ตราด - กงสุลใหญ่ นครโฮจิมินห์ นำคณะกรรมการประชาชน และผู้บริหาร 5 จังหวัดของประเทศเวียดนาม เข้าพบและหารือด้านการค้า-การลงทุนกับรองผู้ว่าฯ จังหวัดตราด
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ห้องพลอยแดง ศาลากลางจังหวัดตราด นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วย นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกันการต้อนรับ น.ส.พรรณพิมล สุวรรณพงศ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ที่นำคณะประธานคณะกรรมการประชาชน และผู้บริหารจังหวัด 5 แห่ง ประกอบด้วย นครโฮจิมินห์ นครเกิ่นเทอ จังหวัดก่าเมา จังหวัดเกียนยาง และจังหวัดเตียงยาง รวมกว่า 30 คน ที่เดินทางศึกษาเส้นทาง R10 (ถนนเลียบชายฝั่งทะเลไทย-กัมพูชา-เวียดนาม) ที่เดินทางมาเพื่อหารือและเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทย และเวียดนาม
น.ส.พรรณพิมล สุวรรณพงศ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ กล่าวว่า การเดินทางศึกษาดูงานในเส้นทาง R10 ซึ่งเป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจทางตอนใต้ระหว่างไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ที่มีระยะทางประมาณ 900 กิโลเมตร ในครั้งนี้เป็นความประสงค์ของ 5 จังหวัดของผู้บริหารเวียดนาม เพื่อศึกษาลู่ทางทางการค้า และความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม ความต้องการกับทางจังหวัดตราด คณะผู้ศึกษาดูงานทั้งหมดต่างมีความต้องการหลัก 3 ด้าน คือ การเชื่อมโยงการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเปิดตลาดทัวร์ระหว่างหมู่เกาะช้างจังหวัดตราด กับเกาะฟูก๊วก เมืองฮาเตียง จังหวัดเกียนยาง
นอกจากนี้ ยังมีความต้องการในการเชื่อมโยงการค้าโดยตรงกับจังหวัดตราดทั้งผ่านเส้นทางสาย R10 และเส้นทางเดินเรือ ซึ่งจังหวัดเวียดนามทางตอนใต้มีท่าเทียบเรือขนาดใหญ่อยู่หลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือทางวิชาการ ในเรื่องของการพัฒนาทักษะด้านภาษาระหว่างกันทั้งภาษาไทย และเวียดนาม เพื่อขจัดอุปสรรคในการสื่อสารของคนรุ่นใหม่ระหว่างกัน
ด้านนายพยัคฆพันธ์ กล่าวว่า ยินดีต้อนรับท่านกงสุลใหญ่ คณะผู้บริหารและภาคประชาชนของ 5 จังหวัดในลุ่มแม่น้ำโขงที่เดินทางมาร่วมสำรวจเส้นทางสาย R10 (Route Southern Constal Economic Corridor) ทั้งนี้ จังหวัดตราดเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทั้งในด้านเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ มีเกาะกว่า 50 เกาะ มีผลผลิตทางการเกษตร ทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง สับปะรด และเป็นแหล่งเลี้ยงสัตว์น้ำโดยเฉพาะกุ้งขาว การมีท่าเรือเพื่อการส่งออกและส่งสินค้าไปยังกัมพูชา และเวียดนาม มีมูลค่าปีละมากกว่า 23,000 ล้านบาท
โดยเฉพาะตราด ยังเป็นศูนย์กลางในการขนส่งสินค้าทางน้ำ และในอนาคตการขนส่งทางบกโดยใช้เส้นทาง R10 จะเติบโตสูงขึ้น ซึ่งจะเกิดผลดีต่อการพัฒนาธุรกิจ การค้า การท่องเที่ยวระหว่างกันในจังหวัดตราด และในจังหวัดตอนใต้ของเวียดนาม ซึ่งครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นรูปธรรม และ จ.ตราด จะได้จัดคณะของ จ.ตราด เดินทางไปที่ 4 จังหวัดในเวียดนามตอนใต้ด้วย
วันนี้ (21 พ.ค.) ที่ห้องพลอยแดง ศาลากลางจังหวัดตราด นายพยัคฆพันธุ์ โพธิ์แก้ว รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมด้วย นายณรงค์ ธีรจันทรางกูร รองผู้ว่าราชการจังหวัดตราด พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ ร่วมกันการต้อนรับ น.ส.พรรณพิมล สุวรรณพงศ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ที่นำคณะประธานคณะกรรมการประชาชน และผู้บริหารจังหวัด 5 แห่ง ประกอบด้วย นครโฮจิมินห์ นครเกิ่นเทอ จังหวัดก่าเมา จังหวัดเกียนยาง และจังหวัดเตียงยาง รวมกว่า 30 คน ที่เดินทางศึกษาเส้นทาง R10 (ถนนเลียบชายฝั่งทะเลไทย-กัมพูชา-เวียดนาม) ที่เดินทางมาเพื่อหารือและเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างไทย และเวียดนาม
น.ส.พรรณพิมล สุวรรณพงศ์ กงสุลใหญ่ ณ นครโฮจิมินห์ กล่าวว่า การเดินทางศึกษาดูงานในเส้นทาง R10 ซึ่งเป็นเส้นทางสายเศรษฐกิจทางตอนใต้ระหว่างไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ที่มีระยะทางประมาณ 900 กิโลเมตร ในครั้งนี้เป็นความประสงค์ของ 5 จังหวัดของผู้บริหารเวียดนาม เพื่อศึกษาลู่ทางทางการค้า และความร่วมมือระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม
อย่างไรก็ตาม ความต้องการกับทางจังหวัดตราด คณะผู้ศึกษาดูงานทั้งหมดต่างมีความต้องการหลัก 3 ด้าน คือ การเชื่อมโยงการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการเปิดตลาดทัวร์ระหว่างหมู่เกาะช้างจังหวัดตราด กับเกาะฟูก๊วก เมืองฮาเตียง จังหวัดเกียนยาง
นอกจากนี้ ยังมีความต้องการในการเชื่อมโยงการค้าโดยตรงกับจังหวัดตราดทั้งผ่านเส้นทางสาย R10 และเส้นทางเดินเรือ ซึ่งจังหวัดเวียดนามทางตอนใต้มีท่าเทียบเรือขนาดใหญ่อยู่หลายแห่ง นอกจากนี้ ยังมีความร่วมมือทางวิชาการ ในเรื่องของการพัฒนาทักษะด้านภาษาระหว่างกันทั้งภาษาไทย และเวียดนาม เพื่อขจัดอุปสรรคในการสื่อสารของคนรุ่นใหม่ระหว่างกัน
ด้านนายพยัคฆพันธ์ กล่าวว่า ยินดีต้อนรับท่านกงสุลใหญ่ คณะผู้บริหารและภาคประชาชนของ 5 จังหวัดในลุ่มแม่น้ำโขงที่เดินทางมาร่วมสำรวจเส้นทางสาย R10 (Route Southern Constal Economic Corridor) ทั้งนี้ จังหวัดตราดเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพทั้งในด้านเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของประเทศ มีเกาะกว่า 50 เกาะ มีผลผลิตทางการเกษตร ทั้งทุเรียน เงาะ มังคุด ลองกอง สับปะรด และเป็นแหล่งเลี้ยงสัตว์น้ำโดยเฉพาะกุ้งขาว การมีท่าเรือเพื่อการส่งออกและส่งสินค้าไปยังกัมพูชา และเวียดนาม มีมูลค่าปีละมากกว่า 23,000 ล้านบาท
โดยเฉพาะตราด ยังเป็นศูนย์กลางในการขนส่งสินค้าทางน้ำ และในอนาคตการขนส่งทางบกโดยใช้เส้นทาง R10 จะเติบโตสูงขึ้น ซึ่งจะเกิดผลดีต่อการพัฒนาธุรกิจ การค้า การท่องเที่ยวระหว่างกันในจังหวัดตราด และในจังหวัดตอนใต้ของเวียดนาม ซึ่งครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่เป็นรูปธรรม และ จ.ตราด จะได้จัดคณะของ จ.ตราด เดินทางไปที่ 4 จังหวัดในเวียดนามตอนใต้ด้วย