ASTVผู้จัดการออนไลน์ -- ชาวเน็ตในเมืองหลวงเวียดนามกำลังรณรงค์ให้ผู้ใช้รถใช้ถนนติดกล้องประเภท "เว็บแคม" ไว้กับตัวหรือติดกับยานพาหนะโดยซุกซ่อนเอาไว้อย่างมิดชิด เพื่อบันทึกเหตุการณ์ในยามเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรเรียกตรวจและขอเงินแลกกับการไม่ต้องเขียนใบสั่งซึ่งต้องจ่ายแพงกว่ามาก ถึงแม้ว่าการแอบถ่ายภาพเคลื่อนไหวไว้เป็นหลักฐานจะไม่ได้ช่วยแก้ไขปัญหาการจราจรก็ตาม แต่ก็ช่วยในการปราบปรามการฉ้อราษฎร์บังหลวงริมถนนได้
การจ่ายเงินเพื่อไม่ให้ตำรวจจราจรไม่ต้องออกใบสั่งนั้นเป็นเรื่องสมยอมระหว่างสองฝ่ายคือ ผู้กระทำผิดกฎเกี่ยวกับการใช้รถใช้ถนนฝ่ายหนึ่งและเจ้าหน้าที่รัฐอีกฝ่ายหนึ่ง แม้ว่าการติดสินบนเจ้าพนักงานและการรับสินบนของเจ้าพนักงาน ต่างก็เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย
"เพราะฉะนั้นจะต้องมีฝ่ายที่สามอย่างพวกเรา เข้าไปแก้ปัญหานี้" ชาวเน็ตคนหนึ่งเขียนลงในเว็บไซต์โด่ยโสงฟ๊าบหลวต (ข่าวสารกฎหมายกับชีวิตประจำวัน) หนังสือพิมพ์ออนไลน์ภาษาเวียดนาม
ประชาคมออนไลน์ในกรุงฮานอยเห็นพ้องกันว่า มาตรการ "ติดกล้องดักตำรวจ" นี้ไม่เพียงแต่ช่วยปราบปรามการประพฤติผิดของเจ้าหน้าที่ทุจริตเท่านั้น หากยังเป็นการให้กำลังใจแก่เจ้าพนักงานจราจรที่ผู้ปฏิบัติหน้าที่อย่างสุจริตตามท้องถนน ปัจจุบันกล้องประเภทนี้มีราคาถูกลงและหาซื้อได้ทั่วไป
.
.
การรณรงค์ติดกล้องแอบถ่ายมีขึ้นหลังจากคลิปอื้อฉาวชุดหนึ่งขึ้นว่อนอยู่ในเน็ตช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจราจรกลุ่มหนึ่งตั้ง "ด่านเถื่อน" ขึ้นที่ริมถนนในย่านหวีงหึ่ง (Vinh Hung) เขตหว่างมาย (Hoang Mai) กรุงฮานอย คอยเรียกและรับเงินสินบนจากผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ทำผิดกฎจราจร กับอีกบางฉากเกี่ยวกับแม่ค้ารายย่อยที่ตั้งร้านรุกล้ำทางเท้าริมถนนที่ต้องคอย "เสิร์ฟ" เครื่องดื่มแทนสินบนให้แก่ตำรวจที่แวะไปดับกระหาย
วิดีโอคลิปที่นำเสนอออกมาเป็นชุดเดียวกันนี้ถ่ายเอาไว้ต่างกรรมต่างวาระและต่างสถานที่กัน บางชิ้นถ่ายด้วยความตั้งใจโดยพลเมืองดีที่เห็นเหตุการณ์บางช่วงบันทึกเอาไว้อย่างบังเอิญโดยกล้องวงจรปิดของห้างร้านในบริเวณที่เกิดเหตุ หนังสือพิมพ์ออนไลน์กล่าว
พร้อมๆ กับเรียกร้องให้กองบัญชาการตำรวจกรุงฮานอยจัดการกับเจ้าหน้าที่กังฉินในคลิปนี้อย่างเด็ดขาด ชาวเน็ตยังเรียกร้องให้ประชาคมออนไลน์ช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพื่อกำจัด "ความชั่วร้ายทางสังคม" ซึ่งหมายถึงการคอร์รัปชั่นในนิยามของพรรคคอมมิวนิสต์ประเภทนี้ให้หมดไป
การรีดไถของตำรวจจราจรแพร่ระบาดไปทั่วประเทศในช่วงไม่กี่ปีมานี้และสร้างความรำคาญให้แก่ผู้ใช้รถใช้ถนนโดยทั่วไป แต่ในขณะเดียวกันกฎหมายของเวียดนามเองก็มีบทลงโทษที่รุนแรงต่อผู้กระทำผิดกฎจราจร เช่นจะต้องถูกยึดรถหรือยานพาหนะที่ประกอบความผิด และการติดตามทวงคืนมีขบวนการที่ยุ่งยากพอสมควร มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนอกเหนือจากค่าปรับอีกด้วย จึงทำให้หลายคนยินดีจ่ายให้กับตำรวจแทนที่ต้นทาง.