xs
xsm
sm
md
lg

นายกฯ เวียดนามได้ “คะแนนไว้วางใจ” สูง รัฐสภาโหวตลงมติประจำปี

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>(จากขวาไปซ้าย) ประธานาธิบดีเจื่อง เติ่น ซาง นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง และเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์ เหวียน ฝู จ่อง และประธานรัฐสภา เหวียน ซิง หุ่ง หย่อนบัตรลงคะแนนเสียงระหว่างการลงมติไว้วางใจที่รัฐสภาในกรุงฮานอย เมื่อวันที่ 15 พ.ย. นายกรัฐมนตรีได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้นโดยในปีนี้สมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ลงคะแนนเสียงไว้วางใจให้ ซึ่งต่างจากปีก่อนที่แสดงผลงานไม่ดีนัก.-- Agence France-Presse/Vietnam News Agency.</font></b>

เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีของเวียดนาม ได้รับการสนับสนุนจากสมาชิกรัฐสภาวานนี้ (15) เมื่อสมาชิกรัฐสภาส่วนใหญ่ลงคะแนนเสียงไว้วางใจให้ในการลงมติไว้วางใจประจำปี ครั้งที่ 2 ต่างจากผลที่ย่ำแย่เมื่อปีก่อน

สมาชิกรัฐสภา 320 คน จากทั้งหมด 484 คน ได้ลงคะแนนเสียง “ไว้วางใจสูง” ให้นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง แตกต่างอย่างมากจากการลงคะแนนเสียงเมื่อปีก่อนที่ 1 ใน 3 ของสมาชิกรัฐสภาลงคะแนนเสียง “ไว้วางใจค่อนข้างต่ำ” ให้ผู้นำประเทศ ส่วนในปีนี้ มีเพียง 68 เสียงเท่านั้นที่ลงคะแนน “ไว้วางใจค่อนข้างต่ำ” ให้แก่นายกรัฐมนตรี

การลงคะแนนเสียงไว้วางใจที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในปี 2556 เป็นความพยายามของผู้ปกครองประเทศเผด็จการของเวียดนาม ที่หวังจะคลายความไม่พอใจที่เพิ่มมากขึ้นของประชาชนจากประเด็นปัญหาทุจริตคอร์รัปชัน และขาดความรับผิดชอบ

สมาชิกรัฐสภาสามารถลงคะแนนเสียงระหว่าง ไว้วางใจค่อนข้างต่ำ ไว้วางใจ และไว้วางใจสูง ให้แก่เจ้าหน้าที่ระดับสูง 50 คน ซึ่งรวมทั้งนายกรัฐมนตรี ประธานาธิบดี และประธานรัฐสภา

สื่อของรัฐรายงานว่า เจ้าหน้าที่ที่ได้รับคะแนนเสียง “ไว้วางใจค่อนข้างต่ำ” มากกว่า 50% เป็นเวลา 2 ปีติดต่อกัน จะถูกขอให้ลาออกจากตำแหน่ง แต่การลงคะแนนเสียงทั้งในปีนี้ และปีที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ทุกคนยังคงรักษาคะแนนเสียงไว้วางใจไว้ได้

ในปีนี้ หนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ ประธานาธิบดีเจื่อง เติ่น ซาง ได้รับคะแนนเสียงไว้วางใจสูงถึง 380 เสียง ขณะที่ เหวียน ถิ กิม เตียน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ที่ประสบกับเหตุอื้อฉาวด้านสุขภาพหลายระลอกในปีนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ที่ได้รับความนิยมน้อยที่สุด โดยได้รับคะแนนไว้วางใจต่ำถึง 192 เสียง

นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ที่ชื่อเสียงต้องแปดเปื้อนจากเรื่องทุจริตอื้อฉาว และความวิตกเกี่ยวกับการจัดการด้านเศรษฐกิจ ปรากฏว่า ในปีนี้ความนิยมดีขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา อันเนื่องจากการแสดงออกอย่างหนักแน่นในการต่อต้านจีน

ฮานอย และปักกิ่งมีเหตุพิพาทขัดแย้งทางทะเลเกี่ยวกับหมู่เกาะในทะเลจีนใต้ และเมื่อเดือน พ.ค. ปักกิ่งได้เคลื่อนแท่นขุดเจาะน้ำมันเข้าไปในน่านน้ำที่เวียดนามอ้างกรรมสิทธิ์ ส่งผลให้เกิดการเผชิญหน้าทางทะเล และเหตุจลาจลรุนแรงต่อต้านจีนในเวียดนาม ก่อนที่ปักกิ่งจะเคลื่อนแท่นขุดเจาะน้ำมันออกจากน่านน้ำดังกล่าวในเดือน ก.ค.

นายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง ยังย้ำอย่างหนักแน่นต่อการรุนรานของปักกิ่งในทะเลจีนใต้ด้วยการใช้ที่ประชุมระดับภูมิภาค ที่รวมทั้งการประชุมอาเซียนในพม่าเมื่อเร็วๆ นี้ เรียกร้องการดำเนินการของนานาชาติในการควบคุมการรุกรานของจีนในน่านน้ำที่แย่งชิงกรรมสิทธิ์นี้

แม้ว่าผู้สังเกตการณ์ทางการเมืองจะยินดีต่อการลงคะแนนเสียงไว้วางใจว่าเป็นสัญญาณของรัฐบาลที่พยายามจะตอบสนองต่อความไม่พอใจของประชาชน แต่ผลการลงคะแนนเสียงก็มีคนส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย โดยมองว่า เป็นการสนับสนุนกันเองของเจ้าหน้าที่รัฐโดยไม่สนใจผลการทำงาน เช่นเดียวกับชาติเผด็จการอื่นๆ ที่ผู้นำระดับสูงมักได้รับการไว้วางใจสูง และมองว่าเจ้าหน้าที่รัฐสภาไม่ได้เป็นตัวแทนของประชาชน.
กำลังโหลดความคิดเห็น