ศาลฮานอยตัดสินประหารชีวิต ผอ.รัฐวิสาหกิจเดินเรือฐานทุจริต

เอเอฟพี - เวียดนามตัดสินโทษประหารชีวิต อดีตผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดินเรือแห่งชาติ วีนาไลน์ (Vinalines) 2 ราย ในความผิดฐานยักยอกทรัพย์ ในขณะที่ทางการพยายามจะบรรเทาความไม่พอใจของประชาชนที่เพิ่มสูงขึ้นเกี่ยวกับปัญหาทุจริตคอร์รัปชันในประเทศ

รัฐวิสาหกิจแห่งนี้เกือบล้มละลายจากหนี้สินที่มีอยู่เกือบ 3,000 ล้านดอลลาร์ ตามการรายงานของสื่อในประเทศ ซึ่งเป็นหนึ่งในกรณีอื้อฉาวหลายๆ คดี ท่ามกลางกลุ่มรัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของชาติที่เป็นเสาหลักทางเศรษฐกิจของประเทศ

นายซเวือง จี ยวุ๋ง ที่หลบหนีออกนอกประเทศแต่ถูกจับตัวได้ในภายหลัง และนายมาย วัน ฟุ้ค ซีอีโอของบริษัท ถูกตัดสินโทษประหารชีวิตในวันจันทร์ (16) หลังศาลพิจารณาคดีนานเกือบ 4 วัน

“พฤติกรรมของนายยวุ๋ง นั้น นำมาซึ่งผลเสียอย่างร้ายแรง” โง ถิ แอ็งห์ ประธานศาล กล่าว

นายยวุ๋ง อายุ 56 ปี หลบหนีออกนอกประเทศหลังเหตุอื้อฉาวถูกเปิดโปงในเดือน พ.ค.2555 เมื่อบริษัทวีนาไลน์ ผิดนัดชำระหนี้เงินกู้ที่มีจำนวนมากกว่า 1,100 ล้านดอลลาร์ โดยนายยวุ๋ง ถูกจับกุมตัวได้เมื่อเดือน ก.ย.2555 ที่กัมพูชา หลังหลบหนีอยู่ 3 เดือน

โทษประหารชีวิตของนายยวุ๋ง และนายฟุ้ค เกี่ยวข้องกับการจัดซื้ออู่ลอยน้ำเก่าผุพังจากญี่ปุ่น ซึ่งอัยการระบุว่า อู่ลอยน้ำดังกล่าวเสียค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซม และบำรุงรักษาเป็นจำนวนมหาศาล

“การหลบหนีนั้นแสดงให้เห็นว่า นายยวุ๋ง ต้องการที่จะหนีความรับผิดชอบ” ประธานศาลกล่าว และว่า นายยวุ๋ง เป็นตัวการหลักในการยักยอกทรัพย์ครั้งนี้ที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับเงิน จำนวนมากกว่า 1.5 ล้านดอลลาร์

“จำเลยทั้งหมดล้วนเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ แต่กลับสร้างความเสื่อมเสีย จำเป็นที่จะต้องได้้รับโทษอย่างจริงจัง” โง ถิ แอ็งห์ กล่าว

จำเลยอีก 8 คน ซึ่งล้วนเป็นเจ้าหน้าที่ของบริษัทวีนาไลน์ หรือรัฐวิสาหกิจอื่นๆ ถูกตัดสินโทษจำคุกระหว่าง 4-22 ปี จากความผิดฝ่าฝืนกฎระเบียบรัฐ และยักยอกทรัพย์

นายยวุ๋ง กล่าวกับศาลว่า เขาไม่ได้ยักยอกเงิน และถูกตัดสินผิดพลาด แต่อย่างไรก็ตาม นายยวุ๋ง ยอมรับความรับผิดชอบต่อเรื่องหนี้สินของวีนาไลน์ และกล่าวขอโทษต่อพรรค รัฐ รัฐสภา รัฐบาล ประชาชน และพนักงานวีนาไลน์

การพิจารณาคดีในครั้งนี้มีขึ้นหลังการตัดสินอดีตผู้บริหารระดับสูง 9 คน เมื่อปีก่อน ในเหตุอื้อฉาวของรัฐวิสาหกิจต่อเรือ “วีนาชิน” ที่ถูกตัดสินจำคุกเป็นระยะเวลายาวนานในข้อหาคล้ายกัน

ความวิตกเกี่ยวกับกิจการของรัฐเริ่มต้นขึ้นจากเหตุการณ์ที่บริษัทวีนาชินเกือบล้มละลายเมื่อปี 2553 จากปัญหาหนี้สินหลายพันล้านดอลลาร์ โดยโครงการขนส่งทางทะเลที่ประสบปัญหาขาดทุนหลายโครงการถูกโอนมาให้แก่บริษัทวีนาไลน์ ที่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า บริษัทวีนาไลน์ นั้นเตรียมการรับมือไม่ดีพอที่จะจัดการกับโครงการเหล่านี้

เวียดนามถูกจัดให้เป็นหนึ่งในประเทศที่มีการทุจริตคอร์รัปชันมากที่สุดในโลก และการติดสินบนก็เป็นหนึ่งในประเด็นปัญหาสำคัญเช่นกัน

การทุจริตคอร์รัปชัน การจัดการผิดพลาด และหนี้จำนวนมหาศาลของรัฐวิสาหกิจ ถูกมองว่าเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เศรษฐกิจของประเทศตกต่ำ

เมื่อเดือน พ.ย. อดีตนายธนาคาร และเพื่อนร่วมธุรกิจถูกตัดสินโทษประหารชีวิตฐานยักยอกเงินจำนวน 25 ล้านดอลลาร์

แม้เวียดนามไม่ได้เผยจำนวนการประหารชีวิตที่เกิดขึ้นในแต่ละปี แต่กลุ่มสิทธิมนุษยชนระบุว่า มีการประหารชีวิตผู้กระทำผิด 5 ราย ในปี 2554 และมีผู้ที่ได้รับการตัดสินต้องโทษประหารชีวิตอีก 23 คน ที่ส่วนใหญ่เป็นบรรดาผู้ค้ายาเสพติด

การฆาตกรรม การข่มขืน และอาชญากรรมทางการเงินที่รุนแรงบางอย่าง ก็สามารถที่จะได้รับโทษตัดสินประหารชีวิตเช่นกัน.