.
ASTVผู้จัดการออนไลน์ – การแพร่ระบาดของโรคไข้เลือดออกในลาวปีนี้นับว่ารุนแรงที่สุดในรอบหลายสิบปี โดยพบผู้ป่วยถึง 33,830 ราย มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว 76 คน และยังไม่มีวี่แววว่าการแพร่ระบาดจะลดลง ถึงแม้ทางการจะกล่าวว่าสามารถควบคุมและลดอัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยได้แล้วก็ตาม
มีการเปิดเผยตัวเลขความเสียหายเหล่านี้ระหว่างการประชุมคณะรัฐมนตรีประจำเดือนกรกฎาคมที่จัดขึ้นในนครเวียงจันทน์ระหว่างวันที่ 1-2 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีการพิจารณาปัญหาเฉพาะหน้ากับปัญหาระยะยาวหลายปัญหา สื่อของทางการรายงาน
“การแพร่ระบาดของไข้ยุงลาย (ไข้เลือดออก) ปีนี้ร้ายแรงกว่าหลายปีที่ผ่านมา จนถึงปัจจุบันยังไม่มีท่าทีว่าจะลดลง ผู้ติดเชื้อยังคงมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ..” หนังสือพิมพ์เวียงจันทน์ใหม่อ้างรายงานของรัฐบาล ซึ่งพิจารณาปัญหานี้เป็นเรื่องเร่งด่วนในการประชุมดังกล่าว
“รัฐบาล กระทรวงสาธารณสุขและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้มีความพยายามระดมสรรพกำลังกับความสามารถเพื่อควบคุมและแก้ไขและต่อต้านด้วยมาตรการต่างๆเช่น ด้านนิติกรรมการดูแลรักษา การป้องกัน การประสานงานด้านงบประมาณและการจัดตั้งกำลังคนลงสู่พื้นที่ โดยมีศูนย์กำกับควบคุมทั้งในส่วนกลางและท้องถิ่น ทำให้อัตราการติดเชื้อและการเสียชีวิตของผู้ติดเชื้อสามารถควบคุมได้โดยพื้นฐาน.. “ สื่อของทางการรายงาน
อย่างไรก็ตามที่ประชุมคณะรัฐมนตรียังเห็นว่าการเตรียมความพร้อมต่างๆ เพื่อต่อต้านและสกัดการแพร่ระบาดของโรคนี้ยังไม่เพียงพอ ยังไม่ได้สร้างขบวนการเพื่อสร้างความเข้าใจในระดับพื้นฐานของสังคมอย่างกว้างขวางพอ ซึ่งทุกครอบครัวชาวลาวจะต้องตื่นตัวมีส่วนร่วมในการสกัดกั้น เวียงจันทน์ใหม่กล่าว
นายกรัฐมนตรีทองสิง ทำมะวง ได้กำชับให้กระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวง องค์การและหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เพิ่มความเอาใจใส่การแก้ปัญหาไข้เลือดออกและโรคอื่นๆ ในหน้าฝนนี้อย่างจริงจัง
หน่วยงานต่างๆ เหล่านี้ “ต้องพยายามต่อสู้จำกัดการแพร่ระบาดและการเสียชีวิตจากโรคไข้เลือดออก ให้ลดลงไปเรื่อยๆ” สื่อของทางการรายงาน
ตารมรายงานก่อนหน้านี้โดยสื่อของทางการ การแพร่ระบาดของไข้เลือดออกแผ่ลามไปทุกแขวง (จังหวัด) ทั่วประเทศ รวมทั้งในนครเวียงจันทน์ด้วย แขวงจำปาสักทางตอนใต้สุดซึ่งมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศ มีจำนวนผู้ป่วยมากที่สุดและจำนวนผู้เสียชีวิตมากที่สุด.