ซินหวา - สำนักข่าวเวียงจันทน์ไทม์สของลาว รายงานวันนี้ (27) ว่า ลาวได้เริ่มก่อสร้างเขื่อนไฟฟ้ายอดอู ขนาด 450 กิโลวัตต์ โดยมีเป้าหมายที่จะกระจายการพัฒนาในแขวงผ่งสาลี ที่ติดพรมแดนจีน และเวียดนาม ซึ่งมีความได้เปรียบทางภูมิศาสตร์
โรงไฟฟ้าตั้งอยู่ในแขวงผ่งสาลี ทางภาคเหนือที่อยู่ห่างไกลของประเทศ ติดกับมณฑลหยุนหนัน ของจีน และ จ.เดียนเบียน ของเวียดนาม โดยโรงไฟฟ้าแห่งนี้คาดว่าจะสามารถผลิตไฟฟ้าได้ 3 ล้านกิโลวัตต์ชั่วโมงต่อปี
ในวันจันทร์ (24) นายกรัฐมนตรีทองสิง ทำมะวง ได้เดินทางเยี่ยมชมการทำงานที่แขวงผ่งสาลี เรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ประจำแขวงเพิ่มการผลิตเชิงพาณิชย์ และยังแนะนำเจ้าหน้าที่ระบุสาเหตุความยากจนของชาวบ้าน และการจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้นอาจช่วยแก้ไขปัญหาดังกล่าว
ในระหว่างการเยือนแขวงผ่งสาลี นายกรัฐมนตรียังได้ย้ำถึงความสำคัญของที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของแขวง โดยระบุว่า ความได้เปรียบนี้จะช่วยให้การค้าการลงทุนระหว่างแขวงกับประเทศจีน และเวียดนามสะดวกสบายยิ่งขึ้น
รัฐบาลญี่ปุ่น ได้จัดสรรความช่วยเหลือเป็นมูลค่า 17 ล้านดอลลาร์ให้แก่ลาว เพื่อใช้ในการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแห่งนี้ โดยพิธีลงนามข้อตกลงกู้ยืมระหว่างรัฐบาลลาว และญี่ปุ่น มีขึ้นตั้งแต่วันที่ 29 มี.ค.2556
บริษัท TESPESO และบริษัท HASAMA ของญี่ปุ่น ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นที่ปรึกษาโครงการและผู้รับเหมาโครงการตามลำดับ และนอกจากการก่อสร้างโรงไฟฟ้าแล้ว ยังรวมถึงการก่อสร้างโครงข่ายส่งกระแสไฟฟ้าที่คาดว่าใช้เวลาก่อสร้าง 16 เดือน จึงจะแล้วเสร็จ
ผู้อำนวยการสถาบันพลังงานทดแทน ระบุว่า โรงไฟฟ้าแห่งนี้จะผลิตกระแสไฟฟ้าให้แก่ชาวลาว 658 ครอบครัว ที่อาศัยอยู่ใน อ.ยอดอู แขวงผ่งสาลี และการขยายพื้นที่การส่งกระแสไฟฟ้าในแขวงจะช่วยกระตุ้นการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม พลังงานจะช่วยส่งเสริมการผลิต สร้างรายได้และลดความยากจน ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
ปัจจุบัน ครอบครัวชาวลาวในแขวงผ่งสาลี มีเพียง 43% ที่มีไฟฟ้าใช้ โดยรายงานของสื่อท้องถิ่นระบุว่า โครงการเขื่อนไฟฟ้าแห่งนี้จะช่วยให้แขวงประหยัดค่าไฟฟ้าจากต่างชาติถึง 270,000 ดอลลาร์ต่อปี.