ASTVผู้จัดการออนไลน์ - ทางการพม่าเร่งก่อสร้างระบบสาธารณูปโภครองรับการท่องเที่ยวเมืองมะละแหม่ง กับเมาะตะมะ ในขณะกำลังจะมีเที่ยวบินจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ของไทยปลายปีนี้ เมืองมะละแหม่งยังมีศักยภาพอย่างสูงในการดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวไทย ในฐานะเป็นบ้านของ “มะเมียะ” สาวแม่ค้าชาวมอญในตำนานเล่าขานของฝ่ายไทย
ดร.มินเนว์โซ มุขมนตรีแห่งรัฐมอญ เปิดเผยเรื่องนี้ซึ่งรวมอยู่ในแผนการพัฒนาเขตเนินเมาะตะมะให้เป็นเขตท่องเที่ยวที่จะประกอบด้วย โซนโรงแรม โซนร้านอาหาร และบริการต่างๆ รวมทั้งพัฒนาเขตเมืองเก่าเมาะตะมะวารี (Mottamawari) ที่อยู่อีกฝั่งหนึ่งของแม่น้ำให้เป็นจุดท่องเที่ยวอีกแห่ง
เมืองมะละแหม่ง หรือ “เมาะลำไย” (Mawlamyine) ในภาษาทางการพม่านั้น ถูกกำหนดให้เป็นปลายทางตะวันตกสุดของโครงการถนนสายระเบียงเศรษฐกิจตะวันออก-ตะวันตก ของธนาคารพัฒนาเอเชีย หรือเอดีบี ที่มีปลายสุดอีกฟากหนึ่งอยู่ที่นครด่าหนัง ในเวียดนาม ถนนสายนี้ตัดผ่านดินแดนลาว และไทย ไปสุดทางที่ด่านแม่สอด-เมียวดี
ทางฝั่งพม่ากำลังก่อสร้างส่วนที่เหลือของทางหลวงสายเศรษฐกิจนี้ ในขณะที่สันติภาพเริ่มกลับสู่ดินแดนส่วนนี้ของประเทศ
“มะเมียะ” ได้ปรากฏอยู่ในเรื่องเล่าของเมืองเชียงใหม่ราว 150 ปีก่อน เมื่อครั้งยังแยกการปกครองกับราชอาณาจักรสยาม เมื่อเจ้าครองนครส่งราชบุตรไปศึกษาในโรงเรียนคาทอลิกแห่งหนึ่งที่เมาะตะมะ ราชบุตรหนุ่มไปพบรักสาวแม่ค้าชื่อมะเมียะ ที่ “งามล้ำเหมือนเดือนส่องแสง ใครๆ ก็แย่งหลงฮักสาว..” เช่นที่ปรากฏในเพลงของจรัล มโนเพชร ศิลปินเพลงคำเมืองผู้ล่วงลับ
เจ้าราชบุตรซึ่งก็คือ เจ้าน้อยศุขเกษม ณ เชียงใหม่ นั้นมีตัวตนอยู่จริง แต่มะเมียะ เป็นบุคคลที่เล่าขานกันมาโดยผู้เขียนเรื่องนี้อ้างว่าได้รับการถ่ายทอดจากชายาของเจ้าศุขเกษม ที่ระบุว่า เจ้าชายพระองค์นี้ทรงคิดถึงแต่หญิงสาวที่ชื่อมะเมียะ ก่อนตรอมพระทัยจนถึงแก่ทิวงคต
หลายปีก่อนหน้านี้ ได้มีคณะนักวิชาการ ทำการศึกษาวิจัยเพื่อหาข้อเท็จจริง ซึ่งปรากฏว่า ไม่พบหญิงสาวที่ชื่อมะเมียะ ทั้งในตำนานเมืองเชียงใหม่ และที่เมืองมะละแหม่ง จึงทำไห้เข้าใจกันว่าเป็นเพียงชื่อที่ตั้งขึ้นในเรื่องเล่า
อย่างไรก็ตาม คณะวิจัยได้พบแม่ชีรูปหนึ่งซึ่งบวชตลอดชีวิตที่วัดแห่งหนึ่งในเมืองมะละแหม่ง และไม่ยอมเปิดเผยตัวตน เป็นแม่ชีที่มีฐานะดี หน้าตาดีแต่ไม่ยอมให้ข้อมูลใดๆ เกี่ยวกับอดีต และเมื่อถูกถามว่า ออกบวชเนื่องจากผิดหวังในความรักใช่หรือไม่ ก็จะเดินหนีไปทุกครั้ง แม่ชีถึงแก่กรรมในปี 2505 รวมอายุ 75 ปี
เรื่องเล่ายังมีอีกว่า มีการพบแหวนของเจ้าน้อยศุขเษม ที่วัดซึ่งอาจจะเป็นหลักฐานที่ช่วยยืนยันเกี่ยวกับการมีตัวตนของ “มะเมียะ”
มุขมนตรีแห่งรัฐมอญกล่าวว่า เที่ยวบินจาก อ.แม่สอด จะเริ่มให้บริการในเดือน ก.ย.นี้ ซึ่งนอกจากตำนานเกี่ยวกับ “แม่ค้า” คนนี้แล้ว ทั้งเมาะตะมะ และมะละแหม่ง ยังเป็นแหล่งแห่งธรรมะ มีสถานที่เก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ และศาสนาเป็นจำนวนมาก เชื่อว่าจะได้รับความสนใจจากชาวไทยที่ส่วนใหญ่เป็นชาวพุทธเช่นเดียวกัน
“ประวัติศาสตร์กล่าวว่า ที่นี่เป็นสถานที่ที่เจ้าชายชาวไทยได้พบรักและแต่งงานกับสาวแม่ค้าชาวมอญ มัน (เรื่องนี้) อาจจะดึงดูดผู้มาเยือนจากประเทศไทยได้ เรายังมีแหล่งทางประวัติศาสตร์และวัดวาอารามเก่าแก่ ซึ่งอาจจะทำให้ผู้ศึกษาประวัติศาสตร์สนใจกันมาก” ดร.มินเนว์โซกล่าวกับหนังสือพิมพ์เดลี่อีเลฟเว่น
อย่างไรก็ตาม มุขมนตรีแห่งรัฐมอญ ไม่ได้เปิดเผยเกี่ยวกับมาตรการที่จะใช้ตำนานรักของมะเีมียะ เพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวดังกล่าว
2
"มะเมียะ" ฉบับมินิ ม.6 YouTube.Com
2
3
4
มะละแหม่ง อยู่ห่างจากกรุงย่างกุ้งไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ราว 175 กิโลเมตร เป็นเมืองใหญ่อันดับ 3 ของประเทศ ถัดจากกรุงเก่า กับนครมัณฑะเลย์ ในขณะที่แม่สอดอยู่ห่างออกไปราว 110 กม. ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และเมืองทวายอยู่ไกล 260 กม.เศษลงไปทางใต้
ที่นี่เป็นเมืองเอกของรัฐมอญ อังกฤษเคยเลือกเป็นเมืองหลวงแห่งแรกเมื่อเริ่มยุคอาณานิคม อาคารสถานที่ราชการ โบสถ์ รวมทั้งหอนาฬิกาตั้งแต่สมัยอาณานิคมยังคงอยู่
ถึงแม้ว่าจะเป็นเมืองที่มีความสวยงาม และรุ่มรวยด้วยภูมิหลังทางประวัติศาสตร์ แต่มะละแหม่งถูกโดดเดี่ยวจากการท่องเที่ยวมายาวนาน จนกระทั่งปี 2548 เมื่อเปิดใช้สะพานสาละวิน (Thalwin) ที่สร้างข้ามแม่น้ำสาละวิน แม่น้ำแยง กับแม่น้ำอัตตะยัน เชื่อมเมาะตะมะ กับมะละแหม่งเข้าด้วยกัน
สะพานรถยนต์มีความความยาว 3 กม. แต่สะพานรถไฟยาวเกือบ 5 กม. นับเป็นสะพานยาวที่สุดในประเทศ และกลายเป็น “แลนด์มาร์ก” ของที่นั่น
เจ้าหน้าที่ของสายการบินนกแอร์ นำคณะไปเยือนมะละแหม่งเดือน ก.ย.ปีที่แล้ว เจรจาตระเตรียมการเปิดเที่ยวบินเชื่อม อ.แม่สอด ที่ใช้เวลาบินเพียงประมาณ 20 นาที และค่าตั๋วโดยสารไปกลับราว 80 ดอลลาร์ เดลี่อีเลฟเว่นกล่าว
คณะบริหารเมืองเมาะตะมะ-มะละแหม่ง กำลังเร่งจัดทำป้ายบรรยายเป็นภาษาอังกฤษ เพื่อนำไปติดตั้งตามจุดท่องเที่ยว และเส้นทางต่างๆ หลายหน่วยงาน รวมทั้งแผนกโรงแรม และการท่องเที่ยว แผนกผจญเพลิง แผนกสาธารณสุขทำงานกันเต็มที่ กำลังมีการก่อสร้างโรงแรม โรงเตี๊ยม และโมเต็ลเป็นจำนวนมาก
เขตเนินเมาะตะมะ เป็นเนินเขาที่ไม่สูงนัก แต่ให้ทัศนียภาพที่งดงามของแม่น้ำกับทะเลที่อยู่ไกลออกไป จึงเป็นทำเลที่ดีมากสำหรับการสร้างโรงแรม ทางการรัฐมอญประสานอย่างใกล้ชิดกับกระทรวงการโรงแรมและการท่องเที่ยวของรัฐบาลกลาง เพื่อดำเนินการในเรื่องนี้ ดร.เนว์โซกล่าว.
.
5
6
7
8