xs
xsm
sm
md
lg

รมว.ต่างประเทศสหรัฐฯ เยือนสมรภูมิเก่า กระชับสัมพันธ์เวียดนาม

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

<br><FONT color=#000033>จอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวสุนทรพจน์ในที่ประชุมนักธุรกิจสหรัฐฯ และเวียดนาม ในนครโฮจิมินห์ วันที่ 14 ธ.ค. แคร์รี่อยู่ในระหว่างการเดินทางเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการเพื่อกระชับความสัมพันธ์และเรียกร้องให้เวียดนามปฏิรูปเศรษฐกิจและปรับปรุงประเด็นปัญหาสิทธิมนุษชน. --Agence France-Presse/Le Quang Nhat.</font></b>

เอเอฟพี - จอห์น แคร์รี่ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เดินทางเยือนพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงของเวียดนาม ที่ครั้งหนึ่งแคร์รี่เคยลาดตระเวนเมื่อครั้งเป็นผู้บังคับการเรือปืนในสงคราม อีกครั้งในวันนี้ (15) เพื่อสำรวจการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในฐานะนักการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ

แคร์รี่ ที่เดินทางถึงนครโฮจิมินห์เมื่อวันเสาร์​ (14) ในการเดินทางที่มีเป้าหมายจะกระชับความสัมพันธ์กับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้โดยสารเรือผ่าน จ.ก่าเมา ที่ครั้งหนึ่งเคยเป็นที่มั่นของกองกำลังเวียดกง เจ้าหน้าที่สถานกงสุลสหรัฐฯ ในเวียดนาม ระบุ

แคร์รี่ เคยร่วมรับใช้ชาติในกองทัพเรือสหรัฐฯ ระหว่างปี 2509-2513 ได้รับเหรียญกล้าหาญ “เพอร์เพิล ฮาร์ต” (Purple Heart) 3 เหรียญ จากการบาดเจ็บในการรบ และเหรียญกล้าหาญ Bronze Star และ Silver Star ได้เคลื่อนไหวทางการเมืองด้วยแรงบันดาลใจจากประสบการณ์การทำหน้าที่ลาดตระเวนทางน้ำด้วยเรือเร็วสหรัฐฯ ในช่วงสงครามเวียดนาม มีกำหนดที่จะตรวจสอบโครงการการเกษตร และดูผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศต่อระบบนิเวศของภูมิภาคนี้

เจ้าหน้าที่อาวุโสจากกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวว่า พื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขงเป็นสถานที่ที่มีความสัมพันธ์ร่วมกันทางประวัติศาสตร์ และอนาคตของความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-เวียดนาม

“ประวัติศาสตร์นั้นเป็นที่รู้จักกันดี ซึ่งรัฐมนตรีแคร์เองก็เคยทำหน้าที่ในพื้นที่นี้ แต่อนาคตนั้นอยู่ในความร่วมมือระหว่างสหรัฐฯ และเวียดนามในประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ” เจ้าหน้าที่คนเดิมกล่าว

ในวันเสาร์ (14) แคร์รี่ ได้กล่าวยกย่องความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศที่เคยเป็นศัตรูกันมาก่อนว่ามีความแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม ในการเริ่มต้นการเยือนเวียดนามอย่างเป็นทางการครั้งแรกในฐานะเจ้าหน้าที่ทางการทูตระดับสูงของสหรัฐฯ

รัฐบาลสหรัฐฯ กระตือรือร้นที่จะเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นที่มีต่อภูมิภาคเอเชีย หลังนโยบายมุ่งเน้นเอเชียนั้นได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์การปิดทำงานรัฐบาลสหรัฐฯ เมื่อช่วงต้นปี ที่ทำให้ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ต้องยกเลิกการเดินทางเยือนภูมิภาคนี้ เปิดทางให้จีนเป็นศูนย์กลางในการประชุมของภูมิภาค ซึ่งเต็มไปด้วยปัญหาความตึงเครียดทางการเมือง และดินแดน ที่รวมทั้งข้อพิพาททางทะเลระหว่างจีน และเพื่อนบ้านหลายประเทศรวมทั้งเวียดนาม

แคร์รี่ มีกำหนดจะเข้าพบกับนายกรัฐมนตรีเหวียน เติ๋น ยวุ๋ง และฝ่าม บิ่ง มิงห์ รัฐมนตรีต่างประเทศเวียดนาม ในกรุงฮานอย วันจันทร์ (16) เพื่อหารือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ทางการค้า และความมั่นคง อันเป็นส่วนหนึ่งในการเดินทางเยือนเวียดนามเป็นเวลา 3 วัน

ในวันเสาร์ (14) แคร์รี่ กล่าวถึงความทรงจำว่า เขาจดจำช่วงเวลาของเขาในสงครามในเวียดนามใต้ได้อย่างชัดเจน โดยอธิบายถึงช่วงเวลาที่นั่งดื่มอยู่บนชั้นดาดฟ้าของโรงแรมเร็กซ์ ในไซ่ง่อน เมื่อปี 2512

“ผมไม่สามารถบอกคุณได้ว่ามันน่าประหลาดขนาดไหนที่นั่งดื่มเบียร์อยู่ชั้นบนสุดของโรงแรม ขณะที่รอบๆ ตัวคุณนั้น คุณจะเห็น และได้ยินแต่เสียงสงคราม” แคร์รี่ กล่าว

หลังจากทำหน้าที่ในสงคราม 2 ครั้ง แคร์รี่ กลายเป็นนักรณรงค์ต่อต้านสงคราม หลังสงครามสิ้นสุดลงในปี 2518 แคร์รี่ เดินทางกลับมาเยือนเวียดนามครั้งแรกพร้อมประธานาธิบดีบิล คลินตัน ในปี 2543

หลังเสร็จสิ้นการเยือนเวียดนามครั้งนี้ แคร์รี่ มีกำหนดจะเดินทางเยือนฟิลิปปินส์ พันธมิตรยาวนานของสหรัฐฯ เป็นที่หมายต่อไป
<br><FONT color=#000033>จอห์น แคร์รี่ (กลาง) ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงโครงการด้านพลังงานในเวียดนาม ระหว่างผู้แทนของบริษัท GE Power & Water (ซ้าย) และบริษัท Cong Ly Construction-Trade-Tourism Ltd. ของเวียดนาม (ซ้าย)  ที่นครโฮจิมินห์ วันที่ 14 ธ.ค.  --Agence France-Presse/Le Quang Nhat.</font></b>
<br><FONT color=#000033>จอห์น แคร์รี่ (ขวา) ยืนฟังนายหวู มิงห์ จิ ผู้อำนวยการบริษัทไมโครซอฟท์เวียดนาม ขณะเยี่ยมชมบูธของบริษัทสหรัฐฯ ที่ตั้งอยู่ในเวียดนาม นอกรอบการประชุมนักธุรกิจสหรัฐฯ ในนครโฮจิมินห์ วันที่ 14 ธ.ค.  --Agence France-Presse/Le Quang Nhat.</font></b>
กำลังโหลดความคิดเห็น