยังมีขึ้นเพียงข้ามสัปดาห์ หลังจากน นรม.กัมพูชา ไปเป็นประธานพิธีเปิดการก่อสร้างทางหลวงสายที่ 58 ระยะทาง 174 กม. มูลค่า 122 ล้านดอลลาร์ จาก จ.บ้านใต้มีชัย (บันเตียเมียนเจย/Banteay Meanchey) ไปยัง จ.อุดรมีชัย (Oddor Meanchey) ที่มีชายแดนติดกับไทยทางด้าน จ.สุรินทร์ และ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งก่อสร้างด้วยความช่วยเหลือเป็นเงินกู้ผ่อนปรนจากจีนเช่นกัน

ถนนสายนี้จะช่วยเปิดดินแดนที่เคยลี้ลับอีกอาณาบริเวณหนึ่งทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือกัมพูชา และเปิดทางสู่การค้าขายข้ามพรมแดนกับเพื่อนบ้าน
.

2

3

4

5
ทางการกัมพูชา ยังมีกำหนดเปิดใช้สะพานข้ามแมน้ำโขงอีกแห่งหนึ่งในปีนี้ ระหว่างกรุงพนมเปญ กับ อ.ตาจะเมา (Takhmoa) จ.กันการ ที่อยู่ติดกัน ซึ่งถูกเรียกเป็นสะพานมิตรภาพกัมพูชา-จีน แห่งที่ 4

ยังมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงอีกอย่างน้อย 3 แห่ง ที่ก่อสร้างด้วยความช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น แห่งแรกสุดก็คือ สะพานจรอยจังวร (Chroy Changvar) ที่ญี่ปุ่นช่วยเหลือในการฟื้นฟูบูรณะตั้งแต่ปี 2538 จนถึงสะพานมิตรภาพกัมพูชา-ญี่ปุ่น ข้ามแม่น้ำโขง ใน จ.กัมปงจาม กับ สะพานเนียกเลือง (Neak Leuong) ที่จะเปิดใช้ในเดือนนี้ และจะเป็นสะพานใหญ่ที่สุดในประเทศ อยู่ในจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่เขื่อมต่อไทย กัมพูชา กับเวียดนาม

เมื่อไม่กี่ปีมานี้ จีนได้ช่วยกัมพูชาสร้าง สะพานจรอยจังวร แห่งที่ 2 คู่ขนานกับสะพานเดิมที่ใช้งานมานาน ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1960 เพื่อช่วยระบายความแออัดของการจราจรในเมืองหลวง ออกสู่ย่านนอกเมือง ซึ่งได้กลายเป็นสะพานมิตรภาพกัมพูชา-จีนอีกแห่งหนึ่ง

หลายปีมานี้ จีนได้เข้าไปมีบทบาทอย่างโดดเด่นที่สุดในการช่วยกัมพูชาพัฒนาการคมนาคมขนส่ง นรม.กัมพูชา กล่าวระหว่างพิธีเปิดการก่อสร้างทางหลวงที่ จ.บ้านใต้มีชัยว่า จนถึงปัจจุบันรัฐบาลจีนได้ช่วยเหลือทางการเงินในการสร้างถนนทั่วประเทศ รวมเป็นระยะทาง 2,668 กม. ในนั้น 1,437 กม. สร้างเสร็จแล้ว อีก 821 กม. อยู่ระหว่างก่อสร้าง กับอีก 410 กม.อยู่ในขั้นตอนวางแผนงาน

เมื่อมองทั่วอนุภูมิภาค ปัจจุบันมีสะพานข้ามแม่น้ำโขงทั้งที่สร้างเสร็จแล้ว และกำลังก่อสร้างรวมจำนวนกว่า 10 แห่ง รวมทั้งอยู่ในแผนการก่อสร้าง ทั้งในช่วงที่เป็นพรมแดนธรรมชาติระหว่างลาว-พม่า และลาวกับไทย รวมทั้งอีกส่วนหนึ่งที่สร้างกั้นลำน้ำส่วนที่อยู่ในดินแดนลาว ทั้งในแขวงอุดมไซ (ปากแบง) หลวงพระบาง ไซยะบูลี และใต้ลงไปในแขวงจำปาสักที่เมืองปากเซ ซึ่งเป็นสะพานมิตรภาพลาว-ญี่ปุ่น แห่งแรก

ลาว เพิ่งจะเปิดใช้สะพานเมืองโขงเมื่อไม่นานมานี้ เป็นสะพานข้ามส่วนหนึ่งของแม่น้ำโขง ในช่วงที่ระบบแม่น้ำมีความสลับซับซ้อนทางตอนใต้ของลาว สร้างด้วยเงินความเหลือเป็นเงินกู้ผ่อนปรนจากรัฐบาลจีนเช่นกัน.


กำลังโหลดความคิดเห็น