เอเอฟพี - เจื่อง ซวี เญิ่ต บล็อกเกอร์ และนักข่าวชื่อดังชาวเวียดนาม ถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลา 2 ปี วานนี้ (4) จากการเผยแพร่บทความเกี่ยวกับรัฐบาลคอมมิวนิสต์ และผู้นำประเทศ ทนายความเผย
เญิ่ต ถูกพบว่ามีความผิดฐานใช้เสรีภาพประชาธิปไตยในทางที่ผิดในการละเมิดผลประโยชน์ของรัฐ ในการพิจารณคดีนานครึ่งวันที่ศาลในนครด่าหนัง
ความผิดในข้อหากระทำการต่อต้านรัฐมีโทษจำคุกสูงสุดนาน 7 ปี
“เขาปฏิเสธอย่างหนักแน่นต่อข้อกล่าวหาดังกล่าว และอ้างว่าเป็นผู้บริสุทธิ์” ทนายความของเญิ่ต กล่าว
เญิ่ต อายุ 50 ปี เคยทำงานให้แก่หนังสือพิมพ์รัฐหลายฉบับ ก่อนลาออกจากอาชีพนักข่าว และหันมาเปิดบล็อกของตัวเองในชื่อ “มุมมองที่แตกต่าง”
สื่อเอกชนถือเป็นสิ่งต้องห้ามในเวียดนาม ที่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ และสถานีโทรทัศน์ทุกช่องล้วนเป็นกิจการรัฐ แต่ประชาชนหลายคนในเวลานี้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารผ่านทางบล็อก และสื่อสังคมออนไลน์
บทความที่เญิ่ต โพสต์ลงบนบล็อกมักเกี่ยวกับประเด็นทางการเมืองที่มีความอ่อนไหวอย่างมาก และนำเสนอข้อคิดเห็นทางเลือกต่อสื่อของทางการ
ในบทความที่เญิ่ต โพสต์ลงบนบล็อกเมื่อเดือน เม.ย.2556 เญิ่ต เรียกร้องให้ผู้นำระดับสูงของประเทศลาออก โดยระบุว่า ถึงเวลาแล้วสำหรับเลขาธิการพรรค และนายกรัฐมนตรีคนใหม่ เพื่อรักษาชาติจากปัญหาเศรษฐกิจ และการเมือง
ต่อมา ในเดือน พ.ค. เญิ่ต ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมตัว และบล็อกของเขาถูกปิด
ตามสำเนาคำฟ้องที่โพสต์บนเว็บไซต์ ระบุว่า บทความของเญิ่ตนั้น ไม่เป็นความจริง และทำให้ผู้นำพรรค และรัฐเสียชื่อเสียง โดยเป็นการสร้างขึ้นจากมุมมองแง่ร้ายเพียงด้านเดียว
ในการพิจารณาคดี เญิ่ต กล่าวว่าเขาควรได้รับคำชื่นชมต่อการเป็นพลเมืองที่ดี และการวิพากษ์วิจารณ์พรรค และผู้นำประเทศถือเป็นเรื่องปกติ
เมื่อวันจันทร์ (3) องค์กรสิทธิมนุษยชนฮิวแมนไรท์วอช ได้เรียกร้องให้รัฐบาลปล่อยตัวเญิ่ต โดยระบุว่า เญิ่ต ไม่ควรถูกจำคุกเพียงเพราะไม่เห็นด้วยกับรัฐบาล และพรรค
“การพิจารณาคดีเจื่อง ซวี เญิ่ต เป็นส่วนหนึ่งในความพยายามของรัฐบาลเวียดนามที่จะปิดปากชุมชนบล็อกเกอร์ชาวเวียดนาม” แบรด อดัมส์ ผู้อำนวยการฮิวแมนไรท์วอช ประจำภูมิภาคเอเชีย กล่าว
กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า ในเวียดนาม ทนายความ บล็อกเกอร์ และนักเคลื่อนไหว มักถูกจับและควบคุมตัวโดยพลการ ขณะที่องค์กรนักข่าวไร้พรมแดนระบุว่า จำนวนบล็อกเกอร์ที่ถูกจับกุมตัวในเวียดนามเป็นรองเพียงแค่จีนเท่านั้น โดยมีผู้ถูกจับกุมตัวอย่างน้อย 34 คน
ในเดือน ก.พ. ที่ประชุมคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ในกรุงเจนีวา ระบุว่า เวียดนามยังคงคุกคาม และควบคุมตัวบรรดาผู้ที่ใช้สิทธิและเสรีภาพสากล เช่น เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น และการรวมกลุ่ม และเรียกร้องให้เวียดนามปล่อยตัวนักโทษการเมืองทั้งหมด แต่รัฐบาลเวียดนามปฏิเสธว่า รัฐควบคุมตัวนักโทษการเมือง และปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นต่อเรื่องนี้.