ASTVผู้จัดการออนไลน์ - หลายปีมานี้ มีข่าวคราวมากมายเกี่ยวกับการก่อสร้างสนามบินนานาชาติแห่งใหม่ในภาคใต้เวียดนาม ซึ่งจะเป็นสนามบินใหญ่ที่สุดของประเทศ แม้โครงการจะล่าช้ามานานกว่า 10 ปี และถูกเรียกเป็น “สนามบินหลายชั่วโคตร” ก็ตาม แต่จนถึงวันนี้ก็ยังไม่ได้ลงมือก่อสร้าง มิหนำซ้ำปลายปีที่แล้ว รัฐสภาในกรุงฮานอย ยังไม่ยอมนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาอีกด้วย ผู้แทนราษฎรยังมีความเห็นแตกต่างกันมากมาย โดยส่วนใหญ่เกรงว่างบประมาณมหาศาลที่จะต้องทุ่มให้แก่สนามบินจะส่งผลกระทบต่อหนี้สาธารณะ และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ
โครงการสนามบินลองแถ่ง (Long Thanh) ใน จ.โด่งนาย (Dong Nai) ทางตะวันออกเฉียงเหนือนครโฮจิมินห์ ล่าช้าออกไปอีกอย่างน้อยก็ราวๆ 6 เดือน หรืออาจจะถึง 1 ปี ถ้าหากไม่สามารถนำโครงการฉบับที่มีการปรับปรุงแก้ไขละเอียดด้านการเงินเข้าสู่การพิจารณาของรัฐสภาสมัยต้นปี 2558 นี้ได้สนามบินยังไม่ได้สร้าง แต่การก่อสร้างทางหลวงแบบมอเตอร์เวย์สายหนึ่ง จากนครใหญ่ไปยังสนามบินแห่งนี้ได้แล้วเสร็จลงเกือบสมบูรณ์ มีกำหนดเปิดใช้ในช่วงก่อนเทศกาลวันตรุษที่จะถึง และว่ากันว่า จะเป็นทางหลวงทันสมัยที่สุดของประเทศ
ปลายปีที่แล้วเวียดนามได้เปิดใช้ทางหลวงสายเหนือกว่า 240 กิโลเมตร จากกรุงฮานอย หลังใช้เวลาก่อสร้าง 4 ปี ราวครึ่งหนึ่งของเส้นทางผ่านภูเขา ช่วยร่นระยะเวลาการเดินทางจากเมืองหลวงไปยัง จ.หล่าวกาย (Lao Cai) ทางตอนเหนือสุดติดชายแดนจีนลงได้ครึ่งต่อครึ่ง และไม่นานต่อมาก็มีการเปิดใช้ถนนหวอ-งเวียน-ย้าป (Vo Nguyen Giap) กับสะพานข้ามาแม่น้ำแดงแห่งใหม่ ซึ่งช่วยลดเวลาการเดินทางจากสนามบินโนยบ่าย (Noi Bai) เข้าสู่ตัวเมืองลงได้ครึ่งต่อครึ่งเช่นเดียวกัน
สะพานเญิตเติน (Nhat Tan) กลายเป็นสะพานขึงยาวที่สุดในประเทศ และยาวที่สุดอีกแห่งหนึ่งในย่านนี้ ทั้งถนนและสะพาน จะช่วยระบายคนจากสนามบินนานาชาติ ที่เพิ่งจะเปิดใช้อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 เข้าสู่เมืองหลวงได้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ดูราวกับว่าเวียดนามนั้นยังแบ่งเป็น 2 ประเทศ การพัฒนาแต่ละเรื่องจะต้องดำเนินคู่ขนานกันไปทั้งทางเหนือและทางใต้ และบัดนี้ก็ถึงเวลาของถนนสายใหม่ที่เปิดทางสั้นที่สุดจากโฮจิมินห์ไปยัง จ.โด่งนาย เพื่อนบ้าน วกลงใต้ไปยังท่าเรือใหญ่เติ่นก๋าง-ก๋ายแหม็บ (Tan Cang - Cai Mep) กับเมืองท่องเที่ยวชายทะเลใน จ.บ่าเหรียะ-หวุงเต่า (Ba Ria-Vung Tao) และจาก จ.โด่งนาย ก็ยังตัดตรงขึ้นเหนือเข้าสู่เขตที่ราบสูงภาคกลางของประเทศได้ในระยะทางสั้นที่สุดอีกเช่นกัน
มีเรื่องดีๆ อีกมากมายเกี่ยวกับมอเตอร์เวย์ที่เก็บเงินจากผู้ใช้บริการสายนี้
อย่างไรก็ตาม ถนนสายใหม่ซึ่งมีระยะทางเพียง 55 กม. เป็นเพียงส่วนหนึ่งในระบบทางหลวงทั้งหมด ในเขตสามเหลี่ยมเศรษฐกิจโฮจิมินห์-โด่งนาย-บ่าเหรียะ-หวุงเต่า การก่อสร้างส่วนที่เหลือจะยังดำเนินต่อไปจนถึงสิ้นปี
เมื่อต้นปีที่แล้ว ระยะทาง 20 กม. ในช่วงแรกที่เป็นถนนวงแหวนจากโฮจิมินห์ ไปยังสี่แยกใหญ่ ที่เชื่อมกับทางหลวงสาย 51 (หวุงเต่า-โด่งนาย) ได้เปิดให้บริการมาก่อน ซึ่งช่วยร่นเวลาการเดินทางลัดไปยังไปยังเมืองท่องเที่ยวตากอากาศชายทะเลจีนใต้ได้ 1 ชั่วโมง ส่วนที่เหลืออีก 33 กม. ที่กำลังจะเปิดให้บริการนี้ จะต่อไปยังสี่แยกใหญ่แห่งหนึ่งที่เชื่อมทางหลวง 51 กับทางหลวงสาย 1A (โฮจิมินห์-ฮานอย) และไม่ไกลจากจุดบรรจบแห่งนั้น เป็นที่ตั้งของสนามบินใหญ่ใน อ.ลองแถ่ง
การก่อสร้างเริ่มเมื่อเดือน ต.ค.2552 มอเตอร์เวย์สายใหม่มี 4 ช่องจราจร กับถนนไหล่ทางทั้ง 2 ข้าง ออกแบบให้รถวิ่งได้ด้วยความเร็ว 120 กม./ชม. ประกอบด้วยสะพานกว่า 20 แห่ง กับอุโมงค์ลอดเขา ซึ่งเมื่อรวมความยาวเข้าด้วยกันจะได้ระยะทางประมาณ 2 ใน 3 ของทั้งหมด มีสะพานช่วงหนึ่งที่ต้องสร้างยาวติดต่อกันถึง 6 กม. ทอดข้ามระบบลำน้ำลำห้วย ในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำไซ่ง่อนกับลำน้ำสาขา ซึ่งทำให้มูลค่าก่อสร้างสูงมาก และใช้เวลามากกว่าการสร้างถนนปกติทั่วไป
โครงการนี้เป็นการสัมปทานแบบ BOT ลงทุนโดยรัฐวิสาหกิจแห่งหนึ่งในสังกัดกระทรวงขนส่ง โดยใช้เงินกู้จาก ADB และ JBIC กับธนาคารเอกชนอีกจำนวนหนึ่งรวมกับงบประมาณแห่งรัฐ เป็นมูลค่าเกือบ 21,000 ล้านล้านด่ง (กว่า 97 ล้านดอลลาร์)
สองข้างทางสร้างรั้วลวดหนาม รั้วคอนกรีตกับรั้วเหล็กปิดกั้นตลอดแนว มีสะพานต่างระดับข้ามถนน หรืออุโมงค์ลอดใต้ถนนเป็นระยะ ตลอดเส้นทางสำหรับยวดยานอื่นที่อยู่นอกระบบมอเตอร์เวย์ และมีถนนต่างระดับอีกจำหนึ่งเปิดทางออกเชื่อมกับภายนอก ตลอดระยะทางยังติดตั้งกล้องวงจรปิด ควบคุมสภาพการจราจรแบบ “เรียลไทม์” มีจุดเก็บค่าผ่านทาง 2 แห่งที่สร้างเป็นถนน 8 เลน และยังมีจุดแวะพักระหว่างทางอีก 2 แห่ง ซึ่งจะมีบริการต่างๆ ครบวงจร รวมทั้งจุดเติมน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย
ยังมีรายละเอียดทางเทคนิคอีกมากมายบนมอเตอร์เวย์สายนี้ ..
โครงการสนามบินลองแถ่ง เริ่มเตรียมการ และศึกษามาตั้งแต่ช่วงปี พ.ศ.2530 เศษๆ โดยแบ่งเป็น 2 เฟส ได้รับอนุมัติเมื่อปี 2549 ในสมัยนายกรัฐมนตรีฟานวันข่าย (Phan Van Khai) เฟสแรกจะใช้เงินทุนก่อสร้างราว 6,700 ล้านดอลลาร์ ซึ่งในช่วงโน้นเป็นสนามบินราคาแพงที่สุดแห่งหนึ่งในย่านนี้ และได้มีการดำเนินขั้นตอนต่างๆ เรื่อยมาตั้งแต่นั้น จนกระทั่งนำเข้าพิจารณา ผ่านการถกเถียงในรัฐสภามาตั้งแต่ปี 2555 ผ่านการแก้ไขมาครั้งแล้วครั้งเล่า ในขณะที่เงินเฟ้อทำให้มูลค่าก่อสร้างพุ่งขึ้นไม่หยุด จากพันล้าน ก็กลายเป็นหมื่นล้านดอลลาร์
ตามแผนการนั้นท่าอากาศยานนานาชาติแห่งใหม่จะเริ่มการก่อสร้างต้นปีนี้ เพื่อเปิดใช้ในปี 2563 ซึ่งจะสามารถรับผู้โดยสารได้ 25 ล้านคนต่อปี แต่ก็ยังไม่มีการแผ้วถางทาง หรือลงหมุดตอกเข็มใดๆ ถึงกระนั้นชาวเวียดนามยินดีปรีดากันมากเกี่ยวกับถนนสายใหม่จะเปิดใช่้ปลายสัปดาห์นี้
อย่างไรก็ตาม ไฮไลต์ที่ทุกคนรอคอยจริงๆ นั้นอาจจะไม่ใช่ไฮเวย์ หรือมอเตอร์เวย์ใดๆ หากเป็นรถไฟความเร็วสูงสายหนึ่ง ซึ่งผ่านการอนุมัติโครงการมาแล้ว เพื่อใช้เป็น “แอร์พอร์ตลิงก์” เชื่อมสนามบินลองแถ่ง กับนครโฮจิมินห์โดยเฉพาะ .. ถึงแม้ว่าจะยังมองไม่เห็นอนาคตเลยก็ตามที.
.
สัปดาห์ที่แล้วตลอดสัปดาห์เจ้าหน้าที่กับคนงานนับร้อยคนของรัฐวิสาหกิจ เจ้าของสัมปทานถนนสายใหม่ที่มีระยะทาง 55 กิโลเมตร ได้เข้าทำความสะอาดพื้นผิวจราจร ตกแต่ง 2 ข้างทาง ปลูกต้นไม้บนเกาะกลางให้แล้วเสร็จ ฯลฯ เตรียมพร้อมที่จะเปิดใช้อย่างเป็นทางการมอเตอร์เวย์ที่สวยงาม และทันสมัยที่สุดสายหนึ่งในสัปดาห์นี้ ซึ่งว่ากันว่าจะเป็นถนนที่มีประโยชน์สูงสุดต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในภาคใต้ของประเทศ การก่อสร้างดำเนินมาตั้งแต่ปลายปี พ.ศ.2552 ถึงแม้ว่าจนบัดนี้การก่อสร้างสนามบินใหญ่ที่ปลายทางจะยังไม่ได้เริ่มก็ตาม. -- ภาพ: TuoitreOnlin/SohaOnline/ZingOnline. |
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29