xs
xsm
sm
md
lg

ทัพฟ้าอินเดียสั่งกราวน์ Su-30 ทั้ง 10 ฝูง รวม 200 ลำ หลังตกมา 5 ครั้ง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<bR><FONT color=#00003>ทหารอากาศเดินสวนสนามผ่าน Su-30MKI ลำหนึ่ง ภายในฐานทัพอากาศฮินดอน (Hindon Air Force Base) กรุงนิวเดลี ในเหตุการณ์หนึ่งเมื่อปีที่แล้ว สัปดาห์นี้กองทัพอากาศ ได้สั่งห้าม Su-30 ที่มีประจำการทั้งหมดราว 200 ลำในปัจจุบันขึ้นฟ้าจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง เพื่อสอบสวนหาสาเหตุอย่างชัดเจน หลังจากลำหนึ่งตกอีก วันอังคารสัปดาห์ที่แล้ว ตามแผนการจัดซื้อจัดหาที่ดำเนินอยู่ในขณะนี้ อินเดียกำลังจะมี Su-30MKI ทั้งหมดกว่า 270 ลำภายในปี 2562.  -- Associated Press Photo/FILE.  </b>

ASTVผู้จัดการออนไลน์ - สัปดาห์นี้ กองทัพอากาศอินเดียได้สั่งห้ามเครื่องบินรบแบบ Su-30MKI ทุกฝูงบินของกองทัพขึ้นบิน เพื่อตรวจเช็กด้านความปลอดภัยอย่างละเอียด หลังจากตกมาหลายลำในช่วงไม่กี่ปีมานี้ และลำล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว การถูกห้ามขึ้นบินเท่ากับว่า กองทัพอากาศของอินเดียขาดเครื่องบินรบไปราวหนึ่งในสาม

“ทั้งฝูงบินต้องจอด และแต่ละลำกำลังได้รับการตรวจสอบทางเทคนิคอย่างละเอียด หลังจากเหตุการณ์ล่าสุดที่เมืองปูเน เครื่องบินจะขึ้นบินได้อีกครั้งหนึ่งหลังมีการจตรวจเช็กอย่างละเอียดแล้วเท่านั้น” สื่อในอินเดียรายงานในวันพุธ อ้าง น.ท.สิมรานปาล สิงห์ เบอร์ดิ (Simranpal Singh Birdi) โฆษกกองทัพอากาศ ซึ่งแถลงเกี่ยวกับเรื่องนี้วันอังคาร 21 ต.ค.

ตามรายงานของหนังสือพิมพ์ไทมส์ออฟอินเดีย กองทัพอากาศมีฝูงบิน Su-30MKI รวม 10 ฝูงจากทั้งหมด 44 ฝูง ซึ่งแต่ละฝูงมีจำนวนถึง 18 ลำ การถูกสั่งห้ามขึ้นบิน ทำให้เหลือเครื่องบิรนรบรุ่นอื่นๆ อยู่อีก 34 ฝูง

สัปดาห์ที่แล้ว Su-30MKI แบบ 2 เครื่องยนต์ 2 ที่นั่งลำหนึ่ง ตกลงใกล้สนามบินเมืองปูเน (Pune) ในรัฐมหารัศตรา (Maharashtra) ทางตะวันตกของประเทศ การสอบหาสาเหตุในเบื้องต้นเชื่อว่า เกิดจากปัญหาทางเทคนิค ระบบควบคุมการบินอิเล็กทรอนิกส์ “Fly-By-Wire” ขัดข้อง ซึ่งไม่เกี่ยวกับความบกพร่องของนักบินกับผู้ช่วย ซึ่งทั้ง 2 คนดีดตัวเองออกจากเครื่องได้อย่างปลอดภัย และการตรวจสอบในรายละเอียดยังดำเนินต่อไป

อย่างไรก็ตาม หนึ่งในสองคนนั้น เคยเกี่ยวข้องอยู่ในเหตุการณ์ที่ Su-30 อีกลำหนึ่งตกก่อนหน้านี้ ฮินดูสถานไทมส์กล่าว และครั้งล่าสุดนี้นับเป็นลำที่ 5 ตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา และกองทัพอากาศได้เคยสั่งห้ามขึ้นบินทั้งหมดมาแล้วถึง 2 ครั้งเช่นกัน เครื่องบินรบที่พัฒนาโดยรัสเซียนี้ เคยเป็นที่ภาคภูมิใจของชาวอินเดีย และปัจจุบันก็ยังเป็นเครื่องบินรบที่ไว้ใจได้มากที่สุดของกองทัพ

หลายปีมานี้ กองทัพอากาศได้ทยอยสั่งซื้อ Su-30MKI ซึ่งผลิต/ประกอบโดยบริษัทอุตสาหกรรมอากาศยานฮินดูสถาน (Hindustan Aeronautics Limited) ภายใต้สิทธิบัตรจากรัสเซีย เมื่อส่งมอบครบในช่วงปี 2561-2562 จะทำให้มีจำนวนเพิ่มขึ้นเป็นทั้งหมด 272 ลำ จำนวนที่เหลือทั้งหมดจะอัปเกรดขึ้นเป็น “ซูเปอร์ซูคอย” ติดตั้งระบบเรดาร์ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ และระบบควบคุมอาวุธยุคใหม่ล่าสุดทั้งหมด

นอกจากนั้น Su-30MKI ยังเป็นเวอร์ชันที่ทันสมัย เนื่องจากติดเครื่องยนต์ที่มีระบบควบคุมทิศทางการเคลื่อนที่ของเครื่องบินได้ ซึ่งเรียกกันว่าระบบเว็คเตอริงคอนโทรล (Vectoring Control) หรือ Thrush Vectoring แบบเดียวกับ Su-30MKM ทั้ง 18 ลำของกองทัพอากาศมาเลเซีย

อินเดียยังมี MiG-29 ของรัสเซียรุ่นต่างๆ ในประจำการอีกกว่า 60 ลำ นอกจากนั้น บริษัทฮุนดูสถานฯ ยังเป็นหุ้นส่วนหนึ่งกับรัสเซียในการพัฒนาเครื่องรบยุคที่ 5 แบบ T-50PAKFA ในขณะนี้อีกด้วย

ปัจจุบัน Su-30 ในเวอร์ชันต่างๆ ยังเป็นกำลังหลักของกองทัพอากาศราว 30 ประเทศทั่งโลก รวมทั้งมาเลเซีย อินโดนีเซีย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนาม ซึ่งในปัจจุบันมี Su-30MK2 ประจำการ 20 ลำ ปลายปีที่แล้วเพิ่งเซ็นสัญญาซื้ออีก 12 ลำ ทั้งนี้ ยังไม่นับรวม Su-27 รุ่นพี่ที่มีอยู่อีก 11 ลำ.
.
<bR><FONT color=#000033>Su-30MKI ลำนี้เป็นกรณีล่าสุด โหม่งพื้นตอนค่ำวันอังคาร 14 ต.ค.2557 ใกล้สนามบินเมืองปูเน (Pune) รัฐมหารัศตรา ทางตะวันตกของประเทศ นับเป็นลำที่ 5 ที่ตกตั้งแต่ปี 2552 เป็นต้นมา อินเดียได้เคยสั่งทั้ง 10 กองบิน ห้ามนำขึ้นฟ้ามาแล้ว 2 ครั้ง. -- ภาพ: Hindustan Times. </b>
กำลังโหลดความคิดเห็น