เอเอฟพี - กลุ่มรณรงค์สิทธิมนุษยชนร้องสหประชาชาติในวันนี้ (13) ให้ช่วยเหลือคุ้มครองประชาชนหลายพันคนที่ถูกบังคับไล่ที่ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากกลุ่มชาติพันธุ์ชนกลุ่มน้อย เพื่อสร้างเขื่อนที่จีนให้การสนับสนุน มูลค่า 780 ล้านดอลลาร์
คำร้องของกลุ่มสิทธิมนุษยชนมีขึ้นหลังนายกรัฐมนตรีฮุนเซน กล่าวว่า ผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากเขื่อนที่สร้างขึ้นหลายแห่งมีน้ำหนักมากกว่าข้อกังวลด้านสิ่งแวดล้อมในประเทศ ที่ประชากรราว 1 ใน 4 ยังคงขาดแคลนไฟฟ้า
ประชาชนราว 5,000 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นชนพื้นเมืองชายขอบ อาจถูกแทนที่ด้วยโครงการเขื่อนเซซาน 2 ขนาด 400 เมกะวัตต์ บนลำน้ำสาขาของแม่น้ำโขง ใน จ.สะตึงเตรง ทางภาคเหนือ ตามการระบุของเครือข่าย 3S เพื่อปกป้องแม่น้ำ (3SPN)
“ชาวบ้านถูกกดดัน และข่มขู่ให้เห็นชอบต่อการสำรวจ และแผนตั้งถิ่นฐานใหม่” เครือข่ายระบุในคำแถลงฉบับหนึ่ง
“ชีวิตของผู้คนนับพันจะได้รับความเสียหาย และถูกทำลายโดยโครงการนี้ นอกจากนั้น โครงการยังไม่มีความโปร่งใสในการพิจารณาตัดสินใจ และการปรึกษาอย่างแท้จริงต่อชุมชนต่างๆ” ผู้ประสานงาน 3SPN ระบุ
กลุ่มเรียกร้องสิทธิมนุษยชนกลุ่มนี้ได้เรียกร้องให้ผู้แทนพิเศษด้านสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ช่วยเหลือป้องกันการละเมิดสิทธิ และระบุว่า เขื่อนจะสร้างความเสียหายต่อจำนวนปลา และกระทบการทำประมงของชุมชนที่อยู่ต่ำลงไปของแม่น้ำโขง
นอกจากสหประชาชาติที่เพิ่งยกประเด็นความวิตกเกี่ยวกับโครงการเขื่อน นักวิทยาศาสตร์จากสหรัฐฯ ยังร่วมเรียกร้องให้ระงับโครงการเขื่อน เนื่องจากกังวลถึงผลกระทบต่อความหลากหลายทางชีวภาพ และแหล่งอาหารของภูมิภาค
แต่รัฐบาลกัมพูชา นำโดยฮุนเซน ได้สนับสนุนโครงการเขื่อนเซซาน 2 ที่คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จในปี 2561
รายงานระบุว่า เขื่อน 9 แห่งในกัมพูชา ที่หลายแห่งได้รับทุนจากจีน มีกำหนดเปิดใช้ภายในปี 2562 และเมื่อเขื่อนทั้งหมดเข้าสู่ระบบการผลิต รัฐบาลระบุว่าเขื่อนเหล่านี้จะสามารถผลิตพลังงาน 2,045 เมกะวัตต์ รองรับทุกจังหวัดของประเทศ
แต่กัมพูชาถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการอนุญาตให้บริษัทหลายแห่งเข้าหักร้างถางพงพื้นที่ป่าหลายหมื่นหลายแสนไร่ รวมทั้งในเขตคุ้มครอง เพื่อให้กิจการต่างๆ ที่ส่วนใหญ่เป็นของชาวจีน และเวียดนาม ทำสวนยาง ไร่อ้อย และเขื่อนไฟฟ้า.