เอเอฟพี - ชาวเขาเวียดนาม 14 คน หลบซ่อนตัวอยู่ในป่าลึกของกัมพูชาหลังข้ามพรมแดนหลบหนีการกดขี่ข่มเหง และขอลี้ภัย นักเคลื่อนไหวด้านสิทธิมนุษยชนระบุวันนี้ (20)
ชาวเขากลุ่มนี้ตามรอยชาวเขา 13 คนแรกที่ยื่นขอลี้ภัยในกัมพูชาเมื่อเดือน ธ.ค. ด้วยความช่วยเหลือของสหประชาชาติ หลังใช้เวลาเกือบ 2 เดือนตั้งค่ายอยู่ในป่าใน จ.รัตนะคีรี ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ
ชาวเขาที่นับถือศาสนาคริสต์จากเขตที่ราบสูงภาคกลางของเวียดนามจำนวนมากได้ข้ามพรมแดนมายังกัมพูชาในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เพื่อหลบหนีการเลือกปฏิบัติ
กลุ่มชาวเขาจำนวนมากยังคงกิจวัตรตามแนวทางของนิกายโปรเตสแตนต์ ที่ทำให้ขัดแย้งต่อผู้ปกครองคอมมิวนิสต์ ที่ควบคุมศาสนาอย่างเข้มงวด
นักเคลื่อนไหวจากกลุ่มสิทธิมนุษยชน Adhoc ในกัมพูชา กล่าวว่า ชาวเขา 5 คน เดินทางมาถึงกัมพูชาเมื่อวันที่ 3 ม.ค. ส่วนอีก 9 คนที่เหลือ รวมเด็กอีก 3 คน ข้ามพรมแดนมาเมื่อวันเสาร์ (17)
“พวกเขาซ่อนตัวอยู่ในป่าเพื่อเลี่ยงการจับกุมของเจ้าหน้าที่กัมพูชา พวกเขาต้องการให้สหประชาชาติช่วยเหลือ พวกเขาบอกว่า หลบหนีมาจากเวียดนามเพราะรัฐบาลเวียดนามจำกัดเสรีภาพ และการปฏิบัติทางศาสนา” นักเคลื่อนไหว กล่าว
ชาย ธี จาก Adhoc กล่าวว่า องค์กรของเขาได้แจ้งไปยังหน่วยงานผู้ลี้ภัยของสหประชาชาติเกี่ยวกับคนกลุ่มนี้แล้ว
ในปี 2544 กองกำลังทหารเวียดนามได้เข้าปราบปรามการชุมนุมประท้วงในเขตที่ราบสูงภาคกลาง ส่งผลให้ชาวเขาจำนวนมากอพยพออกจากพื้นที่ และทางการเวียดนามมักขอให้ทางการกัมพูชาส่งตัวผู้ที่หลบหนีกลับประเทศ
ในกรุงพนมเปญ วันนี้ (20) เคียว โสเพียก โฆษกกระทรวงมหาดไทย ระบุว่า กลุ่มชาวเขาที่หลบซ่อนตัวนั้นเป็นผู้อพยพผิดกฎหมาย
“เรายังไม่เชื่อว่าพวกเขาเป็นชาวเขา แต่เราทราบว่า มีผู้อพยพผิดกฎหมายอยู่ในป่า เราไม่สามารถตัดสินได้ว่า พวกเขาเป็นชาวเขาหรือไม่จนกว่าจะได้สอบถาม” เคียว โสเพียก กล่าว
ในเดือน พ.ค.2554 ชาวม้งหลายพันคนได้รวมตัวในพื้นที่ห่างไกลทางตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม เพื่อรอการมาถึงของพระผู้ช่วยให้รอด การรวมตัวครั้งนั้นถูกเจ้าหน้าที่เข้าสลาย หลายสิบคนถูกจำคุกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งทางการเวียดนามอ้างว่า เป็นแผนของผู้สนับสนุนแบ่งแยกดินแดนที่ต้องการจะโค้นล่มรัฐบาล.