xs
xsm
sm
md
lg

สื่อจีนเองก็เริ่มสงสัยมันเป็นสเตลธ์แบบไหน? J-31 ปล่อยควันดำโขมง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โลกภายนอกมีโอกาสได้เห็นควันดำผ่านคลิปนี้ ซึ่งเป็นการขึ้นบินฝึกซ้อมเมื่อวันที่ 9 พ.ย.2557 เตรียมออกแสดงตัวในงานจูไห่แอร์โชว์ที่สิ้นสุดลงสัปดาห์ที่ผ่านมา. .


ASTVผู้จัดการออนไลน์ - งานแสดงอากาศยานเมืองจู่ไห่ ประจำปี 2557 เพิ่งจะผ่านไปแบบอลังการงานสร้าง เพราะปีนี้มีการระดมอากาศยาน กับอาวุธยุทโธปกรณ์ชั้นเยี่ยมไปร่วมมากมาย รวมทั้งหลายรายการที่เปิดตัวเป็นครั้งแรก แต่การปรากฏตัวของ J-31 “สเตลธ์” เครื่องบินรบล่องหนยุคที่ 5 ของประเทศเจ้าภาพเอง ซึ่งเป็นไฮไลต์สำคัญ กลับดูไม่น่าประทับใจเท่าไรนัก แม้กระทั่งในบรรดาสื่อออนไลน์ชั้นนำของจีนเอง ที่ตั้งคำถามว่า J-31 เป็นสเตลธ์พันธุ์ไหน เพราะเครื่องยนต์ปล่อยควันดำออกมาโขมงทุกครั้งเร่งเครื่อง หรือบินผาดแผลง ราวกับ “เครื่องยนต์หลวม” หรือเครื่องยนต์เก่าจนเริ่มมีปัญหาการเผาผลาญเชื้อเพลิง

เว็บไซต์ซินา (Sina) ที่ทรงอิทธิพลของจีนได้ตีพิมพ์ภาพ J-31 ทั้งในระหว่างขึ้นบินฝึกซ้อมก่อนงานจูไห่ และระหว่างการบินแสดงในงาน ท่ามกลางแขกเหรื่อมากมาย และบริษัทผู้ผลิตคือ เสิ่นหยางแอร์คาฟท์ (Shenyang Aircraft) ประกาศจะผลิตสเตลธ์รุ่นเรือธงนี้ เพื่อส่งออกให้เป็นทางเลือกสำหรับประเทศที่เอื้อมไม่ถึง F-22 “แร็ปเตอร์” (Rapter) หรือ F-35 “สายฟ้า” (Lighning) ของสหรัฐฯ ที่ราคาแพงลิ่ว หรือสหรัฐฯ ไม่ขายให้

เมื่อภาพเหล่านี้เผยแพร่ออกไปก็ได้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ติดตามมามากมาย ไม่เฉพาะในบรรดาผู้อ่านชาวจีนเท่านั้น หากยังรวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องบินรบในเว็บไซต์ต่างแดน ที่ได้จังหวะ และบางรายกล่าวว่าภาพเหล่านี้ได้ช่วยตอบโจทย์ที่ตัวเองสงสัยมานานเช่นกัน

ยังไม่มีผู้ใดทราบรายละเอียดว่า J-31 ของจีนใช้เครื่องยนต์อะไร รุ่นไหน แต่หลายแหล่งบอกว่า เป็นเครื่องยนตร์ที่บริษัทเสิ่นหยางบอกว่าอัปเกรดให้เป็น RD-93 ซึ่งก็คือเวอร์ชันใหม่ของ RD-33 ที่จีนซื้อจากรัสเซียเมื่อกว่า 10 ปีก่อน และนั่่นคือเครื่องยนตร์ที่รัสเซียพัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้กับเครื่องบินรบแบบ MiG-29 ตั้งแต่เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว ปัจจุบันเลิกใช้ไปแล้ว MiG-29K ที่ใช้บนเรือบรรทุกเครื่องบินแทน Su-33 นั้น ใช้เครื่องยนต์รุ่นใหม่ที่ให้แรงบิดสูงกว่า แต่ประหยัดเชื้อเพลิงมากกว่า และไม่ปล่อยควันดำโขมงอีกต่อไป

ผู้อ่านหลายคนชี้ไปยังวิดีโอคลิปเมื่อไม่นานมานี้ ที่แสดงให้เห็นการบินผาดแผลงของ “จอมโจรควันโขมง” (Smokey Bandits) ฝูงบิน MiG-29 กองทัพอากาศมาเลเซียที่เหลือบินได้อยู่ราว 10 ลำ และจำนวนหนึ่งถูกโยกไปใช้งานด้านบินโชว์ บินสาธิต หรือออกแสดงในงานแอร์โชว์ที่จัดขึ้นในประเทศ
.

.

.
ภาพ J-31 ขึ้นบินกว่า 10 ภาพ ออกมาแนวเดียวกันกับในวิดีโอ “จอมโจรควันโขมง” มาเลเซีย

ถ้าหากรายงานต่างๆ เหล่านี้เป็นจริง ก็แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินรบยุคที่ 5 ของจีน ได้เปิดเผยจุดอ่อนที่สำคัญคือ ยังใช้เครื่องยนต์ของเครื่องบินรบยุคเก่า ที่ใช้มาเป็นเวลาเกือบ 30 ปี การปล่อยควันดำมากมายแบบนี้ไม่มีโอกาสได้เห็นในเคื่องบินรบยุคที่ 5 ของรัสเซีย ซึ่งรวมทั้ง T-50 PAKFA กับ MiG-35 และเครื่องบินต้นแบบ Su-45 ทั้งในขณะบินปฏิบัติการปกติ และบินผาดแผลง

นอกจากนั้น ก็จะไม่ได้เห็นทั้งใน “แร็ปเตอร์” และ “สายฟ้า” แม้กระทั่งใน F-35B ซึ่งเป็นเวอร์ชันสำหรับกองกำลังนาวิกโยธินสหรัฐฯ แม้ในยามที่ต้องขึ้นลงในแนวดิ่งบนดาดฟ้าเรือโจมตียกพลขึ้นบก ที่จะต้องใช้แรงขับดัน หรือแรงต้านจากเครื่องไอพ่นอย่างมหาศาลก็ตาม

ควันดำเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับกันได้ในเครื่องบินรบยุคที่ 5 เพราะจะทำให้เครื่องบินสเตลธ์ไม่สามารถจะ “ล่องหน” ได้ ขีดความสามารถในการหลบเลี่ยงการตรวจจับด้วยเรดาร์ของฝ่ายตรงข้ามจะถูกลดทอนลงอย่างมากมาย จนอาจจะถึงขั้นเปิดตัวตนอย่างล่อนจ้อน ขณะออกปฏิบัติภารกิจเสี่ยงเป็นเสี่ยงภัยบนท้องฟ้า

ยังไม่ทราบว่า J-31 เวอร์ชันส่งออกจะได้อะไรไปบ้าง แต่ทันทีที่จีนแย้มเรื่องนี้ออกมา ก็ได้รับการขานรับเป็นอย่างดีจากหลายประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเหล่าสาวกอาวุธยุทโธปกรณ์ราคาถูกของจีนในย่านเอเชีย ซึ่งรวมทั้งปากีสถาน กับบังกลาเทศ และไกลออกไปถึงแอฟริกา
.
จอมโจรควันโขมงยุคที่ 5 Sina.Com

2

2

2

2

2

2

2

2

2

2

2

2

2
เมื่อเดือนที่แล้ว เว็บไซต์แห่งหนึ่งของรัสเซียได้ออกรายงานที่น่าตกอกตกใจว่า ในปัจจุบันจีนขาดแคลนเครื่องยนต์ไอพ่นสำหรับเครื่องบินรบอย่างสาหัส เนื่องจากไม่สามารถพัฒนาคุณภาพต่อไปได้ และที่ผ่านมา เครื่องบินรบทุกรุ่นของจีน ส่วนใหญ่ยังคงใช้เครื่องยนต์สำหรับ Su-27 รุ่นหนึ่งที่ซื้อจากรัสเซียกว่า 100 เครื่องเมื่อกว่า 10 ปีก่อน และจีนได้นำไปผลิตออกมาเองอีกราว 100 เครื่อง แต่เครื่องรุ่นใหม่ที่ก้าวหน้ากว่าของรัสเซียนั้นไม่สามารถ “ก๊อบ” หรือ ทำรีเวิร์สเอ็นจิเนียริง (Reverse engineering) ได้อีกต่อไป

เว็บไซต์ของรัสเซียได้อ้างความเห็นของผู้เชี่ยวชาญว่า เมื่อขาดเครื่องยนต์คุณภาพสูง การพัฒนาไอพ่นของจีนก็อาจถึงกับหยุดชะงักลง และอาจจะต้องหยุดผลิตเครื่องบินรบตระกูล J ทั้งหลายเอาไว้ชั่วคราว รวมถึง J-15 ที่ใช้บนเรือบรรทุกเครื่องบินลำแรกด้วย

ไกลออกไป เว็บไซต์นิตยสาร “กันวา” (Kanwa Defence Review) สำนักข่าวกลาโหมที่ได้รับความนิยมอย่างมากมายในช่วงหลายปีมานี้ ได้ตั้งข้อสงสัยมานานแล้วว่า อุตสาหกรรมอากาศยานของจีน อาจจะประสบปัญหาในเรื่องนี้จริง และน่าจะเป็นภูมิหลังเหตุการณ์ที่ทำให้จีนต้องขอซื้อ Su-35 ซึ่งเป็นเครื่องบินรบ “ยุค 4++” ของค่ายหมีขาว ทั้งนี้ ก็เพื่อเครื่องยนต์ที่ใหม่กว่า

การเจรจาซื้อขายเรื่องนี้ดำเนินมาเป็นเวลา 3 ปีแล้ว ก็ยังไม่มีทีท่าจะตกลงกันได้ ซึ่งอาจจะเป็นเพราะว่าข้อต่อรองสูงสุดของฝ่ายจีนนั้น เป็นเครื่องยนต์รุ่นดีที่สุดสำหรับ Su-35 ที่ใช้ประจำการในกองทัพอากาศรัสเซียนั่นเอง

“อาจจะไม่มีคำอธิบายอื่นสำหรับผู้ผลิตเครื่องบินรบยุคที่ 5 แต่ไปขอซื้อเครื่องบินรบยุคที่ 4 จากประเทศอื่นไปใช้” กันวา กล่าว.
กำลังโหลดความคิดเห็น