เวียดนามลากคอขึ้นศาลสางทุจริต ผอ.รัฐวิสาหกิจเรือล่มมีโทษถึงประหาร

เอเอฟพี - อดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดินเรือแห่งชาติ วีนาไลน์ (Vinalines) ที่เกิดเหตุอื้อฉาวเกี่ยวกับหนี้สินจำนวนมหาศาลซึ่งส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของนักลงทุน ได้ขึ้นศาลเพื่อเข้ารับการพิจารณาคดีในวันนี้ (12) ในข้อหายักยอกทรัพย์ และฝ่าฝืนกฎระเบียบของรัฐ

รัฐวิสาหกิจแห่งนี้เกือบล้มละลายจากหนี้สินที่มีอยู่เกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานของสื่อในประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรณีอื้อฉาวหลายๆ คดีท่ามกลางกลุ่มรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของชาติ ที่เป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจของประเทศ

นายซเวือง จี ยวุ๋ง อดีตประธานบริษัทวีนาไลน์ ที่หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อเลี่ยงการดำเนินคดี แต่ตอนนี้ได้ถูกจับกุมตัว ได้ปรากฎตัวที่ศาลประชาชนกรุงฮานอยในวันนี้ (12) พร้อมกับเจ้าหน้าที่รายอื่นๆ อีก 9 คน ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นเหตุให้สูญเงินงบประมาณรัฐไป 366,000 ล้านด่ง (17.4 ล้านดอลลาร์)

จำเลย 4 คนจากทั้งหมดรวมทั้งยวุ๋งอาจต้องโทษประหารชีวิตในความผิดยักยอกเงินในการจัดซื้ออู่ลอยน้ำเก่าผุพังจากญี่ปุ่น ซึ่งอัยการระบุว่า อู่ลอยน้ำดังกล่าวเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาเป็นจำนวนมหาศาล

เมื่อเดือน พ.ย. อดีตนายธนาคาร และเพื่อนร่วมธุรกิจถูกตัดสินโทษประหารชีวิตฐานยักยอกเงินจำนวน 25 ล้านดอลลาร์ในคดีอื้อฉาวที่ย้ำให้เห็นถึงความพยายามของทางการที่จะกำจัดการรับสินบน หลังทางการต้องเผชิญกับความไม่พอใจของสาธารณชนในประเด็นดังกล่าว

การพิจารณาคดีในครั้งนี้มีกำหนดสิ้นสุดภายในเวลา 3 วัน

นายยวุ๋งอายุ 56 ปี หลบหนีออกนอกประเทศหลังเหตุอื้อฉาวถูกเปิดโปงในเดือน พ.ค.2555 เมื่อบริษัทวีนาไลน์ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ที่มีจำนวนมากกว่า 1,100 ล้านดอลลาร์

อดีตผู้บริหารรายนี้ถูกจับกุมตัวได้ในเดือน ก.ย.2555 ที่ต่างประเทศ หลังหลบหนีอยู่นาน 3 เดือน

เวียดนาม ถูกจัดให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุดในโลก และการติดสินบนก็เป็นหนึ่งในประเด็นปัญหาสำคัญเช่นกัน

การติดสินบนการจัดการผิดพลาดและหนี้จำนวนมหาศาลของรัฐวิสาหกิจ ถูกมองว่าเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ

และเพื่อที่จะคลายความขุ่นเคืองของสาธารณชนที่ไม่พอใจมากขึ้น ทางการได้ประกาศพิจารณาคดีการทุจริตคอร์รัปชันหลายคดี

การพิจารณคดีเหตุอื้อฉาวของบริษัทวีนาไลน์ครั้งนี้ก็มีขึ้นหลังการพิจารณาตัดสินอดีตผู้บริหารระดับสูง 9 คน ของรัฐวิสาหกิจต่อเรือวีนาชิน (Vinashin) เมื่อปีก่อน ที่อดีตผู้บริหารเหล่านั้นถูกตัดสินจำคุกเป็นเวลานานหลายปีในข้อหาคล้ายกัน.