.
เอเอฟพี - พม่าได้ตัดสินจำคุกชายชาวพุทธ 2 คน เป็นเวลา 7 ปี จากข้อหาก่อเหตุฆาตกรรมระหว่างการเกิดเหตุความรุนแรงทางศาสนาในเดือนมี.ค. ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายสิบคน เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นชาวพม่าเปิดเผยวันนี้ (8)
จำเลยทั้ง 2 คน ถูกตัดสินความผิดหลังแยกพิจารณคดีที่ศาลเมืองเม็กทิลา เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องในเหตุความไม่สงบในเมืองเม็กทิลา ที่เหยื่อโจมตีส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมและจุดชนวนให้เกิดกระแสความไม่สงบทางศาสนาไปทั่วประเทศ
ติน หม่อง โซ นายอำเภอเม็กทิลา ระบุว่า ชายอายุ 24 ปี ถูกตัดสินความผิดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. และกลายเป็นชาวพุทธคนแรกที่ถูกตัดสินความผิดในข้อหาที่เกี่ยวกับความไม่สงบ ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 44 คน
"ชายคนนี้ถูกพบอยู่ในที่เกิดเหตุที่มีประชาชนส่วนหนึ่งถูกสังหารระหว่างเกิดเหตุความไม่สงบในเมืองเม็กทิลา นั่นเป็นเหตุให้เขาถูกตั้งข้อหาฆาตกรรม" ติน หม่อง โซ กล่าว และว่าผู้ต้องสงสัยคนที่ 2 อายุ 21 ปี ถูกตัดสินเมื่อวันศุกร์ (5) จำคุกนาน 7 ปี และรับโทษใช้แรงงานหนักอีก 1 ปี จากการมีส่วนในการสังหาร
ชาวมุสลิมหลายพันคนต้องหลบหนีออกจากบ้านของตนเองในระหว่างเกิดเหตุความรุนแรง ที่ม็อบชาวพุทธวางเพลิงชุมชนที่อยู่อาศัย ทำลายร้านค้า และสุเหร่า
ฝ่ายกลุ่มสิทธิมนุษยชนได้กล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติหน้าที่ล่าช้าในการหยุดการเข่นฆ่า ขณะที่นักเคลื่อนไหวได้เรียกร้องให้ทางการดำเนินการสืบสวนอย่างเต็มที่และลงโทษผู้มีส่วนรับผิดชอบ
จนถึงปัจจุบัน มีชาวมุสลิมอย่างน้อย 10 คน ถูกตัดสินจำคุกจากความผิดร้ายแรงระหว่างเกิดเหตุจลาจล โดยในเดือนพ.ค. ชาวมุสลิม 7 คน ถูกตัดสินจำคุกระหว่าง 2-28 ปี จากการมีส่วนในการฆาตกรรมพระสงฆ์ที่เมืองเม็กทิลาระหว่างเกิดเหตุไม่สงบ และความรุนแรงที่เริ่มต้นขึ้นจากเหตุทะเลาะวิวาทในร้านทอง ศาลได้ตัดสินเมื่อเดือนเม.ย. ให้ชาวมุสลิม 3 คน ที่รวมทั้งเจ้าของร้านทอง จำคุกเป็นเวลา 14 ปี จากการทำร้ายลูกค้าชาวพุทธ
สื่อทางการพม่าระบุว่า มีประชาชน 49 คน อยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีจากข้อหาฆาตกรรม และมีประชาชนอีกเป็นจำนวนมากที่ต้องขึ้นศาลจากการมีส่วนเกี่ยวข้องในความไม่สงบ.